“บิ๊กโจ๊ก” ยันบริสุทธิ์ ยังไม่ถูกแจ้งข้อหา-ยินดีให้สอบข้อมูล

กรุงเทพฯ 22 ก.พ. – “บิ๊กโจ๊ก” ยันบริสุทธิ์ 100% ยังไม่ถูกแจ้งข้อหา ม.157-149 ยินดีให้สอบข้อมูล แม้ปมเส้นเงินโยงเว็บพนัน พร้อมฝากตำรวจอย่าเหิมเกริม ออฟไซด์ ขอให้แข่งกันทำงาน ตำรวจเบอร์ใหญ่อย่าเป็นอีแอบ ออกชี้มาแจงบ้าง


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงกรณีที่วานนี้ปรากฏข่าวว่าถูกตำรวจสอบสวนกลางร้องทุกข์กล่าวโทษในความผิดตามมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กับมาตรา 149 เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ เนื่องจากมีพยานหลักฐานเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์นั้น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เริ่มจากการตั้งข้อสังเกตเรื่องการขอออกหมายค้นบ้านตนเองที่มีการปกปิดข้อเท็จจริงต่อศาลว่าเป็นบ้านของนายตำรวจระดับสูง รวมถึงการออกหมายจับลูกน้อง 8 คน ที่ไม่ระบุยศ และไปขออนุมัติหมายค้นและหมายจับจากศาลอาญากรุงเทพใต้ แทนที่จะเป็นศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มิฉะนั้นศาลจะไม่อนุมัติ แต่กรณีดังกล่าวศาลได้พิจารณาแล้วว่าเป็นการออกหมายโดยชอบตามข้อมูลที่ได้รับ รวมทั้งกรณีที่เร็ว ๆ นี้มีกระแสข่าวว่าตำรวจไซเบอร์ได้ออกหมายเรียกให้ตนมารับทราบข้อกล่าวหานั้น ล้วนเป็นกระบวนการจงใจทำให้ตัวเองเสื่อมเสียชื่อเสียงเพื่อเป้าหมายใหญ่ในระยะยาว ยืนยันว่า ตนเองยังไม่ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นเพียงการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ ป.ป.ช.ที่เป็นการตั้งข้อสังเกตเท่านั้น ต้องมีกระบวนการพิจารณาว่ามีมูลหรือไม่ โดยจะต้องแสวงหาพยานหลักฐานและไต่สวน หากมีมูลจึงจะมีการแจ้งข้อกล่าวหา และตนเองก็เป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีการชี้มูลความผิด พร้อมขอให้สื่อแก้ไข มิฉะนั้นจะดำเนินการตามกฎหมาย


ขณะที่สำนวนคดีนี้ได้ส่งไปที่ ป.ป.ช. ตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2566 เชื่อว่าที่ ป.ป.ช.ไม่ส่งสำนวนกลับมาให้ตำรวจ เพราะ ป.ป.ช.รู้ว่าเป็นการทะเลาะกันเองของตำรวจจึงไม่อยากยุ่ง ดังนั้นการแถลงว่าจะขอเอาสำนวนมาให้ตำรวจโดยอ้างว่าได้ดำเนินการไปมากแล้วนั้น ตนเองเป็นใคร ยศอะไร ถือเป็นการกดดัน ดูถูกการทำงานของ ป.ป.ช.หรือไม่ ซึ่งระบบการไต่สวนของ ป.ป.ช. ที่เป็นหน่วยงานตรวจสอบทุจริตโดยตรง มีความรอบคอบ รัดกุมมากกว่าระบบกล่าวหาของตำรวจ อีกทั้งตามระเบียบแล้วก็ต้องยึดสำนวนที่ ป.ป.ช.ไต่สวนเป็นหลัก ไม่มีระเบียบที่กำหนดว่าให้ยึดสำนวนของตำรวจเป็นหลัก

อีกทั้งการดำเนินคดีที่มีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 300 ล้านบาทนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสำนวนจะดำเนินการโดยหน่วยงานใดตนเองก็ไม่ขัดข้อง ขอเพียงแต่ขอให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกระบวนการ พร้อมขอเตือนให้เจ้าหน้าที่รุ่นใหม่ทำคดีด้วยความระมัดระวัง ตรวจสอบว่ามีอำนาจในการดำเนินการหรือไม่ มิฉะนั้นจะติดคุกกันหมด เพราะตนเองได้ขุดหลุมพรางไว้แล้ว รวมทั้งเรื่องสำนวนการสอบสวนที่ถูกเปิดเผยนั้นก็เป็นเรื่องที่ผิดพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารเรื่องการรักษาความลับทางราชการด้วย

ขณะที่การชี้แจงเรื่องเส้นทางการเงินที่มีการพาดพิงว่าไปเชื่อมโยงกับบัญชีม้าเว็บไซต์พนันออนไลน์นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่าไม่มีเส้นทางการเงินจากบัญชีม้าเชื่อมโยงไปยังตนเองแม้แต่เส้นเดียว แต่หากลูกน้องกระทำผิดก็ต้องตรวจสอบและให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ถึงแม้ก่อนหน้านี้ตนเองจะเคยกล่าวว่าเป็นไปไม่ได้ที่ลูกน้องกระทำผิดแล้วหัวหน้าจะไม่รู้เรื่องนั้น ยอมรับว่าตนเองไม่สามารถรับรู้ได้ทุกเรื่องว่าผู้ใต้บังคับบัญชามีพฤติการณ์อย่างไร แม้จะทำงานด้วยกันมาเป็น 10 ปี ซึ่งกรณีของ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ ที่พบเส้นทางการเงินจากเว็บพนันเชื่อมโยงไปยังบัญชีม้าที่ พ.ต.ท.คริษฐ์ ถือและใช้ โดยพบโอนเงิน ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันไปยังญาติของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่นั้น ก็ได้มีการตำหนิไปแล้ว แต่ไม่มีอำนาจลงโทษเนื่องจากไม่ใช้ผู้บังคับบัญชาโดยตรง และตนเองก็มีผู้ใต้บังคับบัญชาหลายคนที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่องการเงิน และขณะนี้ก็ถูกดำเนินคดีเรื่องบัญชีม้าแล้ว แต่หากใช้บัญชีม้าจริงก็ต้องรับผิดไป แต่ก็ต้องไปตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์อย่างไร และยืนยันไม่มีการตัดตอนใคร ว่าไปตามจริง


กรณีที่ตำรวจจะเรียกแม่ตัวเองมาสอบปากคำเพิ่มเติมก็ยินดี รวมทั้งกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ตนเองนำเงินไปทำบุญจำนวนมากเพื่อเลี่ยงภาษีนั้นไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่ามีการทำบุญหลาย 10 วัด ชี้แจงได้หมดไม่มีการเลี่ยงภาษี ส่วนประเด็นเรื่องการร่ำรวยผิดปกตินั้นก็ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบแล้วทุกปี

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวอีกว่า ยังมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกหลายคนที่รับเงินจากเว็บไซต์พนันออนไลน์กว่า 100 ล้านบาท และใช้เงินจากบัญชีม้า ทำไมไม่ไปดำเนินการ เหตุใดจึงพุ่งเป้ามาที่ตนเองคนเดียว มาปัดแข้งปัดขากันอยู่ทำไม ซึ่งหากมอบหมายให้ตนเองปราบเว็บพนันออนไลน์ มั่นใจว่า 7 วัน ก็สามารถปราบได้หมด พร้อมฝากไปถึงตำรวจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าให้แข่งกันทำงานดีกว่า อย่าอิจฉาริษยา เรื่องรุ่นไม่เกี่ยว ยศตำแหน่งขึ้นอยู่กับบุญวาสนาของแต่ละคน ซึ่งบางคดีไม่มีคนทำ ตนเองต้องทำแทนจนมีผลงานมากมาย เชื่อว่าหากตนเองลงสมัคร ส.ส.ภาคอีสาน ก็ได้รับเลือกอย่างแน่นอน

พร้อมขอเรียกร้องให้นายตำรวจระดับ พล.อ. หรือ พล.ท. เป็นผู้ออกมาให้ข้อมูลบ้าง อย่าเป็นอีแอบ ขอให้เอาเบอร์ใหญ่ ๆ ออกมาชี้แจงบ้าง วันนี้จึงได้มอบหมายให้ทนายความได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนกว่า 200 คน รวมทั้ง พล.ต.อ. อีก 2 คน ซึ่งยังรับราชการตำรวจอยู่

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ไม่ได้มีความสนิทสนมกับ ป.ป.ช. และไม่ได้มีความประสงค์ที่จะประสานให้ ป.ป.ช.รับสำนวนคดีดังกล่าวไปดำเนินการเพื่อให้ตนเองมีทางรอด และไม่ได้มีการประสานไปยังผู้ใหญ่เพื่อให้เคลียร์เรื่องนี้ ที่เห็นตนเองไปอยู่ใกล้ ๆ บ้านจันทร์ส่องหล้าวานนี้ก็ไปดูแลงานด้านความมั่นคงเท่านั้น ไม่ได้เข้าไปในบ้าน และไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไร. -414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย