บช.น. ตั้งสอบข้อเท็จจริง บุกจับผับเถื่อนย่านลาดพร้าว

กทม. 10 ธ.ค.-บช.น. ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีบุกจับผับเถื่อนย่านลาดพร้าว พบยาเสพติดเพียบ ว่าเกิดจากการบกพร่อง ปล่อยปละละเลย รู้เห็น หรือรับผลประโยชน์ของตำรวจหรือไม่

ด้วยเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.66 เวลา 02.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้นำกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ ปปส.กทม.เข้าทำการ ปิดล้อมตรวจค้นสถานบริการบน ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวง-เขต ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ผลตรวจพบว่าร้านดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตสถานบริการแต่อย่างใดและเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงได้มีการจับกุมผู้ต้องหาเป็นผู้จัดการร้าน 2 ราย, จับกุมผู้ต้องหาจำหน่ายโดยมีไว้เพื่อจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาอี)(แฮปปี้วอเตอร์)(ไฟว์ไฟร์) จำนวน 1 ราย ,จำหน่ายโดยมีไว้เพื่อจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและ ประสาท (ยาคีตามีน) จำนวน 1 ราย และได้ทำการตรวจปัสสาวะผู้ใช้บริการและพนักงานภายในร้านทั้งหมด 245 ราย พบสารเสพติดในปัสสาวะจำนวน 136 คน เป็นชาย 92 คน หญิง 44 คน (ทั้งหมดสมัครใจเข้ารับการบำบัด)


ตามข้อสั่งการ ผบช.น. กรณีเริ่มดีเดย์ 15 ธันวาคม 2566 ให้สถานบริการเปิดถึงตี 4 นั้น ได้มีการเน้นย้ำให้ตรวจค้นอย่างเข้มงวด สำหรับระยะเวลาในการเปิด และโซนสถานบริการ ที่สามารถเปิดให้บริการได้โดยทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย รวมถึงการห้ามมิให้มีเด็กหรือเยาวชนเข้าใช้บริการ การมั่วสุมเสพยาเสพติด และให้คุมเข้มเรื่องการพกพาอาวุธปืนเข้าไปในสถานบริการ

นอกจากนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้สั่งการเร่งรัดให้สถานีตำรวจท้องที่ มีความเห็นสั่งปิดสถานบริการดังกล่าวโดยด่วน เนื่องจากเป็นความผิดชัดแจ้ง ซึ่งขัดต่อกฎหมาย และประกาศ คสช. ที่ 22/2558 กรณีปล่อยปละละเลยให้มียาเสพติดภายในร้าน ทั้งนี้ไม่ตัดสิทธิของเจ้าของร้านในการโต้แย้งคำสั่งดังกล่าว อีกทั้งกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกรณีดังกล่าวว่า เกิดจากการบกพร่อง หรือปล่อยปละละเลย รู้เห็น หรือรับผลประโยชน์อื่นใดของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ เพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป


บช.น. ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะปฏิบัติหน้ำที่ในการป้องกันปราบปราม อาชญากรรมและยาเสพติดอย่างเคร่งครัด เพื่อความปกติสุข พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่.-414.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก