จับขอทานคนจีนอีก 1 รวมจับแล้ว 6 คน เชื่อทำเป็นขบวนการ

กรุงเทพฯ 21 พ.ย. -“กัน จอมพลัง” เผยเจ้าหน้าที่ ตม.จับคนจีนใส่ชุดนักเรียนขอทานได้เพิ่มอีก 1 รวมจับได้ 6 คนแล้ว เชื่อทำเป็นขบวนการ หลังมีประชาชนทยอยแจ้งเบาะแสเจอขอทานลักษณะเดียวกันในเมืองท่องเที่ยว ขณะ พม.เผยในอดีตเคยพบกลุ่มคนจีนสูงวัยเข้ามาขอทานช่วงปี 61-63


นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามกรณีแก๊งขอทานชาวจีนว่าล่าสุดเจ้าหน้าที่ ตม.จับเพิ่มได้อีก 1 คน รวมเป็น 6 คน โดยจับได้บริเวณศาลาแดง ที่ตนเคยพาสื่อไปแล้วไม่เจอ เพราะคาดคงไหวตัวทัน แต่สุดท้ายก็ไม่รอดเพราะเจ้าหน้าที่ขยายผลลงไปตรวจสอบจนจับกุมได้ในที่สุด ที่กังวลคือทั้งหมดที่จับได้ตอนนี้จะเพียงแค่ผลักดันกลับประเทศแล้วจบ

โดย กัน จอมพลัง ยังเปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สน.ในพื้นที่, ตม., สืบนครบาล, ดีเอสไอ และกระทรวงพัฒนาสังคมฯ จะขยายผลหาต้นตอของขบวนการเพราะไม่เพียงแต่ใน กทม.ยังได้รับเบาะแสเพิ่มเติมจากต่างจังหวัดส่งเข้ามา เช่น ที่เชียงใหม่ ระยอง และตามเมืองท่องเที่ยวว่าพบกลุ่มคนมาขอทานในลักษณะเดียวกันด้วย โดยมองว่าเรื่องนี้กระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ เพราะผู้ใจบุญหรือนักท่องเที่ยวที่สงสารแล้วให้เงิน ก็ไม่รู้ว่า คนพวกนี้เป็นคนจีน ก็คิดว่าคนไทยถูกทารุณและยังใส่ชุดนักเรียนเป็นเด็กมานั่งขอทาน


ส่วนเงินที่ได้นั้นก็น่าตกใจว่า 1 วัน 1 คน ได้ถึง 1 หมื่นบาท ซึ่งจากข้อมูลที่ตนมีพบทั้งหมดมี 9 คนนั้น 1 เดือน รวมกันได้ 2-3 ล้านบาท นี่แค่ที่นับจากคนที่พบ ยังไม่นับว่าที่ยังไม่พบอีกจะมีอีกมากขนาดไหน

ส่วนอีก 3 คน ที่ยังจับไม่ได้ ตนมีภาพ มีจุดสถานที่ ๆ เจอแล้ว เชื่อว่าจะได้ตัวอีกไม่นาน ในลิสต์เป็นผู้หญิง 1 ผู้ชาย 2 คน ขอประชาชนที่พบเห็นช่วยกันแจ้ง แก๊งพวกนี้มักใช้วิธีการเดิน ล่องไปเรื่อย ๆ อยู่ที่ละ 1 ชั่วโมง และจะไหลวนมาจุดเดิม เมื่อได้รับแจ้งทีมงานจะไปทันที ส่วนที่พักในเยาวราชเป็นแหล่งพักกลุ่มนี้หรือไม่ คงต้องรอให้ตำรวจขยายผลต่อไปก่อน เพราะจากข้อมูลเบาะแสที่แจ้งมากล่าวอ้างว่าเห็นอยู่ในบริเวณดังกล่าว มีรถตู้มารับ และจะใส่ชุดนักเรียนออกไป

จากการสอบปากคำวานนี้ทราบว่า ทุกคนแทบจะไม่ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ไม่บอกที่อยู่ เคสลุงที่พิการเจอจับได้เมื่อวาน เขาโทรหาเพื่อน ตนเอาเบอร์เพื่อนที่โทรมากดหาไลน์ เจอว่าชื่อเพื่อนคล้ายเว็บพนัน ซึ่งยังมีท่าทางพิรุธ หลังตำรวจจะพยายามเอาโทรศัพท์มาดูก็ยังพยายามเอาโทรศัพท์มาเขวี้ยงจะให้แตก จึงน่าสงสัยว่ากำลังปกปิดอะไรหรือไม่ จะทำลายหลักฐานทำไม ขอทานคนจีนพวกนี้ยังพบว่ามีโทรศัพท์ 2 เครื่อง ทั้งหมดยังปฏิเสธว่าไม่รู้จักกัน


กัน จอมพลัง ยังเชื่อว่าขบวนการนี้ใหญ่มาก แค่ 3 วัน ยังเจอเกือบ 10 คนแล้ว เฉพาะที่ตนมีข้อมูลและยังกังวลว่าช่วงเปิดฟรีวีซ่านี้ ไม่รู้จะเกิดธุรกิจคนจีนใหม่ ที่เอาคนพวกนี้เข้ามาเพื่อหากินหรือไม่ เพราะขอทานจีนคนที่ 3 ที่จับได้ บอกตนว่า ไม่รู้ว่าที่ไทยขอทานผิดกฎหมาย แต่ที่จีนทำได้ แต่ที่มาไทยเพราะที่จีนตอนนี้ขอทานเยอะมาก ทำให้ชวนคิดว่าที่จีนมีคู่แข่งขอทานเยอะจนบดบังรายได้กันหรือไม่ และต้องย้ายมาหากินที่ไทย หรือจะมีแก๊งจัดเป็นแพ็คเกจมีกล่องขอทานให้มีชุดนักเรียนให้จัดหาสถานที่ยอดนิยมให้หรือไม่ เพราะเท่าที่ดูกล่องก็เหมือนกัน ชุดนักเรียนก็เหมือนซื้อจากร้านเดียวกัน แถมมีความพิการยังคล้ายกัน บอกที่อยู่ใกล้เคียงกัน จึงน่าสงสัยมากว่ามีขบวนการอยู่เบื้องหลัง

ด้านนางสาวนภาพร เมฆาผ่องอำไพ รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวว่า พม. เป็นหนึ่งในทีมสหวิชาชีพ ถ้าเป็นขอทานต่างชาติจะเข้าไปคัดกรองว่าเป็นผู้เสียหายหรือเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายซึ่งก็จะเป็นกระบวนการของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในการผลักดันกลับประเทศต่อไป โดยเมื่อปี 61-63 พม.เคยพบกลุ่มคนจีนที่เข้ามาขอทาน มีลักษณะความพิการ แต่ทั้งหมดเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ ต่างจากครั้งนี้ที่ส่วนใหญ่พบเป็นวัยทำงาน

กทม.ยังพบสถิติ เจอขอทานมากที่สุด ในพื้นที่ในเขตท่องเที่ยว ธุรกิจเยอะ เช่น ในเขตลุมพินี สุขุมวิท ในต่างจังหวัดชลบุรี เชียงใหม่ กัมพูชายังเป็นกลุ่ม หลักที่พบเข้ามาขอทานมากที่สุด โดยจากสถิติ ข้อมูลการดำเนินงานจัดระเบียบขอทานของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 57 ถึงตุลาคม ปี 66 มีจำนวนขอทานที่เข้าสู่การจัดระบบทั้งสิ้น 7,158 คน แบ่งเป็นขอทานไทย 4,685 คน และขอทานต่างประเทศ 2,473 คน (ข้อมูล ณ 21 พ.ย.66)

อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลว่าในจำนวน 6 คน ที่มีการจับกุมได้นั้นเมื่อดูพาสปอร์ต พบว่าบางคนเข้ามาในไทยมากกว่าหนึ่งครั้ง ตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลว่า ที่เข้ามาไทยคราวก่อนเข้ามากระทำผิดหรือไม่ และเหตุใดจึงสามารถกลับเข้ามาและกระทำผิดและขอทานได้ในลักษณะเดียวกัน. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

นายกฯ เข้าสภา ก่อนโหวตร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69

รัฐสภา 31 พ.ค. – นายกฯ บอกเจ็บคอ หลังสื่อถามต้องเช็กเสียงก่อนโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2569 หรือไม่ เมื่อเวลา 14.50 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าอาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วันสุดท้าย ก่อนที่จะมีการลงมติรับหรือไม่รับในวาระแรก ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จะต้องมีการเช็กเสียงก่อนลงมติหรือไม่ นายกรัฐมนตรีไม่ตอบ เพียงแต่หันมาแล้วใช้มือชี้ที่คอของตัวเอง ก่อนระบุว่า “เจ็บคอ” และเดินขึ้นห้องประชุมทันที.-316-สำนักข่าวไทย

กองปราบย้าย “สจ.กอล์ฟ-พวก” เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

กทม. 31 พ.ค.- ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “สจ.กอล์ฟ” พร้อมพวกทั้ง 7 คน จากเรือนจำ จ.สงขลา ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว ด้าน ผอ.กกต.สงขลา แจ้งความดำเนินคดีอาญาเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 10 คน คดีนายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ ที่สั่งลูกน้องไปรุมทำร้ายตำรวจ ตชด. ขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้งท้องถิ่นเทศบาลตำบลพะวง อ.เมืองสงขลา เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา และคดีนี้มีการโอนย้ายให้ทางตำรวจกองปราบดำเนินการ และทางตำรวจกองปราบได้ยื่นหนังสือคำร้องโอนย้ายการฝากขังจากศาลจังหวัดสงขลา มาเป็นศาลอาญารัชดา และทำหนังสือไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์เพื่อขอโอนตัวผู้ต้องขังทั้ง 7 ราย จากเรือนจำจังหวัดสงขลา มาคุมขังต่อยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อความสะดวกในการดำเนินการทางคดี ล่าสุด เมื่อวานนี้ (30 พ.ค.68) ได้มีการส่งตัว สจ.กอล์ฟ พร้อมพวกทั้ง 7 รายจากเรือนจำจ.สงขลาไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯเรียบร้อยแล้ว โดยภารกิจนี้ถูกปิดเป็นความลับเพื่อความปลอดภัย โดยผู้ต้องขังทั้ง 7 รายประกอบด้วย นายสิรดนัย […]

ตำรวจเมากร่าง ถูกให้ออกจากราชการ

เชียงใหม่ 31 พ.ค.-ให้ออกจากราชการ ตำรวจเมากร่าง ทำร้ายร่างกายตำรวจจราจร สภ.สันกำแพง ขณะปฏิบัติหน้าที่ จากกรณีคลิปตำรวจนายหนึ่ง ได้ใช้คำพูดด่าทอหยาบคาย และถึงขั้นเข้าไปทำร้ายร่างกายตำรวจจราจรสถานีตำรวจภูธรสันกำแพง ขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบริเวณแยกต้นเปาพัฒนา ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โดยต้นเหตุเกิดจาการที่ตำรวจที่มีอาการมึนเมา ขับรถไปเฉี่ยวชนรถของผู้อื่นจนได้รับความเสียหาย และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาดูแลความเรียบร้อย แต่กลับถูกด่าทอ และทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจรายนี้ ที่เมาแล้วกร่าง ถูกดำเนินคดี 4 ข้อหา คือ 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย 2.ขับรถในขณะเมาสุรา 3.ทำร้ายร่างกายผู้อื่น และ 4.ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และล่าสุด วันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พลตำรวจตรี วรพงศ์ คำลือ ผู้บังคับการกองบังคับการ สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีคำสั่งที่ 204 / 2568 ให้สิบตำรวจเอก นายดังกล่าว ออกจากราชการไว้ก่อน […]