ผัดฟ้อง-ฝากขัง เยาวชน 14 ปี ก่อเหตุยิงในห้างพารากอน

กรุงเทพฯ 4 ต.ค. – ผบก.น.6 เผยคุมเยาวชน 14 ปี ส่งผัดฟ้องและฝากขังที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางแล้ว พร้อมแนบความเห็นแพทย์ที่ระบุยังไม่พร้อมในการให้ปากคำและต่อสู้คดี และขอให้ศาลส่งไปรักษาตัว ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดเกิดจากภาวะจิตไม่ปกติของเยาวชน


พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เดินทางมาติดตามความคืบหน้าการสอบสวนคดีเยาวชน 14 ปี ก่อเหตุกราดยิงในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ได้มีการจับกุมผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นการจับกุมซึ่งหน้า โดยได้มีการตั้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 5 ข้อ ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พยายามฆ่า มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนจะมีข้อหาอื่น ๆ หรือไม่ อยู่ในระหว่างการหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม นอกจากนี้อยู่ในระหว่างสอบสวนว่าผู้ปกครองจะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กด้วยหรือไม่

ทั้งนี้ เมื่อวานได้มีการเชิญจิตแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ นักจิตวิทยา และอัยการเข้าร่วมในการสอบสวนด้วย โดยทีมงานจิตแพทย์ ได้มีการประเมินอาการเบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การวกวน มีอาการหูแว่วอยู่ตลอด เชื่อว่ามีอาการทางจิต และแพทย์ก็ยืนยันว่า ยังไม่พร้อมในการให้ปากคำใด ๆ หรือต่อสู้คดีตามกฎหมายได้


เมื่อช่วงใกล้เที่ยงที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ส่งผัดฟ้องและฝากขังที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยมีการแนบความเห็นของแพทย์ที่ได้ลงความเห็นไว้ว่ายังไม่พร้อมในการให้ปากคำและต่อสู้คดี และขอให้ศาลส่งตัวไปรักษาต่อที่สถาบันกัลยาราชนนครินทร์ เนื่องจากมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีสถานที่ควบคุมตัว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลว่าจะมีคำสั่งอย่างไร และหากภายหลังแพทย์ทำการประเมินว่าผู้ต้องหาอยู่ในสภาพที่พร้อมในการสอบสวน ก็จะจัดส่งพนักงานสอบสวนไปดำเนินการสอบปากคำตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป

ส่วนครอบครัวผู้ต้องหา เมื่อคืนนี้ได้เดินทางมาเยี่ยมผู้ก่อเหตุแล้ว แต่ในส่วนรายละเอียดคำให้การ การพูดคุย หรือข้อมูลใด ๆ ก็ตามเกี่ยวกับครอบครัว ขอไม่เปิดเผยเนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล

สำหรับชนวนเหตุนั้น จากการพิจารณาเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากภาวะจิตไม่ปกติของเยาวชน ส่วนอาวุธปืนนั้นพบว่าเป็นการสั่งซื้อจากโลกออนไลน์ เป็นอาวุธปืนดัดแปลง Blank Gun ที่สามารถนำมาใช้กับกระสุนปืนจริงได้ ส่วนครอบครัวจะทราบว่าเด็กเยาวชนสั่งซื้ออาวุธปืนหรือไม่นั้น ขอไม่เปิดเผยเนื่องจากเป็นเรื่องในสำนวนคดี และครอบครัวจะต้องร่วมรับผิดในเรื่องอาวุธปืนได้หรือไม่อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ถ้าพบว่ามีส่วนกระทำความผิดก็จะแจ้งข้อหากับครอบครัวเพิ่มเติมในเรื่องของอาวุธปืนต่อไป


ส่วนที่มีข้อมูลระบุว่า เด็กอาจจะไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังเดียวอาจจะมีบ้านหลายหลังนั้นจะต้องตรวจค้นบ้านหลังอื่น ๆ เพิ่มเติมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับชุดสืบสวนว่าจะดำเนินการอย่างไร ทั้งนี้ จากการตรวจค้นบ้านของเยาวชนผู้ก่อเหตุในพื้นที่ สน.หลักสอง พบว่าบ้านหลังดังกล่าวนั้น เป็นบ้านที่เยาวชนอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ซึ่งอยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่า ปืนที่ตรวจยึดได้นั้นเป็นปืนของใครและมีทะเบียนหรือไม่ หากไม่มีทะเบียนก็มีความผิดตามกฎหมายแน่นอน เช่นเดียวกันกับที่มาของอาวุธปืน ซึ่งเบื้องต้นทราบว่ามาจากการสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ แต่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบขยายผลหาต้นตอ

ส่วนประเด็นเรื่องข้อกฎหมายที่วางหลักว่า เด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีแต่ไม่เกิน 15 ปีไม่ต้องรับผิดทางกฎหมายนั้น ก็เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ แต่ในส่วนของตำรวจ ยืนยันว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอและดำเนินการส่งฟ้องต่อศาลครอบครัวเยาวชนและครอบครัวกลางได้แน่นอน

สำหรับปฏิบัติการเมื่อวานนี้นั้น ถือว่าเป็นไปตามที่ บก.น.6 ได้ร่วมกันวางแผนฝึกซ้อมรักษาความปลอดภัยกับบรรดาห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน โดยเมื่อวานนี้ถือว่ารับมือเหตุการณ์ได้ดี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถเข้าถึงที่เกิดเหตุได้ภายใน 5 นาที ถือว่าสามารถระงับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามแผนที่ได้ฝึกอบรมปฏิบัติกันไว้

ด้าน พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า หลังนำทีม MCATT ร่วมพูดคุยกับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ว่าวันนี้ได้เข้ามาประสานดูแลเรื่องการเยียวยาสภาพจิตใจผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งผู้ก่อเหตุ เหยื่อ ครอบครัว รวมถึงผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ที่สยามพารากอน โดยเบื้องต้นยังไม่ได้พูดคุยกับผู้ก่อเหตุ ส่วนสภาพจิตใจของเด็ก ขอให้ถามกับทางตำรวจ โดยกระบวนการจะต้องประเมินสภาพจิตใจเด็กอย่างเป็นระบบ ยังไม่สามารถให้คำตอบอะไรได้

ส่วนกระบวนการของ MCATT พร้อมให้คำปรึกษาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทั้งหมด ถ้ามีส่วนไหนจะต้องเข้าไปให้การช่วยเหลือก็จะเข้าไปทำการเยียวยาจิตใจ และบางรายอาจจำเป็นต้องเข้าสู่การบำบัดรักษาอย่างต่อเนื่อง วันนี้มาเพื่อสร้างความมั่นใจในการดูแลทั้งหมดว่าจะต้องครบถ้วนและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยคำนึงถึงสภาพจิตใจเป็นหลัก

นอกจากนี้ ได้พูดคุยกับทางห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ว่าอาจจะมีการตั้งศูนย์ของ MCATT ที่นั่น เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยยังอยู่ในระหว่างการเจรจา น่าจะได้ข้อสรุปภายในวันนี้ ซึ่งต้องประเมินอีกครั้งว่า ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มีความหวาดกลัวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน คดีกราดยิงในศูนย์การค้าสยามพารากอนเพื่อให้การสอบสวนสืบสวนดำเนินไปอย่างละเอียด รอบคอบ สมบูรณ์ บริสุทธิ์ ยุติธรรม และให้ได้ข้อเท็จจริงโดยเร็ว จึงได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.เกียรติกุล สนธิเณร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เป็นหัวหน้าคณะ ประกอบไปด้วย พนักงานสอบสวนและฝ่ายสืบสวน ของกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 และ สน.ปทุมวัน รวมทั้งหมด 28 นาย โดยคำสั่งดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคมเป็นต้นไป. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย