สโมสรตำรวจ 25 ก.ย. – “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” รอง ผบ.ตร. เผยยังไม่เห็นคำสั่งโยกย้ายตามที่มีกระแสข่าว ยืนยันขณะนี้กำลังใจยังดี ขอทำงานต่อตามปกติและรับผิดชอบงานที่ทำอยู่ให้เสร็จ ส่วนลูกน้องที่ถูกดำเนินคดียังเป็นผู้บริสุทธิ์ หากศาลยังไม่มีคำพิพากษา
เมื่อเวลา 14.09 น. วันนี้ (25 ก.ย.66) หลังการประชุม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวตอบข้อถามของสื่อมวลชน เรื่องกระแสข่าวคำสั่งโยกย้าย โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ยังไม่มี ตนยังไม่เห็นคำสั่ง ตอนนี้ยังมีกำลังใจดี และขอทำงานตามปกติทุกอย่าง คดีที่ค้างคาจะต้องสะสางทั้งหมดให้เสร็จ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ตนจะต้องรับผิดชอบให้เสร็จ ตราบใดที่ยังรับผิดชอบอยู่ ส่วนลูกน้องที่ถูกดำเนินคดี เขาต้องไปต่อสู้คดี แต่ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษา เขาก็ยังเป็นผู้บริสุทธิ์
เรื่องนี้เป็นการชกใต้เข็มขัด เป็นการดิสเครดิตตนอย่างเห็นได้ชัด มันมีคดีหลายคดีที่งวดแล้ว แต่ไม่อยากกล่าวถึงใคร ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย ใครทำผิดก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ใครละเมิดอำนาจศาลก็จะต้องดำเนินคดีไป ที่ผ่านมาตนทำคดีทุกคดีโปร่งใส ทำร่วมกับอัยการ ไม่ได้ทำเพียงลำพัง เฉพาะในส่วนของตำรวจ ตนจะไม่ลดบทบาทและทำงานไปตามจริง หากยังมีความรับผิดชอบในหน้าที่อยู่ จะทำงานตามปกติ ต้องอดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก และไม่มักมากในลาภผล
ในส่วนการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ตนเป็นเบอร์ 2 ไม่ได้คิดไปออฟไซด์ใครอยู่แล้ว ตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ยึดหลักอาวุโส ตนยังสนุกอยู่กับการทำงาน ที่ผ่านมาไม่เคยคุยหรือไปแข่งขันกับใคร เพราะยังเหลือเวลาอีกเยอะ ตื่นเช้ามาได้ทำงานก็พอใจแล้ว ส่วนใครจะได้เป็น ผบ.ตร. เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาของ ตร.ที่จะพิจารณา ตัวชี้วัดอยู่ที่ประชาชน ตนมีหน้าที่ทำงานตามหน้าที่ให้ดีที่สุด
เรื่องที่โดนตรวจสอบก็ต้องว่ากันไป แต่ถ้าใครทำโดยไม่ชอบก็จะต้องรับโทษในการกระทำความผิดนั้น ในส่วนของเว็บพนันออนไลน์ ตนมีแต่การปราบเว็บพนันอย่างเดียว เว็บพนันไม่มีใครรู้จักตน มีแต่คนเขากลัวตน ฝากถึงประชาชนว่า ไม่ต้องเป็นห่วง จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด พร้อมรับการตรวจสอบ เมื่อเขาอยากตรวจสอบก็ให้เขาตรวจสอบ เพราะเคยโดนมาเยอะแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาโดน ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่มีใบสั่ง ไม่ใช่เรื่องที่ปกติ เราก็ต้องรับการตรวจสอบ
ส่วนข่าวลือที่ให้ตนไปนั่งเป็นเลขาธิการ ป.ป.ส.นั้น ตำแหน่งใดก็ได้ ขึ้นอยู่กับหลักความสมัครใจของเจ้าตัว และต้องขึ้นอยู่กับหลักความเป็นธรรมด้วย ขอยกตัวอย่าง เช่น ตนดำเนินคดีกับตำรวจเยอะแยะไปหมด แต่ยังไม่มีใครถูกออกจากราชการ ถามว่าทำไมถึงยังไม่ออกจากราชการ เพราะอยู่ที่หลักบริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษา ก็ถือว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริสุทธิ์ ตนยังไม่มีข้อถูกกล่าวหาสักข้อ เพราะฉะนั้นจึงไม่จำเป็นต้องไปชี้แจงข้อกล่าวหา แต่ที่ตั้งประเด็นการค้นบ้านตน มันเป็นความผิดปกติ เพราะมีการหลอกให้ศาลไม่รู้ว่าเป็นบ้านของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มันเป็นการหมกเม็ดศาลแล้วมาค้นบ้านตน โดยอาศัยเพียงแค่บ้านเลขที่ ถามว่าตำรวจใครก็รู้ว่าเป็นบ้านของตน ต้องไปถามศาลว่า ศาลรู้ไหมว่าเป็นบ้านตน ศาลก็คงไม่ทราบเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่มีการตระเตรียมการมาแล้วว่าจะดิสเครดิตตนให้ได้ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องการเมืองภายในองค์กร ขอให้ทุกคนที่รับรู้ข่าวสารลองพิจารณาดูเอาเอง.-สำนักข่าวไทย