“บิ๊กโจ๊ก” ยันไม่เกี่ยวเว็บพนัน ชี้ถูกค้นบ้านเป็นเกมการเมือง

กรุงเทพฯ 25 ก.ย. – “บิ๊กโจ๊ก” ยันไม่เกี่ยวข้องเว็บพนัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเกมการเมืองภายใน สตช. ต้องการทำลายเครดิตของตน หลังจากนี้เตรียมดำเนินการทางกฎหมายกับตำรวจชุดตรวจค้นทุกนาย ย้ำรู้ว่ามีการวางแผนเตรียมการล่วงหน้ามานานแล้ว


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงเปิดใจกับสื่อมวลชน หลังถูกตำรวจคอมมานโดกองปราบปรามและตำรวจไซเบอร์ นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักภายในซอยวิภาวดี 60 พร้อมทั้งออกหมายจับลูกน้องคนสนิท ซึ่งเป็นมือทำคดี 8 นาย ว่า หลังเห็นหมายค้น เชื่อได้ว่าเป็นการหลอกศาล หรือเป็นการขอหมายค้นโดยไม่สุจริต เนื่องจากในหมายค้นไม่ได้ระบุชื่อเจ้าของบ้านแต่อย่างใด เชื่อว่าขณะขอหมายค้น ชุดจับกุมไม่ได้แจ้งศาลว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นของตน ซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่การงานเป็นถึงรอง ผบ.ตร. หากศาลรู้ว่าเป็นบ้านของตน จะไม่ออกหมายค้นให้อย่างแน่นอน แต่ไม่เป็นไร เมื่อหมายค้นออกมาแล้วก็ยินยอมให้ความร่วมมือให้ตรวจค้นบ้านทั้ง 5 หลัง ซึ่งมีข้อแม้เพียงอย่างเดียว คือขอให้มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาร่วมทำการตรวจค้นบ้านด้วย

จากการตรวจค้นยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด และไม่มีเส้นทางการเงินจากเว็บพนันมาถึงตนแม้แต่เส้นทางเดียว ดังนั้นการตรวจค้นในวันนี้เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ อยากค้นก็ให้ค้นไป แต่หลังจากนี้ต้องรับผลจากการกระทำให้ได้ เพราะตนจะไล่ดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง


ในส่วนของลูกน้องที่ถูกออกหมายจับ 8 นาย และถูกจับกุมไปแล้ว 5 นาย ก็เป็นหน้าที่ของลูกน้องในการชี้แจงว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไร ใครผิดก็ว่าไปตามผิด เพราะทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย ที่ผ่านมาตนเองก็จับคนอื่นมามาก ไม่ได้หมายความว่าลูกน้องทำผิดแล้วตนจะจับลูกน้องตัวเองไม่ได้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังระบุอีกว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ รู้ว่ามีการเตรียมการล่วงหน้ามานานแล้ว และเป็นเกมการเมืองภายใน สตช. แต่จะเกี่ยวข้องกับเก้าอี้ ผบ.ตร. หรือไม่ ตนไม่สามารถตอบได้ ให้สื่อมวลชนคิดเอาเอง แต่อยากให้สังคมจับตามองในช่วง 4-5 วันนี้ จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดการตรวจค้นและการจับกุมชุดทำงานของตน เพิ่งมาเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้

ส่วนลูกน้องทั้งหมดที่ถูกจับกุม ในช่วงเย็นวันนี้จะมีการยื่นขอประกันตัวออกมาต่อสู้คดี และทำคดีที่ยังค้างอยู่ต่อไป เช่นเดียวกับผู้การชลบุรีก่อนหน้านี้ ที่ถูกดำเนินคดีแต่ประกันตัวออกมาสู้คดี และยังคงทำงานในหน้าที่ต่อไป


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงบ่ายท่านจะไปทำอะไรที่ไหนต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จะไปประชุมร่วมกับ ผบ.ตร. ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า ถ้าพบ ผบ.ตร. ท่านจะพูดอะไรกับ ผบ.ตร. หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หันมายิ้มกับผู้สื่อข่าว พร้อมระบุว่า คงไม่มีอะไรต้องพูด เพราะ ผบ.ตร. เป็นคนคุมตำรวจชุดนี้อยู่แล้ว ดังนั้นหลังจากนี้ใครทำอะไรไว้ ก็จงรับผิดชอบการกระทำของตนเองให้ได้แล้วกัน

ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อว่า ในวันที่ 27 กันยายนนี้ จะแถลงข่าวเปิดหลักฐานตำรวจคนสนิทของ “บิ๊กโจ๊ก” ไม่ต่ำกว่า 20 นาย เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ และมีนักข่าว ทนายความชื่อดัง รวมอยู่ด้วยนั้น รอง ผบ.ตร. ระบุว่า อยากแฉก็แฉไปเลย แต่ช่วงบ่ายวันนี้ ตนจะส่งทนายความไปดำเนินการยื่นฟ้องนายอัจฉริยะ ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เมื่ออันไหนไม่จริงก็ต้องต่อสู้ จะอยู่เฉยไม่ได้

ส่วนกรณีที่ พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน อดีตผู้การชลบุรี จะแจ้งความดำเนินคดีตามมาตรา 157 ก็สามารถทำได้ ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ไปว่ากันในชั้นศาล ขณะที่ก่อนหน้านี้ เครือข่ายพนันเป้ ชลบุรี อ้างว่าได้จ่ายเงินเคลียร์กับบิ๊กตำรวจ จ. ทำให้หลายคนโยงมาถึงการบุกค้นวันนี้ ยืนยันว่า ตนเองทำคดีไม่มีใครเคลียร์ได้ ตนเองไม่ใช่คนแบบนั้น ถ้ามีการเคลียร์จริง คงไม่ออกมาจับผู้ต้องหาเยอะขนาดนั้น

สำหรับประเด็นภาพหลุดในงานเลี้ยงที่ “บิ๊กโจ๊ก” ร้องคาราโอเกะร่วมกับเจ้าของเว็บพนัน หรือน้องมินนี่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ตนไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนดังกล่าว งานวันนั้นเป็นงานเลี้ยงลูกน้อง ใครจะพาใครมา ตนเองก็ไม่ทราบ ส่วนภาพลูกน้องคนสนิทนั่งคู่กับเจ้าของเว็บพนัน ก็ให้เจ้าตัวชี้แจงเอาเอง ไม่ใช่หน้าที่ที่ตนต้องมาหาคำตอบ แต่ยืนยันว่า ถ้าลูกน้องทำอะไรไม่ดี ก็ต้องดำเนินคดี นิ้วไหนร้ายก็ต้องตัดทิ้ง

ก่อนยุติการแถลงข่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากการบุกค้นในวันนี้ จนขณะนี้ตนยังไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติการในครั้งนี้เลย. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]