เจอกระดูกอีกกว่า 30 ชิ้น คาดเกี่ยวคดีพ่อโหดฆ่าลูก

กรุงเทพฯ 21 ก.ย. – พฐ. ลุยค้นหาโครงกระดูกมนุษย์ ริมถนนพหลโยธิน กม.25 พบโครงกระดูกเพิ่มกว่า 30 ชิ้น แต่แพทย์ยืนยันเป็นกระดูกมนุษย์เพียง 2 ชิ้น ส่วนที่เหลือต้องส่งตรวจอย่างละเอียด


การค้นหากระดูกมนุษย์ ริมถนนพหลโยธินกิโลเมตรที่ 25 ของเจ้าหน้าที่ พฐ. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ได้ปรับแผนจากเดิมใช้จอบและคราดเกลี่ยดิน เพื่อหาชิ้นส่วนกระดูก แต่พบว่ามีความเสี่ยงทำให้กระดูกแตกหัก และล่าช้า ประกอบกับดินที่ถูกขุดขึ้นมา มีสภาพเป็นดินโคลน จึงเปลี่ยนมาใช้วิธีตักดินใส่เข่งและฉีดน้ำล้างดินโคลนออกไป ซึ่งวิธีการดังกล่าวทำให้ การค้นหาคืบหน้าไปมาก พบกระดูก ไม่ต่ำกว่า 20 ชิ้น มีลักษณะคล้ายโครงกระดูกมนุษย์

ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการศูนย์สืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาดูการค้นหา พร้อมเปิดเผยถึงความคืบหน้าการ สอบปากคำนายเอ็ม ว่า คำให้การนายเอ็ม ผู้ต้องหา และน.ส.เจษฎา ภรรยาอีก 1 คน เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของตำรวจฝ่ายสืบสวน นำไปสู่การตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลายจุดในวันนี้ แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้งหมด โดยเฉพาะข้ออ้างที่ว่า ไม่ได้ทำร้ายลูกสาววัย 2 ขวบ ที่พบเป็นศพถูกโบกปูนในบ้านพัก ที่จังหวัดกำแพงเพชร เสียชีวิต แต่ลูกสาวป่วยตาย ซึ่งขัดแย้งกับผลการชันสูตรศพของแพทย์นิติเวช ที่พบว่ากะโหลกศีรษะ และซี่โครงร้าวคล้ายถูกประเทศด้วยของแข็ง


นอกจากนี้ นายเอ็ม ยังให้การในลักษณะภาคเสธว่า เป็นคนลงมือฆ่าลูก เพียง 3 คนเท่านั้น เป็นเด็กชายที่ถูกทิ้งศพในพื้นที่บางซื่อ 2 คน และอีกหนึ่งคนนำมาทิ้ง ในพื้นที่ที่ค้นหาโครงกระดูก ส่วนสาเหตุ เพราะไม่ชอบเด็กผู้ชาย และไม่ชอบเสียงร้องของเด็ก

ส่วนการสอบปากคำ น.ส.เจษฎา ถือว่าให้การเป็นประโยชน์มากที่สุด เพราะให้ข้อมูลกับตำรวจว่า รู้เห็นทุกอย่างที่นายเอ็ม ทำกับลูก ๆ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ตนเองก็ถูกทำร้ายร่างกายและถูกบังคับข่มขู่ อีกทั้งรักนายเอ็มมาก เพราะเป็นรักแรก ที่ต้องนำศพลูกไปทิ้ง ก็ไม่ได้เต็มใจทำ แต่จำใจทำ ส่วนการพบถุงดำ ถุงขาว และกระดูก 2 ชิ้น เมื่อวานนี้ (20 ก.ย.) ทำให้นายเอ็ม จำนนต่อหลักฐานจนต้องยอมรับสภาพว่าได้ค่าลงมือฆ่าลูกถึง 3 คน

พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร โฆษกกองพิสูจน์หลักฐาน เปิดเผยว่า กระดูกที่เจอในวันนี้ มีมากกว่า 30 ชิ้น แต่จากการตรวจพิสูจน์ของแพทย์โรงพยาบาลภูมิพล ยืนยันว่าเป็นกระดูกมนุษย์เพียง 2 ชิ้น เป็นแผ่นกระดูกช่วงแขน และทั้ง 2 ชิ้น เจอในจุดเดียวกับที่พบเมื่อวานนี้ ส่วนที่เหลือ แพทย์ไม่กล้ายืนยัน ดังนั้นจะส่งโครงกระดูกที่พบในวันนี้ทั้งหมด ไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียด ส่วนกระดูกจะมีอายุเท่าไหร่นั้น และจะใช่ลูกของนายเอ็มกับนางสาวเจษฎาหรือไม่ ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน ส่วนกรณีการ พิสูจน์ความเป็นพ่อ แม่ ลูก กับศพนิรนาม ในพื้นที่บางซื่อนั้น คาดว่าจะใช้ ผลจะออกมาคืนนี้หรือช้าสุดพรุ่งนี้ก่อนเที่ยง และเมื่อเวลา 18.50 น.ที่ผ่านมา การค้นหาโครงกระดูกมนุษย์ได้ยุติลง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”