ผบ.ตร.บินด่วนลงใต้ เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวตำรวจกล้ายะรัง

31 ส.ค. – ผบ.ตร. บินด่วนลงใต้ เยี่ยมให้กำลังใจลูกน้อง พร้อมเยียวยาครอบครัวตำรวจกล้ายะรัง สั่งดูแลสิทธิประโยชน์เต็มที่ หลังถูกคนร้ายยิงถล่ม เร่งรับตัวตำรวจบาดเจ็บเข้ารักษาที่ รพ.ตำรวจ พร้อมติดตามคนร้ายเร่งด่วน กำชับ SOP ยุทธวิธีในการทำงาน พร้อมดูแลขวัญกำลังใจตำรวจชายแดนใต้


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี เดินทางลงพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เพื่อให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต และเยี่ยมผู้บาดเจ็บ จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 66 เวลา 22.50 น. ขณะที่ตำรวจ สภ.ยะรัง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง (อส.) ออกลาดตระเวนพื้นที่รับผิดชอบมาถึงบริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลยะรัง ม.3 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ถูกคนร้ายใช้ปืนยิงถล่มใส่เจ้าหน้าที่ เป็นเหตุให้ตำรวจเสียชีวิต 2 นาย คือ ด.ต.ตุแวเลาะ ลอมะ และ ส.ต.ท.บุญกีนี ดือเร๊ะ ผบ.หมู่ (ป) สภ.ยะรัง อาสาสมัคร 2 ราย และมีตำรวจบาดเจ็บ 5 นาย คือ ส.ต.ต.ธนทัต โชคมาก, ส.ต.ต.อิสมาเอ็น จิตหลัง, ส.ต.ท.ศราวุฒิ สูสัน, ส.ต.ท.ธวัช เส็นฤทธิ์ ผบ.หมู่ (ป) สภ.ยะลัง และ พ.ต.ท.ณรงค์ แสนเกื้อ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ยะรัง

ภายหลัง ผบ.ตร. และคณะ ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ พร้อมมอบเงินส่วนตัวช่วยเหลือแก่ครอบครัวเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ อส. ที่เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงเยี่ยมเด็กที่โดนสะเก็ดระเบิด ณ โรงพยาบาลปัตตานี พร้อมกล่าวกับญาติยืนยันตำรวจรับปากจะดูแลสิทธิประโยชน์ทุกอย่างเต็มที่ รวมทั้งการบรรจุทายาทเข้ารับราชการตำรวจ


ผบ.ตร. ได้มอบเงินส่วนตัวช่วยเหลือตำรวจที่เสียชีวิตรายละ 50,000 บาท บาดเจ็บสาหัสรายละ 20,000 บาท บาดเจ็บรายละ 10,000 บาท ส่วนอาสาที่เสียชีวิตรายละ 20,000 บาท และมอบให้ ภ.จว.ปัตตานี เพื่อใช้ดำเนินการดูแลตำรวจ รวมยอดประมาณ 300,000 บาท นอกจากนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยังได้มอบเงินส่วนตัวช่วยเหลืออีกส่วนหนึ่งด้วย

สำหรับ ส.ต.ท.ธวัช เส็นฤทธิ์ ที่บาดเจ็บสาหัส สะเก็ดระเบิดเข้าตา ผบ.ตร. นำตัวขึ้นเครื่องมารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจด้วย

นอกจากนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ยังสั่งดูแลสิทธิประโยชน์เต็มที่ กรณีตำรวจเสียชีวิต สั่งการให้เสนอปูนบำเหน็จความดีความชอบตอบแทนเป็นกรณีพิเศษให้ ด.ต.ตุแวเลาะ และ ส.ต.ท.บุญกีนี โดยขอเลื่อนเงินเดือนให้ 8 ขั้น การช่วยเหลือบรรจุทายาท รวมทั้งให้เงินช่วยเหลือดูแลในส่วนของสิทธิประโยชน์อื่นๆ ทั้งของผู้เสียชีวิตและครอบครัว ด.ต.ตุแวเลาะ จำนวน 3,426,820 บาท และ ส.ต.ท.บุญกีนี 2,431,990 บาท ส่วนตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บได้รับการช่วยเหลือตามสิทธิประโยชน์ 40,000-281,000 บาท ตามอาการ


ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เดินทางไปประชุมติดตามความคืบหน้าและเร่งรัดคดี โดยมี พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 ตร., พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.กฤษดา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.สมกูล กาญจนอุดมการณ์ ผบก.ตชด.ภ.4, พล.ต.ต.วิสูตร นาคจู ผบก.ศพฐ.10, พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.สงขลา, พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.สส.จชต., พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผบก.ภ.จว.ยะลา, พล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส, พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าร่วม ณ ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี

ผบ.ตร. กล่าวว่า “ขอแสดงความอาลัยและแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของ ด.ต.ตุแวเลาะ ลอมะ ผบ.หมู่ (ป) สภ.ยะรัง จว.ปัตตานี และ ส.ต.ท.บุญกีนี ดือเร๊ะ ผบ.หมู่ (ป ) สภ.ยะรัง จว.ปัตตานี ที่สละชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ขอสดุดีตำรวจกล้าทุกนายที่มุ่งมั่น ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อรักษาสันติสุขในพื้นที่ภาคใต้ ขณะที่ข้าราชการตำรวจอีก 5 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บ และได้รับบาดเจ็บสาหัส จากการปฏิบัติหน้าที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เข้าไปดูแลเรื่องการรักษาพยาบาล และมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ตั้งแต่ 40,000-281,000 บาท ตามอาการของแต่ละราย

ส่วนทางคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบกลุ่มผู้กระทำในเบื้องต้นแล้ว เป็นกลุ่มก่อความไม่สงบ ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนติดตามตัว ทั้งนี้ ได้กำชับเร่งรัดติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด สืบสวนขยายผลดำเนินการทุกมิติ รวมทั้งหาวิธีการในการปฏิบัติที่จะป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ให้มีความพร้อมในทุกๆ เรื่อง วางแนวทางการปฏิบัติ กำหนด SOP ยุทธวิธีในการทำงานให้เกิดความปลอดภัย ผู้บังคับบัญชาต้องนำไปลงรายละเอียด คิดแทนลูกน้องว่าจะดำเนินการอย่างไร รวมทั้งการถอดบทเรียนที่เกิดขึ้นมาแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น นำมาวิเคราะห์ ปรับแผนทางยุทธวิธี รวมทั้งสอบถามวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือที่จำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ ให้จัดลำดับความสำคัญเตรียมทำแผนในการของบประมาณ เช่น ยุทโธปกรณ์ ยาพาหนะ อุปกรณ์ป้องกันตัว โดยคำนึงถึงชีวิตข้าราชการตำรวจเป็นอันดับแรก รวมทั้งคิดระบบเพื่อให้เกิดความปลอดภัย และเน้นย้ำกำลังพลปฏิบัติตามหลักยุทธวิธี ให้เกิดความปลอดภัยในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ตำรวจพร้อมสนับสนุนช่วยเหลือ ดูแลสิทธิประโยชน์ และขอส่งกำลังใจให้ตำรวจผู้ปฏิบัติชายแดนใต้ทุกราย”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]