กทม. 3 ส.ค.- ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ นัดไต่สวนคำร้องการดำเนินคดีแบบกลุ่ม 4 ก.ย.นี้ กรณีผู้ถือหุ้นกู้ STARK ยื่นฟ้อง กรรมการและผู้บริหารรวม 5 คน ชี้ชวนซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ และให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายมูลค่ากว่า 9 พันล้านบาท
เวลา 11.00 น. ตัวแทนผู้เสียหาย 20 คน กรณีลงทุนหุ้นกู้ STARK พร้อมนายจิณณะ แย้มอ่วม ทนายความ เดินทางมาที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง เพื่อยื่นฟ้องนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ กรรมการและผู้บริหาร บริษัทสตาร์ทคอร์ปเปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)(STARK) และพวกรวม 5 คน ตามที่ ก.ล.ต.มีการกล่าวโทษไว้ก่อนหน้านี้ ในความผิดฐาน ชี้ชวนซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จหรือไม่เป็นความจริง ปกปิดข้อมูลอันเป็นสาระสำคัญ
ทนายความ เปิดเผยว่า การยื่นฟ้องในวันนี้เป็นการฟ้องคนที่มีส่วนที่จะต้องร่วมรับผิด ตาม ที่ ก.ล.ต.มีการกล่าวโทษไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่เป็นกรรมการและผู้บริหาร เนื่องจาก ข้อมูลที่ผู้ถือหุ้นกู้ ได้รับการชี้ ชวน เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องที่ปรากฏในหนังสือชี้ชวน โดยเฉพาะงบการเงิน ทำให้คนที่ตัดสินใจในการลงทุน หลงเชื่อ ว่ามีผล ประกอบการที่ดี ซึ่งกรณีดังกล่าวมีผู้เสียหายประมาณ 4,500 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 9, 200 ล้านบาท โดยวันนี้มีผู้เสียหายประมาณ 200 คน ที่ยื่นฟ้อง กรรมการ และผู้บริหารบริษัทดังกล่าว เป็นการฟ้องแบบกลุ่ม เพื่อประโยชน์กับผู้ถือหุ้นกู้ทุกคน เบื้องต้นศาลนัดไต่สวนคำร้องการดำเนินคดีแบบกลุ่มในวันที่ 4 กันยายนนี้ เวลา 09.00 น.
ด้านกลุ่มผู้เสียหาย บอกว่า หลังเกิดเรื่องทางบริษัท ไม่เคยติดต่อมาพูดคุยหรือเยียวยาแต่อย่างใด ทั้งที่ การลงทุน ครั้งนี้ มีการซื้อหุ้นกู้ โดยถูกกฎหมาย มี ก.ล.ต. รับรอง เมื่อตรวจสอบบริษัทดังกล่าว มีการแสดงงบการเงินที่ดีมีกำไรต่อเนื่อง ได้รับการจัดอันดับจากบริษัท ทรีสเรทติ้ง อยู่ในระดับ investmentgrade 3บี บวก ให้ผู้ตรวจสอบบัญชี เป็น 1 ใน 4 บริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีใหญ่ของโลก ทำให้หลงเชื่อ ร่วมลงทุนตั้งแต่ปี 2564 แต่ไม่ได้ผลตอบแทน ตามที่ตกลงไว้ ทำให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก เพราะเงินที่นำมาลงทุน เป็นเงินสะสมในครอบครัว บางคนใช้เงินสะสมก้อนสุดท้ายของชีวิตนำมาลงทุน เพื่อหวังดอกเบี้ยมาใช้จ่าย แต่บริษัทกลับเจตนา ฉ้อโกงชัดเจน วันนี้จึงมาร้องต่อศาลแพ่ง กรุงเทพใต้ เอาผิดกรรมการและผู้บริหารบริษัทดังกล่าว ให้ชดใช้ค่าเสียหาย จ่ายเงินลงทุนคืน ให้กับเจ้าหนี้ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นกู้ทุกคน พร้อมเรียกร้องไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ก.ล.ต. แบงก์ชาติ ดีเอสไอ ปปง. ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจสอบสวนกลาง ให้ช่วยกันตรวจสอบ ติดตามตัวผู้กระทำความผิด มาดำเนินคดี เพราะตอนนี้ มีผู้เกี่ยวข้องบางคนหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามตัวกลับมาดำเนินคดีในไทย .-สำนักข่าวไทย