กรุงเทพฯ 5 ก.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ อสมท และภาคีพันธมิตร ร่วมรณรงค์ “ผนึกกำลังร่วมใจ ต้านภัยไซเบอร์ ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน รู้ทันกลโกง”
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อสมท และภาคีพัธมิตร ร่วมรณรงค์ “ผนึกกำลังร่วมใจ ต้านภัยไซเบอร์ ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน รู้ทันกลโกง” เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมรู้เท่าทันและป้องกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจทั่วประเทศ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ นายผาติยุทธ ใจสว่าง รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และผู้แทนจากสถานีตำรวจภูธรทั่วประเทศ ร่วมระบบการประชุมทางไกล ณ ห้องประชุมศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประธานเปิดในงาน กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันผนึกกำลังร่วมกันรณงค์ต่อต้านภัยไซเบอร์ ภัยยุคใหม่ โดยสำหรับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานที่รับแจ้งความ ได้นำข้อมูล แผนประทุษกรรมต่างๆ ของคนร้ายมาจัดทำเป็นสื่อเผยแพร่ความรู้ให้ประชาชน จัดทำแบบทดสอบและจัดโครงการอบรมครูไซเบอร์ อบรมให้ความเรื่องภัยออนไลน์ให้ผู้แทนจากหน่วยงานองค์กรต่างๆ รวมทั้งสถาบันการศึกษา เพื่อนำไปเผยแพร่ให้บุคลากรในองค์กร ครอบครัว คนใกล้ชิด เพื่อลดปัญหาจากการถูกหลอกลวงทางออนไลน์
พร้อมเน้นย้ำขอให้ประชาชนตระหนักรู้เมื่อถูกเชิญชวนทางออนไลน์ อย่ารีบ อย่าโอน หากไม่แน่ใจสามารถปรึกษาตำรวจได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1441 หรือ 191 รวมทั้งสามารถหาความรู้เรื่องกลโกง หรือแผนประทุษกรรมต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์ www.เตือนภัยออนไลน์.com หรือ facebook เตือนภัยออนไลน์
ขณะที่ พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ภัยทางไซเบอร์เป็นภัยระดับชาติที่คุกคามต่อเศรษฐกิจของประเทศ สร้างความเสียหายมูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท และมีผู้เสียหายกว่า 300,000 ราย ซึ่งยังไม่รวมถึงความเสียหายจากการพนันออนไลน์ หากทุกหน่วยงานไม่ร่วมมือกันป้องกันปราบปราม จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศอย่างมาก อาจมีเงินที่ไหลออกนอกประเทศปีละกว่า 40,000-50,000 ล้านบาท ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอความร่วมมือจากทุกองค์กรในวันนี้ เพื่อมาร่วมเรียนรู้แนวทางป้องกัน ลดความเสียหายมูลค่าความเสียหายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต.-สำนักข่าวไทย