ศาลอาญา 19 มิ.ย. – “ชูวิทย์” เชื่อกรณีตำรวจจังหวัดชลบุรี เรียกเงิน 140 ล้านบาท เครือข่ายเว็บพนัน เป็นศึกสีกากี มีคนอยู่เบื้องหลัง และอาจเชื่อมโยงแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนต่อไป มองว่าผู้บังคับการจังหวัดชลบุรี เป็นแค่หมากตัวหนึ่งในเกมเท่านั้น
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ กล่าวถึงกรณีการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องประเด็นรีดทรัพย์ผู้ต้องหา จำนวน 140 ล้านบาท ของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และต่อมาชูวิทย์โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการแซะเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ. ตร) คนใหม่ที่กำลังจะมีการพิจารณาในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า
นายชูวิทย์ เปิดเผยว่า วันนี้ประเทศไทยค่อนข้างประหลาด จากตำรวจเป็นโจร โจรเป็นตำรวจ ตามปกติแล้วไม่มีโจรที่ไหนอยากไปมีเรื่องกับตำรวจ แต่เหตุการณ์นี้คงจะมากเกินไป มีความรักและแค้นมากจนทำให้โจรต้องมาแจ้งจับตำรวจ มองว่ากรณีของเป้ อาจแตกต่างตรงที่มีผู้อยู่เบื้องหลัง เนื่องจากถูกรีดเงินจำนวนมากและต่อเนื่องเป็นเวลานานจนไม่มีทางออกและตัดสินใจออกมาเปิดโปง การแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อไปที่ใกล้จะถึงนี้ ส่วนผู้บังคับการจังหวัดชลบุรี เปรียบเป็นแค่หมากตัวหนึ่งเท่านั้น ที่มีผู้อยู่เบื้องหลัง และใหญ่กว่าคอยควบคุม หากจะกระทำการเองก็คงจะทำไม่ได้ เพราะความรู้ความสามารถอาจจะไม่พอ เรื่องนี้ตนจึงคิดว่ามีคนที่ใหญ่กว่านั้นรู้เรื่องมากกว่า
สำหรับตัวละครสำคัญ คือนายวีระ นาทรัพย์ หรือบอย ตัวละครสำคัญ ซึ่งแหล่งข่าวตนรายงานว่าจะมามอบตัวช่วงบ่ายของวันนี้ ซึ่งบอย จะทำหน้าที่เป็นผู้รับหน้าเสื่อ หรือคอยเคลียร์ให้กับกลุ่มพนัน และสิ่งผิดกฎหมาย และได้เปอร์เซ็นต์ในการเคลียร์ แต่ละครั้งนายบอยเป็นที่ไว้วางใจ ซึ่งตำรวจภาคตะวันออกรู้จักคุ้นเคยดี มีความเกี่ยวโยงตั้งแต่สมัยของหลงจู๋สมชาย เป็นผู้ที่มีทรัพย์สินมาก คิดว่าถ้ามีการมอบตัวน่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในภาคธุรกิจสีเทาของฝั่งตะวันออก เพราะบอย มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน ทำให้บอยมีบทบาทในการรีดเงินต่าง ๆ และมีความเป็นไปได้บอย น่าจะมีเส้นสายมากกว่านายต้น ซึ่งเป็นสองคนที่เกี่ยวกับการรีดทรัพย์
ที่ผ่านมาการจ่ายเงินของเว็บไซต์พนันมีราคามาก สำหรับประเทศไทยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึง 3 หน่วยงาน แต่เว็บพนันเหล่านี้ต่างก็ไม่ได้ลดลง ฉะนั้นจึงต้องติดตามว่ารัฐบาลใหม่ที่มาจะจัดการเรื่องนี้ได้เพิ่มขึ้นมากหรือไม่ เพราะการทุจริตคอร์รัปชั่น กลายเป็นเรื่องปกติกลายเป็นเรื่องความรัก รักมากต้องจ่ายมาก
ส่วนวลี “เป้ รักผู้การเท่าไร ให้เป้เขียนมา” เป็นคำพูดที่มีการร่างบทมาก่อน ประกอบกับ เงินจำนวนกว่า 140 ล้านบาท เป็นสิ่งล่อตาล่อใจ ให้ตำรวจไขว้เขว เชื่อว่าอีก 2-3 วัน จะมีความชัดเจนในเรื่องนี้ ให้รอติดตาม ส่วนผู้การฯ จะเป็นคนพูดเองหรือไม่ตนไม่ขอพูด
ทั้งนี้ การที่ผู้ต้องหาอย่างเป้มาแจ้งความตำรวจถือว่าเป็นเรื่องที่ประหลาด ถ้าโจรไม่ได้ถูกบีบขนาดนั้นคงจะไม่กล้าที่จะมาแจ้งความตำรวจ เกมนี้ที่มองเห็นอาจมีอะไรลึกซึ้งไปกว่านั้น ในระยะเวลาที่ไม่นานที่จะมีการผลัดเปลี่ยนตำแหน่งทุกคนก็จะต้องแสดงผลงาน ส่วนตนเองรู้มากกว่านั้นแต่พูดตรง ๆว่าไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวด้วยไม่ใช่เรื่องของตน ไม่ใช่ศึกของตน ส่วนผู้ที่แข่งกันทำผลงานในฐานะแคนดิเดต ผบ.ตร. มีทั้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนอื่น ๆ ต่างก็ต้องแข่งขันสร้างผลงาน เป็นเรื่องปกติ. -สำนักข่าวไทย