ศาลเลื่อนอ่านฎีกาครั้งที่ 10 คดี ‘ธาริต’ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

กทม. 16 มิ.ย.- ศาลอาญาเลื่อนอ่านฎีกาครั้งที่ 10 “ธาริต” กับพวก ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ แจ้งข้อหา “อภิสิทธิ์ – สุเทพ” สั่งฆ่าประชาชน เหตุสลายม็อบ นปช.ปี 53 ไปเป็นวันที่ 10 ก.ค.นี้ หลังรอบล่าสุด เจ้าตัวยื่นป่วยบ้านหมุน โดยศาลสั่งไต่สวนใบรับรองเเพทย์ หลังตรวจพบรายมือชื่อไม่ตรงกัน พร้อมเบิกตัว พญ. รพ.พญาไท2 มาไต่สวน 3 ก.ค.นี้


เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ห้องพิจารณา 902 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ครั้งที่ 9 คดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หมายเลขดำ อ.310/2556 ที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ผอ.ศอฉ.) ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ อดีตหัวหน้าชุดสอบสวนคดีการเสียชีวิตของประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐ จากเหตุรุนแรงทางการเมืองปี 2553, พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ และ ร.ต.อ. ปิยะ รักสกุล ในฐานะพนักงานสอบสวน เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนกระทำการโดยมีเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 200 วรรคสอง กรณีนายธาริตกับพวกแจ้งข้อหาดำเนินคดีนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ฐานสั่งฆ่าประชาชน ในการสลายม็อบ นปช.เมื่อปี 53 จำเลยทั้งสี่ ให้การปฏิเสธต่อสู้คดี

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ลงโทษพวกจำเลย โดยศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พวกจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษากลับให้จำคุกจำเลยคนละ 3 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยไว้คนละ 2 ปี ไม่รอลงอาญา จำเลยทั้งสี่ ยื่นฎีกา ขอให้ยกฟ้อง


ต่อมาวันที่ 2 ก.พ. 2566 ศาลนัดอ่านคำพิพากษาฎีกาคดีนี้เป็นครั้งที่ 7 แต่ธาริต มอบหมายให้ทนายความยื่นคำร้องพร้อมใบรับรองแพทย์ ขอเลื่อนฟังคำพิพากษาศาลฎีกาออกไปก่อน เนื่องจากต้องเข้ารับการผ่าตัดนิ่วในไต ที่โรงพยาบาลโดยแพทย์ให้รักษาและรอดูอาการเป็นเวลา 3 เดือน

อย่างไรก็ตาม ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ธาริต จำเลยที่ 1 ขอเลื่อนฟังคำพิพากษาฎีกาโดยอ้างว่าป่วยมาแล้วหลายครั้งนานกว่า 1 ปี มีเจตนาประวิงคดีให้ล่าช้าและมีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับนายธาริตเพื่อมาฟังคำพิพากษาฎีกาและนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาครั้งที่ 8 เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมาโดยในวันดังกล่าวนายธาริต พร้อมทนายความเดินทางมาศาล

ทั้งนี้ทนายความนายธาริตจำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอให้ส่งสำนวนคืนศาลฎีกา เพื่อพิจารณาสั่งให้ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพ.ร.ป. ว่าด้วยการป้องกันและปรับปรามการทุจริต มาตรา 4 ซึ่งเป็นบทกฎหมายที่ใช้บังคับแก่คดีขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 5 วรรคแรก มาตรา 26, 27, 29 วรรคแรก ส่งผลให้กฎหมายดังกล่าวเป็นอันใช้บังคับกับคดีไม่ได้ ตามคำร้องฉบับลงวันที่ 23 มีนาคม 2566 รวมทั้งนายธาริตจําเลยที่ 1 ขอถอนคำให้การฉบับเดิม และขอให้การใหม่เป็นรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เพื่อขอให้ศาลฎีกาลงโทษสถานเบา หรือรอการลงโทษด้วย


วันนี้ จำเลย 3 คนเดินทางมาศาลยกเว้นจำเลยที่ 1 นายธาริต ซึ่งมีทนายความรับมอบอำนาจ พร้อมนายประกัน มาศาลพร้อมยื่นคำร้อง 2 ฉบับ โดนฉบับเเรกยื่นขอเลื่อนการฟังคำพิพากษาในวันนี้ออกไปเนื่องจากมีอาการป่วยบ้านหมุนพร้อมใบรับรองเเพทย์ ส่วนอีกฉบับเป็นคำร้องเพิ่มเติมที่เคยให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไปก่อนเเล้ว

โดยศาลพิเคราะห์เเล้วให้ส่งคำร้องทั้ง 2 ฉบับให้ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยในวันนี้ เเละจะนัดฟังคำสั่งว่าศาลฎีกาจะมีคำวินิจฉัยไปเเนวทางใด เเละจะมีคำสั่งในวันนี้เลยหรือไม่ พร้อมนัดคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายมาฟังคำสั่งในเวลา 14.00 น.

เวลา 14.00 น.ศาลอาญาได้เเจ้งจำเลยว่าขณะนี้ทางศาลฎีกาอยู่ระหว่างพิจารณาทำคำสั่ง ซึ่งศาลฎีกาเเจ้งว่าจะมีคำสั่งในวันนี้ ศาลอาญาจึงเเจ้งให้จำเลยที่มาในวันนี้อยู่รอฟังจนกว่าคำสั่งของศาลฎีกาจะส่งมายังศาลอาญา

ต่อมาเวลา 17.00 น.ศาลอาญาอ่านคำสั่งศาลฎีกา พิจารณาแล้ว เห็นว่า จำเลยที่ 1 ใช้อาการเจ็บป่วยเป็นคำร้องขอเลื่อนการฟังคำสั่งคำพิพากษามาแล้วหลายครั้ง และมีจำนวนหลายครั้งที่มีใบรับรองแพทย์จาก พญ. คนหนึ่ง จากโรงพยาบาลพญาไท 2 แต่พบว่าการลงลายมือชื่อในใบรับรองแพทย์แต่ละครั้งไม่เหมือนกัน เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า ศาลฎีกาให้ศาลชั้นต้นกำหนดนัดอ่านคำพิพากษาภายใน 30 วัน ให้ไต่สวนใบรับรองแพทย์และแพทย์หญิงคนดังกล่าว และอาการป่วยของจำเลยที่1 ว่ามีอาการเจ็บป่วยจริง เเละไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ตามกำหนดนัดเป็นข้อเท็จจริงถูกต้องหรือไม่ โดยศาลอาญานัดไต่สวนใบรับรองเเพทย์ในวันที่ 3 ก.ค.เวลา 09.00 น.โดยจะมีการเบิก พญ. มาไต่สวนและเลื่อนฟังคำสั่งและคำพิพากษาออกไปเป็นวันที่ 10 ก.ค.เวลา 09.00 น.

ภายหลังนายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความโจทก์ เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ศาลฎีกามีคำสั่งเฉพาะประเด็นที่นายธาริต จำเลยที่ 1 ขอเลื่อนฟังคำพิพากษา เนื่องจากเหตุเจ็บป่วยและมีใบรับรองแพทย์ แต่เนื่องจากลายมือชื่อของแพทย์หญิงที่รักษาอาการเจ็บป่วยและใบรับรองแพทย์ให้กับนายธาริตจำเลยที่ 1 แตกต่างจากครั้งก่อน จึงให้เรียกแพทย์หญิงมาไต่สวน ในวันที่ 3 ก.ค.2566 ด้วย และนัดฟังคำสั่งที่นายธาริตขอให้ส่งคำร้องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และ หรือคำพิพากษาศาลฎีกา ในวันที่ 10 ก.ค.2566 ซึ่งตนเองไม่ได้กังวลเพราะการดำเนินการต่างๆ เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายอยู่แล้ว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม

กกต.ขอบคุณ ปชช.ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

เลขาธิการ กกต. แถลงสถานการณ์หลังปิดหีบบัตรเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ ขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ พร้อมชี้แจงกรณีบัตรเลือกตั้งหายที่จังหวัดบึงกาฬ

นายกฯ วิดีโอคอลให้กำลังใจ 5 คนไทยที่อิสราเอล

นายกรัฐมนตรี วิดีโอคอลให้กำลังใจ 5 คนไทยที่อิสราเอล ดีใจทุกคนสุขภาพแข็งแรงดี อยากให้ตรวจเช็กให้เรียบร้อยก่อนกลับไทย ยืนยันรัฐบาลดูแลสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่