รวบ “เจ๊เปิ้ล-สามี” ตุ๋นขายโครงการที่ดินทิพย์ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

นครราชสีมา 16 มิ.ย.- ตำรวจรวบ “เจ๊เปิ้ล-สามี” ผู้ต้องหาคดีตุ๋นขายโครงการที่ดินทิพย์ หลังผู้เสียหายกว่า 200 คน รวมตัวแจ้งความที่เชียงใหม่ เมื่อ 12 มิ.ย. มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 100 ล้านบาท บางรายสูญเงินเก็บทั้งชีวิต


กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้กองบังคับการตำรวจทางหลวง โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท.ผบก.ทล., ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมร่วมกันจับกุม 1.นางสาวพิชามญชุ์ หรือเปิ้ล อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ลงวันที่ 22 พ.ค. 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” และนายคณิศร อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ลงวันที่ 22 พ.ค. 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” สถานที่จับกุม ทล.201 กม.29 ต.ตะเคียน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ต่อเนื่องบริเวนริมถนน อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

จากกรณีเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 มีผู้เสียหายกว่า 200 คน รวมตัวแจ้งความที่ จ.เชียงใหม่ หลังถูกนางพิชามญชุ์ หรือเจ๊เปิ้ล และสามี หลอกให้ซื้อที่ดินทิพย์ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยอ้างว่าจะขายเป็นเงินผ่อนรายเดือนระยะยาวไม่มีดอกเบี้ย ในพื้นที่ อ.สารภี, อ.แม่ริม, อ.สันกำแพง และพื้นที่ อ.เมือง จ.ลำพูน พร้อมทั้งมีการขึ้นป้ายโฆษณาทางสื่อออนไลน์ระบุว่าขายที่ดินราคาถูก จนมีผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อจ่ายเงินจำนวนมาก เพื่อแลกกับที่ดินทิพย์เหล่านั้น มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 100 ล้านบาท


พฤติการณ์ของสามีภรรยาคู่นี้ จะใช้วิธีการขึ้นป้ายโฆษณาตามจุดย่านชุมชน ลงโฆษณาในโซเชียลมีเดีย ขายที่ดินจัดสรรในราคาถูก ซึ่งมีการระบุตัวเลขราคาชัดเจน รวมถึงสามารถผ่อนชำระกับบริษัทโดยตรง ไม่ผ่านสถาบันการเงินหลัก ใช้เพียงบัตรประจำตัวประชาชนเท่านั้น ซึ่งสามารถจองและซื้อได้ทั้งคนไทยและคนต่างด้าว ทำให้ประชาชนที่ต้องการมีที่ดินหลงเชื่อเข้าไปติดต่อซื้อที่ดิน โดยในสัญญาจะมีการอ้างผ่อนชำระแบบไม่เสียดอกเบี้ย และผ่อนชำระเกิน 6 เดือน สามารถเข้าไปสร้างที่อยู่อาศัยได้ บางคนผ่อนครบสัญญา แต่ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ จึงนำไปสู่การตรวจสอบ กลับพบว่าที่ดินที่ตนเองซื้อไม่ใช่ที่ดินของบริษัท ซึ่งผู้เสียหายหลายคนในจำนวนนั้น นอกจากคนไทยแล้ว ยังมีคนต่างด้าว ที่เข้ามาทำงานในจังหวัดเชียงใหม่ หลายคนมีครอบครัวและมีความหวังจะมีที่ดิน ปลูกบ้านเป็นไว้เป็นทรัพย์สมบัติให้ลูก บางรายใช้เงินเก็บที่รับจ้างมาทั้งชีวิตมาวางมัดจำและผ่อนจ่ายเงินงวดตามสัญญา ซึ่งบางรายสูญเงินรวมไปกว่า 500,000 บาท แต่กลับพบว่าเป็นที่ดินทิพย์ เมื่อพยายามติดต่อเพื่อยกเลิกสัญญาและขอเงินคืน กลับถูกเพิกเฉย

นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกซื้อที่ดินทิพย์ สูญเงินไปกว่า 100,000 บาท ก่อนที่เวลาต่อมาจะเกิดอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิตพร้อมภรรยา ส่วนลูกสาว วัย 8 ปี บาดเจ็บสาหัส ซึ่งน้องชายของผู้เสียหายพยายามติดต่อขอคืนเงินจากผู้ต้องหา เพื่อจะนำมาเลี้ยงดูหลานสาว กลับถูกปฏิเสธ และติดต่อไม่ได้ จึงร้องขอให้ตำรวจเร่งตามจับกุมตัวมาโดยเร็ว

ต่อมาตำรวจ สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย กระทั่งวันที่ 14 มิ.ย.2566 ตำรวจภูธรภาค 5 ประสานมายังตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ให้ช่วยติดตามจับกุมนางสาวพิชามญชุ์ และนายคณิศร ผู้ต้องหาสองสามีภรรยา หลังจากได้รับการประสานข้อมูล พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ตำรวจทางหลวง ร่วมกับตำรวจกองปราบปราม วิเคราะห์ข้อมูล จนเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองจะใช้เส้นทางถนนหลวงเชียงใหม่-นครราชสีมา เป็นเส้นทางหลบหนี ตำรวจทางหลวงจึงวางแผนตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อปิดกั้นช่องทางหลบหนี บนเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีทันที หลังจากได้รับการประสานข้อมูล จากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาได้ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีแดง ออกจากปั๊มน้ำมันในพื้นที่ ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร มุ่งหน้าไปยัง จ.นครราชสีมา


ต่อมาวันที่ 15 มิ.ย.2566 เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนข้อมูลจากรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีแดง ที่ผู้ต้องหาใช้หลบหนีการจับกุม พบว่ากำลังใช้อยู่บนทางหลวงหมายเลข 201 ชัยภูมิ-สีคิ้ว มุ่งหน้าเข้า จ.นครราชสีมา จึงประสานข้อมูลตำรวจทางหลวงสกัดจับพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ตรงตามข้อมูลที่แจ้ง จึงเรียกให้หยุด เพื่อตรวจสอบ ก่อนจะพบว่าผู้ขับขี่คือ นางสาวพิชามญชุ์ จากนั้นเกลี้ยกล่อมนางสาวพิชามญชุ์ ให้ติดต่อไปยังนายคณิศร ผู้ต้องหาอีกรายซึ่งเป็นสามีจนยอมมอบตัว ในพื้นที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

สอบถามผู้ต้องหาทั้งสองเบื้องต้นให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่รู้เห็นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมนครศรีฯ

น้ำท่วมนครศรีธรรมราช เริ่มคลี่คลาย

สถานการณ์น้ำท่วม จ.นครศรีธรรมราช เริ่มคลี่คลาย ไม่มีฝนตกลงมาเติม ทำให้ระดับน้ำลดลงในหลายจุด ถนนสายหลักกลับมาเปิดให้รถสัญจรได้แล้ว

ตร.ค้นบ้านหรูย่านราชพฤกษ์ เปิดบริษัท เบื้องหลังฟอกเงินเว็บพนัน

ตำรวจไซเบอร์เข้าค้นบ้านพักหรูย่านราชพฤกษ์ พบมีการเปิดเป็นบริษัทอำพราง เบื้องหลังใช้ฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ ลมแรง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง โดยภาคอีสานและภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็นในตอนเช้า กทม.-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ

ชุมชนเทือกเขาหลวงเสียหายหนัก วอนเร่งช่วยด่วน

หลายพื้นที่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังคงเดือดร้อนจากอุทกภัยครั้งใหญ่ โดยเฉพาะชุมชนบริเวณเทือกเขาหลวง เสียหายหนักจากน้ำป่า ชาวบ้านวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยด่วน

ขวัญใจสวนเสือพัทยา “สุดเขต” ลูกเสือโคร่งสีทองหน้าแบ๊ว

น้องสุดเขต เสือโคร่งสีทองหนึ่งเดียวในภาคตะวันออก กลายเป็นขวัญใจดวงใหม่ “หน้าแบ๊ว ขี้เล่น” อายุเพียง 11 เดือน