“บิ๊กโจ๊ก” ถกกรมโรงงานปมไซยาไนด์พรุ่งนี้

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – “บิ๊กโจ๊ก” เตรียมเข้าสอบสวนกรมโรงงานฯ พรุ่งนี้ กรณีนำเข้า ครอบครอง และจำหน่าย สารไซยาไนด์ ส่วนคนใกล้ชิด “แอม” พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา 30 พ.ค.นี้


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช ทนายของ นางสรารัตน์ หรือ แอม วางยาฆ่าชิงทรัพย์ เตรียมจะฟ้องตำรวจในความผิด ม.157 จำนวน 3 ราย ว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบเรื่อง แต่สิทธิในการฟ้องมีทุกคน รวมถึงตัวทนายความเห็นด้วย แต่ตำรวจทำงานตามพยานหลักฐาน ไม่ได้ทำงานตามกระแสของสังคม เมื่อพยานหลักฐานเพียงพอก็ขออนุมัติหมายจับ ซึ่งศาลก็พิจารณาตามเหตุผลและพยานหลักฐาน ซึ่งการที่ศาลให้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับพยานหลักฐาน แต่เป็นเรื่องของการแจ้งความผิดเดียวกับรองอ๊อฟ ที่ไม่ได้ถูกออกหมายจับ ศาลจึงพิจารณาให้ออกเป็นหมายเรียก

ทั้งนี้ ยืนยันแม้ทนายพัช จะฟ้องเจ้าหน้าที่ ก็ไม่กระทบรูปคดี ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย และมีหน้าที่รักษาความเป็นธรรม สืบสวนสอบสวนจับกุมผู้ร้าย ซึ่งการทำหน้าที่ดังกล่าวสุ่มเสี่ยงต่อการถูกฟ้องดำเนินคดีอยู่แล้ว ตำรวจแค่ต้องตอบให้ได้และพิสูจน์ว่าดำเนินการตามพยานหลักฐาน หากปฏิบัติตามกฎหมาย กฎหมายก็จะเป็นกรอบคุ้มครองตัวเราเอง ยืนยันว่าการที่ทนายพัช ฟ้องตำรวจในลักษณะเชิงแก้เกี้ยว จะไม่ทำให้ตำรวจเกิดอคติในการทำคดี


ส่วนตัวทนายพัช เมื่อวานนี้มีการติดต่อขอมอบตัวที่กองปราบปรามตอนเวลา 19.00 น. แต่ไม่มาตามที่แจ้งเอาไว้ ซึ่งการติดต่อขอมอบตัวเป็นเรื่องที่เจ้าตัวติดต่อเอง เมื่อไม่มา เบื้องต้นพนักงานสอบสวนกองปราบได้ทำหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างประสานไปยังผู้ถูกกล่าวหา  เพื่อยืนยันที่อยู่ในการส่งหมายเรียก 

ทั้งนี้ เมื่อทนายพัช มามอบตัวกับพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก การจะให้หรือไม่ให้ประกันตัวขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน และมีหลักเกณฑ์อยู่แล้วตามกรอบของกฎหมาย ซึ่งตามกฎหมายพนักงานสอบสวนสามารถขอหมายขังได้ ตาม ป.วิอาญา 134 หรือไม่ขอหมายขังก็ได้

ส่วนการเข้าพูดคุยกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมพรุ่งนี้ (24 พ.ค.) เป็นเรื่องของข้อกฎหมายและอำนาจหน้าที่ รวมถึงการกระทำความผิดของโรงงานที่ปล่อยปละละเลยนำสารไซยาไนด์ไปขาย เพื่อเตรียมที่จะดำเนินคดีต่อโรงงานและเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจมีข้อมูลโรงงานที่นำไปขาย แต่ต้องมีการพูดคุยกับเจ้าของ พ.ร.บ. ว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดอะไร หากเข้าข่ายการกระทำความผิดทางตำรวจจะทำรายงานการสอบสวนและให้กรมโรงงานเป็นผู้กล่าวหาในฐานะเจ้าของ พ.ร.บ. ซึ่งกรณีนี้จะแยกเป็นคดีใหม่อีก 1 คดี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหาย 18 จังหวัด

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหายเพิ่มขึ้นเป็น 18 จังหวัด เฉพาะกรุงเทพฯ เสียชีวิต 9 ราย สูญหาย 79 ราย ยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากอาคารถล่ม ขณะที่กรมบัญชีกลางขยายวงเงินทดรองราชการเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 200 ล้านบาท

ยังไม่หมดหวัง กทม. เดินหน้าเต็มที่กู้ชีพตึกถล่ม

ยังไม่หมดหวัง กทม. เดินหน้าเต็มที่กู้ชีพตึกถล่มจตุจักร เข้าสู่ 48 ชม. นานาชาติร่วมส่งเครื่องมือช่วยเหลือ พร้อมเร่งจัดการจราจรให้ทันวันพรุ่งนี้

หุ่นยนต์กู้ภัย iRAP Robot สแกนตึกถล่มหนุนภารกิจกู้ภัย

มจพ. นำหุ่นยนต์กู้ภัย iRAP Robot เข้าพื้นที่สแกนตรวจสอบโครงสร้างตึกถล่ม ประเมินความปลอดภัย ก่อนให้กู้ภัยเข้าช่วยเหลือผู้รอดชีวิต ด้านครอบครัวยังเฝ้ารออย่างมีความหวัง