ระวังโดนหลอกยืนยันสิทธิ “รับปันผล-บัตรเติมน้ำมัน”

กทม. 22 เม.ย.- ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยรายวัน ล่าสุดปลอม SMS บริษัท ทิพยประกันภัย อ้างให้เงินปันผลและบัตรเติมน้ำมันฟรี หลอกเหยื่อให้ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมโทรศัพท์มือถือ


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นพนักงาน บริษัททิพยประกันภัย ส่งข้อความสั้น (SMS) และโทรศัพท์ไปยังประชาชนแจ้งว่าได้รับสิทธิ์เงินปันผล หรือได้รับบัตรเติมน้ำมันฟรี โดยให้แอดไลน์ปลอมของบริษัท แล้วหลอกลวงกดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมโทรศัพท์มือถือ ดังนี้ ตามที่ บช.สอท. ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์เตือนภัยกรณี การเปิดเผยรายชื่อ 29 หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่มิจฉาชีพมักนำมาแอบอ้างหลอกลวงประชาชน ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่เดือน ต.ค.65 – เดือน มี.ค.66 ปรากฏว่ายังคงมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้รับรายงานจากกองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ตอท.) ว่า พบผู้เสียหายหลายรายได้รับข้อความสั้น (SMS) จากมิจฉาชีพซึ่งแอบอ้างเป็นพนักงาน บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด แจ้งว่า ผู้เสียหายได้รับสิทธิ์เงินปันผล จำนวน 2,000 บาท หรือได้รับบัตรน้ำมันฟรี มูลค่า 3,000 บาท เมื่อผู้เสียหายกดลิงก์ที่แนบมากับข้อความดังกล่าว จะเป็นการเพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันไลน์ของ บริษัท ทิพยประกันภัย ที่มิจฉาชีพปลอมขึ้นมา จากนั้นผู้เสียหายจะถูกสอบถามรายละเอียดต่างๆ มักเริ่มจากสอบถามว่าได้รับการแจ้งมาจากช่องทางใด ขอทราบชื่อนามสกุล พร้อมทั้งขอหมายเลขโทรศัพท์ไว้เพื่อติดต่อกลับ เมื่อตอบคำถามเสร็จสิ้น จะมีหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยโทรมายังผู้เสียหาย อ้างเป็นพนักงานบริษัทฯ สอบถามว่าอยู่บุคคลเดียวหรือไม่ หากอยู่บุคคลเดียวให้เปิดลำโพงโทรศัพท์มือถือเพื่อทำตามขั้นตอน จากนั้นมิจฉาชีพจะส่งลิงก์ทางไลน์ซึ่งได้เพิ่มเพื่อนไว้ก่อนหน้านี้ ให้ติดตั้งแอปพลิเคชันของบริษัทปลอม อ้างว่าจะต้องขอสิทธิ์ผ่านช่องทางนี้เท่านั้น เมื่อผู้เสียหายกดลิงก์จะมีการขอสิทธิ์ติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จัก แจ้งว่าเป็นไฟล์ที่อาจเป็นอันตราย หรือไฟล์นามสกุล .apk หรือแจ้งว่าเป็นซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย มีการหลอกให้ตั้งรหัสผ่าน 6 หลัก จำนวนหลายๆ ครั้ง เพื่อหวังให้ผู้เสียหายกรอกรหัสชุดเดียวกับรหัสการเข้าถึง หรือการทำธุรกรรมการเงินของแอปพลิเคชันธนาคารต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย รวมไปถึงขอสิทธิ์ในการควบคุมอุปกรณ์ หรือโทรศัพท์มือถือของเหยื่อ เช่น ดูและควบคุมหน้าจอ ดูและดำเนินการ เป็นต้น โดยในขั้นตอนนี้มิจฉาชีพจะคอยสอนผู้เสียหายว่าต้องทำอย่างไร กระทั่งเมื่อมิจฉาชีพได้สิทธิ์ควบคุมอุปกรณ์หรือโทรศัพท์มือถือแล้ว จะทำการล็อกหน้าจอโทรศัพท์ ทำให้เสมือนโทรศัพท์ค้าง โดยมักจะแสดงข้อความว่า อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ ห้ามใช้งานโทรศัพท์มือถือ หรือมิจฉาชีพอาจจะให้ทำการคว่ำโทรศัพท์มือถือไว้ จากนั้นมิจฉาชีพจะสามารถนำรหัสที่ผู้เสียหายเคยกรอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ทำการโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหาย

ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65 – 16 เม.ย.66 พบว่าการหลอกลวงให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมโทรศัพท์มือถือ มีผู้เสียหายดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ผ่านระบบการรับแจ้งความออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กว่า 3,346 เรื่อง มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจัดอยู่ในลำดับที่ 9 จาก 14 ประเภท ของการหลอกลวงออนไลน์ทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแอบอ้างเป็นหน่วยงานต่างๆ หลอกลวงให้ประชาชนติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมเอาทรัพย์สินของประชาชน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง


สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง รวมถึงวางมาตรการป้องกันสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน ที่ผ่านมา บช.สอท. โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบมาโดยตลอด มุ่งเน้นการสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

โฆษก บช.สอท. กล่าวอีกว่า การหลอกลวงในรูปแบบดังกล่าวยังคงเป็นการหลอกลวงในรูปแบบเดิมๆ เพียงแต่มิจฉาชีพจะเปลี่ยนชื่อหน่วยงาน และเปลี่ยนเนื้อหา หรือสิทธิประโยชน์ไปตามวันเวลา และสถานการณ์ในช่วงนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งว่าได้รับสิทธิต่างๆ หรือได้รับเงินคืน หรือให้อัปเดตข้อมูล โดยในขั้นตอนสุดท้ายจะหลอกลวงให้เหยื่อกดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมของหน่วยงานที่นำมาแอบอ้าง ที่ผ่านมาก็ปรากฏในหลายๆ หน่วยงาน มิจฉาชีพจะอาศัยความไม่รู้ และความโลภ ของประชาชนเป็นเครื่องมือ ใช้ความสมัครใจของเหยื่อให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม และมีการใช้สัญลักษณ์ของหน่วยงาน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด ได้ออกมาประกาศแจ้งเตือนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ว่าข้อความสั้นที่แนบมากับลิงก์ และลิงก์ที่ให้ติดตั้งแอปพลิเคชันดังกล่าวไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ แต่อย่างใด โดยสามารถติดต่อกับบริษัทได้ที่ https://www.dhipaya.co.th หรือแอปพลิชัน TIP Insure ซึ่งต้องติดตั้งผ่าน App Store หรือ Play Store เท่านั้น หรือโทรศัพท์หมายเลข 1736 ฝากย้ำเตือนไปยังประชาชน ไม่ว่ามิจฉาชีพจะมาในรูปแบบใดๆ ก็ตาม ให้ระมัดระวังและมีสติอยู่เสมอ โดยหากพบเห็นข้อความสั้น (SMS) หรือลิงก์ ในลักษณะดังกล่าวให้แจ้งเตือนไปยังบุคคลใกล้ชิด และหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานนั้นๆ ให้ช่วยตรวจสอบทันที เพื่อลดการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ​ทั้งนี้ ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงแนวทางการป้องกัน ดังนี้


  1. ​ไม่กดลิงก์ที่เเนบมากับข้อความสั้น (SMS) หรือที่ส่งมาทางสื่อสังคมออนไลน์ ไม่กดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันต่างๆ เพราะอาจเป็นการดักรับข้อมูล หรือการฝังมัลแวร์ของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มาพร้อมกับข้อความในลักษณะการให้สิทธิพิเศษ ให้รางวัล หรือโปรโมชันต่างๆ
  2. หากได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย และมีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ให้ขอชื่อนามสกุล และหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อกลับของเจ้าหน้าที่ โดยให้แจ้งว่าจะติดต่อกลับไปภายหลัง
  3. ตรวจก่อนว่ามาจากหน่วยงานนั้นๆ จริงหรือไม่ โดยการโทรศัพท์ไปสอบถามผ่านหมายเลขคอลเซ็นเตอร์ หรือผ่านเว็บไซต์ทางการของหน่วยงานนั้น โดยตรง รวมถึงตรวจสอบว่ามีการประกาศแจ้งเตือนการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวหรือไม่
  4. ระวัง LINE Official Account ปลอม โดยสังเกตบัญชีที่ผ่านการรับรองจะมีสัญลักษณ์โล่สีเขียว หรือโล่สีน้ำเงิน หากเป็นโล่สีเทาหรือไม่มีโล่เลยจะเป็นบัญชีทั่วไปยังไม่ได้ผ่านการรับรอง ต้องตรวจสอบยืนยันให้ดีเสียก่อน
  5. ไม่ติดตั้งโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันที่ผู้อื่นส่งมาให้โดยเด็ดขาด แม้จะเป็นโปรแกรมที่รู้จักก็ตาม เพราะอาจเป็นแอปพลิเคชันปลอม โดยหากต้องการใช้งานให้ทำการติดตั้งผ่าน App Store หรือ Play Store เท่านั้น
  6. ไม่อนุญาตให้ติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จัก หรือไฟล์ที่อาจเป็นอันตราย ไฟล์นามสกุล .Apk หรือซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย
  7. ไม่อนุญาตให้เข้าถึงอุปกรณ์ และควบคุมอุปกรณ์ หรือโทรศัพท์มือถืออย่างเด็ดขาด
  8. ไม่กรอกข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลทางการเงินใดๆ ลงในลิงก์ หรือแอปพลิเคชันในลักษณะดังกล่าวโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งรหัสผ่าน 6 หลัก ที่ซ้ำกับรหัสแอปพลิเคชันของธนาคารต่างๆ
  9. หากท่านติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมแล้ว ให้รีบทำการ Force Reset หรือการบังคับให้อุปกรณ์นั้นรีสตาร์ต (ส่วนใหญ่เป็นการกดปุ่ม Power พร้อมปุ่มปรับเสียงค้างไว้) ในกรณีเกิดอาการค้างไม่ตอบสนอง หรือเปิดโหมดเครื่องบิน (Airplane Mode) หรือปิดเครื่องเพื่อตัดสัญญาณไม่ให้โทรศัพท์สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ ถอดซิมการ์ดโทรศัพท์ออก หรือทำการปิด Wi-fi Router
  10. อัปเดตระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์ หรืออุปกรณ์ให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ .-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เยี่ยมชมจุดเจาะน้ำบาดาล พร้อมดื่มน้ำแร่เลาขวัญ

กาญจนบุรี 9 มิ.ย.-นายกฯ ตรวจราชการ เยี่ยมชม 2 โครงการน้ำบาดาลแก้ภัยแล้ง จ.กาญจบุรี เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นและทั่วถึง เตรียมใช้งบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแก้ปัญหาน้ำ เผยรอยยิ้มของคนกาญจนบุรีเป็นกำลังใจสำคัญในการทำงานของรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่จังหวัดกาญจนบุรี 2 แห่ง โดยจุดแรก ที่บ้านปากชัดหนองบัว ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ. กาญจนบุรี โดยมี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมคณะนายกฯ นายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งเตรียมที่จะมีโครงการเสนอของบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในหมวดโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ 12 โครงการ 3,194 รายการงบประมาณทั้งสิ้น 14,859 ล้านบาท โดยประชาชนจะได้รับประโยชน์กว่า 563,239 ครัวเรือน พื้นที่ได้รับประโยชน์กว่า 134,620 ไร่ และจะเกิดการจ้างงาน 29,214 คนรวมถึงเพิ่มปริมาณน้ำได้ถึง 211.46 ลูกบาศก์เมตรต่อปี […]

ปัตตานีป่วนซ้ำ เก็บกู้ระเบิดลูกที่ 3 ได้สำเร็จ

ปัตตานี 9 มิ.ย. – ปัตตานีป่วนซ้ำ! เจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดลูกที่ 3 หลังเกิดเหตุระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่ง เมื่อคืน คาดเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน แต่ลูก 3 ไม่ทำงาน พร้อมเปิดเบาะแสภาพจากกล้องวงจรปิด ป่วนตั้งแต่ 6 โมงเช้า ชาวบ้านพบวัตถุต้องสงสัยวางอยู่หน้าร้านค้า ในตลาดมะกรูด อ.เมือง จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่รีบไปตรวจสอบ โดยใช้หุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิด เข้าตรวจสอบในเบื้องต้น พบถุงกระดาษที่ใช้บรรจุกาแฟเย็น ภายในพบแผงวงจรระเบิด ประกอบด้วย หน้าปัดนาฬิกา และสายไฟ เจ้าหน้าที่ปิดกั้นพื้นที่เพื่อความเปลอดภัย จากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ใช้อุปกรณ์เข้าตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า เป็นระเบิดตั้งเวลาไว้ แต่ไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่ปลดชนวด เก็บกู้ได้สำเร็จ เบื้องต้นพบว่า ระเบิดลูกนี้ตั้งเวลาไว้ที่ 2 ทุ่มครึ่ง แต่ระเบิดไม่ทำงาน คาดว่าคนที่นำระเบิดลูกนี้มาวางไว้ น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่วางระเบิด 2 ลูก ที่ตลาดโต้รุ่ง เมื่อคืนนี้ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้เบาะแสจากภาพกล้องวงจรปิด พบผู้ต้องสงสัย […]

ด่านคลองลึกแน่น คนไทย-กัมพูชา รอคิวข้ามแดน

สระแก้ว 9 มิ.ย. – ด่านคลองลึกแน่น! คนไทย-กัมพูชา รอคิวผ่านพรมแดนอรัญประเทศ หลัง 2 ฝั่ง ปรับเวลาเปิด-ปิดด่าน ไม่ตรงกัน บรรยากาศบริเวณด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ตั้งแต่เช้าตรู่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชาจำนวนมากหลั่งไหลมาเข้าคิวเพื่อรอข้ามแดนกันอย่างเนืองแน่น เนื่องจากไทย ปรับเปลี่ยนเวลาการเปิด-ปิดด่านใหม่ ส่งผลให้ประชาชนที่ต้องการเดินทางเข้า-ออกประเทศต้องเร่งรีบมาเข้าคิวแต่เช้ามืด หวังจะได้เดินทางกลับประเทศโดยเร็ว บางคนเดินทางมารอที่ด่านตั้งแต่ ตี 5 อย่างไรก็ตาม แม้ไทยจะเปิดด่านเวลา 08.00 น. แต่กัมพูชายังคงใช้เวลาเปิดด่านตามเดิมคือ 09.00 น. ส่งผลให้ประชาชนทั้งสองฝั่งต้องรอนานขึ้น แถวผู้โดยสารจึงยาวเหยียดล้นออกมานอกบริเวณด่าน สร้างความแออัดและความไม่สะดวกให้กับผู้เดินทางจำนวนมาก ขณะที่บรรยากาศโดยรอบยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาที่ยังคงทยอยเดินทางเข้ามายังฝั่งไทยไม่ขาดสาย ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้งสองฝั่งต้องเร่งมือในการอำนวยความสะดวก รวมถึงจัดระเบียบแถวเพื่อป้องกันความโกลาหล สำหรับประชาชนที่จำเป็นต้องเดินทางข้ามแดนในช่วงนี้ เจ้าหน้าที่แนะนำให้เผื่อเวลาในการเดินทางและตรวจสอบข้อมูลเวลาการเปิด-ปิดด่านของทั้งสองประเทศอย่างละเอียด เพื่อลดความเสี่ยงต่อความล่าช้าและความไม่สะดวก เช่นเดียวกับบริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เวลาเปิดด่านชายแดนของไทยและกัมพูชาที่ไม่ตรงกันทำวุ่น โดยเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยได้เปิดประตูด่านช่องจอม ท่ามกลางการเฝ้าสังเกตการณ์ของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายปกครองของไทย แต่ทางประตูของฝั่งกัมพูชาไม่เปิด ทหารไทยพยายามเข้าเจรจาเกี่ยวกับเวลาเปิดด่าน เพื่อให้นักเรียนข้ามไปสอบให้ทันเวลา […]