“ชูวิทย์” จ่อยื่นอุทธรณ์คำสั่งห้ามวิจารณ์นโยบายกัญชา

กทม. 6 เม.ย.-“ชูวิทย์” เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งปิดปากวิจารณ์นโยบายกัญชา ของพรรคภูมิใจไทย ในวันพรุ่งนี้ ยืนยันเดิน หน้ารณรงค์ ต้านนโยบายกัญชาเสรี ต่อไป พร้อมลงพื้นที่ต่างจังหวัด ทำความเข้าใจกับประชาชนให้รู้ถึงพิษภัยกัญชา

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พร้อมแสดงออกเชิญสัญลักษณ์ สวมเสื้อสีดำ นำผ้าสีดำปิดตา และใช้เทปกาวสีดำปิดปาก เพื่อสื่อให้เห็นถึงการถูกริดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน จากการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายสาธารณะ ประเด็นกัญชาเสรี โดยนายชูวิทย์ระบุว่า เมื่อพรรคการเมืองนำนโยบายกัญชาซึ่งเป็นนโยบายสาธารณะ มาใช้กับประชาชน โดยไม่ได้ผ่านกฎหมายลูก ไม่มีการโหวตในรัฐสภา ไม่มีการทำประชาพิจารณ์ มีเพียงประกาศคำสั่งกระทรวงสาธารณสุข ทั้งที่กัญชาเสรีเป็นนโยบายที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่พรรคภูมิใจไทยกลับเสนอเพียงข้อดี ตนเองในฐานะประชาชนก็มีสิทธิเสรีภาพในการที่จะพูดข้อเสีย เพื่อผลประโยชน์ของสังคม ไม่ได้ไปก้าวล่วงหรือละเมิด ไม่ใช่การใส่ร้ายป้ายสี เพราะตนเองไม่ใช่ผู้สมัครพรรคการเมือง แต่พรรคการเมืองกับละเมิดสิทธิเสรีภาพของตนเอง


นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังกล่าวอีกว่าหากการปลดล็อกกัญชาซึ่งเป็นยาเสพติด เพื่อใช้ในทางการแพทย์ ก็ควรต้องให้แพทย์เป็นผู้อนุญาต แต่เหตุใดการขึ้นทะเบียนกัญชาจึงมีลักษณะเสรี มีผู้ลงทะเบียนมากกว่า 4,000 แห่งในกรุงเทพฯ และไม่รวมในพื้นที่ต่างจังหวัดซึ่งคาดว่ามีมากกว่า 10,000 แห่ง โดยหลายๆ ที่สามารถนำกัญชามาทำอาหารได้ หรือเสร็จเพื่อสันทนาการ บางสถานที่เป็นเพียงซุ้มกาแฟก็ยังอนุมัติ นอกจากนี้กัญชาส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ ยังเชื่อว่านำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกา จึงต้องตั้งคำถามว่านำเข้ามาได้อย่างไร

โดยนายชูวิทย์ ยังได้อ้างอิงผลวิจัยจากสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย และงานวิจัยจากในต่างประเทศ ระบุว่ากัญชาส่งผลให้ผู้เสพเป็นโรคจิตเภทมากกว่าคนปกติ 2-3 เท่า และมีฤทธิ์เฉียบพลันทำให้ผู้เสพเกิดอาการคุ้มคลั่งได้ ดังที่เคยมีข่าวผู้เสพกัญชาคุ้มคลั่งก่อเหตุอาชญากรรมต่างๆ ในห้วงที่ผ่านมาแล้วหลายคดี แต่เหตุใดกระทรวงสาธารณสุขจึงไม่ออกมาเตือนและควบคุม


ดังนั้น แม้ตนเองจะเคารพคำสั่งศาล แต่หลังทบทวนไตร่ตรองอย่างดีแล้ว จึงตัดสินใจที่จะไปยื่นอุทธรณ์คำสั่งที่ศาลแพ่งในวันพรุ่งนี้ เวลา 9.00 น. ต่อเนื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญ และไม่ว่าผลการอุทธรณ์จะออกมาในทิศทางใดตนเองก็พร้อมจะทำตามคำสั่งศาล แต่เป็นในแบบของตนเอง ด้วยการคัดค้านนโยบายกัญชาเสรีต่อไป โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ตนเองจะไปรณรงค์ที่สถานีขนส่งหมอชิต ส่งประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา และจะเริ่มรณรงค์ในพื้นที่ต่างจังหวัดตั้งแต่ปลายเดือนนี้เป็นต้นไป

พร้อมยืนยันว่า นโยบายกัญชา เป็นนโยบายสาธารณะ ที่พรรคการเมืองใช้ในการหาเสียง และพรรคภูมิใจไทยไม่ใช่บุคคลหรือนิติบุคคล ดังนั้นตนเองจึงสามารถวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นดังกล่าวได้ ซึ่งถ้าหากทางพรรคภูมิใจไทยจะโจมตีตอบโต้ ตนเองก็พร้อมสู้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

ทักษิณนอนชั้น14

บอร์ดแพทยสภาถกจริยธรรมแพทย์ เอื้อ “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

สธ. 8 พ.ค. – จับตาผลประชุมบอร์ดแพทยสภา ถกจริยธรรมแพทย์ เอื้อ “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 ด้านอุปนายกแพทยสภา ยันไม่ใช่วาระลับ เผยส่วนตัวอยากให้เรื่องชั้น 14 จบวันนี้ ขณะที่ประชุม ไม่อนุญาตให้สื่อร่วมสังเกตการณ์

เมียนวดคอสมองตาย

แพทย์แชร์เคสสามีสมองตาย-แขนขาอ่อนแรง หลังให้ภรรยานวดคอ

แพทย์แชร์เคสอุทาหรณ์ “อย่าไว้ใจให้เมียนวด” คนไข้ชายวัย 54 ปี ปวดเมื่อยต้นคอ ให้ภรรยานวด ตื่นเช้าพบแขน-ขาอ่อนแรง สมองตายบางส่วน

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง ภาคเหนืออากาศร้อนจัด ด้านกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง 30%

หมายจับแก๊งไทใหญ่

ออกหมายจับ 2 คนร้ายแก๊งไทใหญ่ 999 ยกพวกไล่ฟันเพื่อนร่วมชาติ

ออกหมายจับ 2 คนร้ายแก๊งไทใหญ่ 999 ยกพวกบุกใช้มีดไล่ฟันเพื่อนร่วมชาติย่านประชาสงเคราะห์ เร่งตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป