รวบ “เอี้ยก้วยเขาบิน” ขนยาเสพติด เตรียมกระจายพื้นที่ กทม.

25 มี.ค. – สืบสวนนครบาล รวบเอี้ยก้วยเขาบินแขนเดียว จมมุมคาไอซ์ 233 กก. ยาบ้า 200,000 เม็ด เฮโรอีน 746 กรัม เตรียมกระจายลงสู่ชุมชน พื้นที่ กทม. พบเคยติดคุกคดียาเสพติดมาแล้ว 10 ปี


เมื่อวันที่ 23 -24 มีนาคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น พล.ต.ต.สําเริง สวนทอง รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ชป.5 ศอ.ปส.ตร, พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข  ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.,พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.กก.สส.2 บก.สส.บช.น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวน 2 บก.สส.บช.น. ทำการสืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ รายสำคัญและจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย คือ นายณัฐพงษ์ อายุ 46 ปี ฉายาเอี้ยก้วยเขาบิน พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 200,000 เม็ด, ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักรวมประมาณ 233 กิโลกรัม, ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) จำนวน 2 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 746 กรัม, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง, รถยนต์ 4 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน

โดยกล่าวหาว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) อันเป็นการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” จับกุมได้บริเวณริมถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว ใกล้สี่แยกนพวงศ์ขาเข้า ตำบลหน้าไม้ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดปทุมธานี


สืบเนื่องจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สส.บช.น.ได้จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ จำนวนหลายคดีอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และได้ติดตามสืบสวนขยายผลเรื่อยมา ต่อมาสืบทราบว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดย่านกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พักอาศัย อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี โดยมีพฤติกรรมไปรับยาเสพติดย่านถนน สุพรรณบุรี-บางบัวทอง เพื่อนำมาพักไว้ในที่พักก่อนทยอยส่งให้กับลูกค้าในหลายพื้นที่

ต่อมาเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่ารถยนต์ของกลุ่มฯ คันดังกล่าวเดินทางออกจากบ้านพักอาศัยแถว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร ซึ่งเชื่อว่าน่าจะไปส่งยาเสพติด ด้วยกลุ่มดังกล่าวจะทำเช่นนี้เป็นประจำ จึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ชป.5 ศอ.ปส.ตร ทราบ เพื่อวางแผน และสั่งการให้นำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณริมถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว ขาเข้ากรุงเทพมหานคร  ต่อมาในวันเดียวกัน (23 มีนาคม 2566)เวลาประมาณ 19.40 น. พบรถยนต์ต้องสงสัยมุ่งหน้าขาเข้าจนถึงแยกนพวงศ์เลี้ยวซ้ายเข้าถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว มุ่งหน้าอำเภอลาดหลุมแก้วประมาณ 200 เมตร รถคันดังกล่าวได้จอดรถริมทาง  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว พบผู้ขับขี่เพียงคนเดียวทราบชื่อภายหลังว่า นายณัฐพงษ์ จึงเชิญตัวชายดังกล่าวลงจากรถยนต์และเป็นผู้นำตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบของกลาง ยาบ้า จำนวนประมาณ 200,000 เม็ด, ยาไอซ์ น้ำหนักรวมประมาณ 1 กิโลกรัม, เฮโรอีน จำนวน 2 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 746 กรัม อยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง และนำตัวมาทำการสืบสวนขยายผลที่ กก.สส.2 บก.สส.บช.น.

ต่อมาจากการสืบสวนขยายผล วันที่ 24 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำตัวนายณัฐพงษ์ ไปยังบ้านเช่าถ.โพธิ์อ้น-หวายสอ ต.สองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งนายณัฐพงษ์ รับว่าได้เช่าบ้านหลังดังกล่าวไว้เก็บยาเสพติดเพื่อรอออกจำหน่ายให้กับลูกค้า และนายณัฐพงษ์ ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ ยาไอซ์น้ำหนักรวมประมาณ 232 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านเช่าดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจะทำการขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลต่างๆ และดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป


ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าตนเองมีฉายาว่าเอี้ยก้วยเขาบิน จากหนังมังกรหยกเนื่องจากแขนซ้ายขาด โดยรับยาเสพติดมาจากย่านถนน สุพรรณบุรี-บางบัวทอง เพื่อที่จะไปส่งให้ลูกค้าในย่านกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจริง โดยผลการตรวจสอบประวัติ นายณัฐพงษ์ เคยถูกดำเนินคดี ข้อหา “ครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติด” สภ.เมืองสุพรรณบุรี ปี 2550 ศาลตัดสินจำคุก 25 ปี ลดโทษเหลือจำคุก 10 ปี ต้องโทษจำคุกตั้งแต่ปี 2550 พ้นโทษมาปี 2561

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ชป.5 ศอ.ปส.ตร กล่าวว่า กก.2 บก.สส.บช.น. ได้เร่งรัดทำการสืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ รายสำคัญ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดแพร่กระจายสู่ชุมชน พื้นที่ กทม. และปริมณฑล ซึ่งเป็นภัยร้ายต่อสังคม เด็กและเยาวชนของเราควรเติบโตภายใต้สังคมที่ปลอดภัยและไร้ยาเสพติด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ