ครอบครัวสารวัตรส่งทนายยื่นสอบเพิ่ม-สงสัย จนท.ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่

กรุงเทพฯ 20 มี.ค. – ครอบครัวสารวัตร ส่งทนายความยื่นขอความเป็นธรรม หลังสงสัยเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ เพราะลักษณะที่เกิดเหตุเหมือนถูกยิงไล่ล่ามากกว่ายิงเพื่อจะเข้าควบคุมตัว ขณะที่พี่ชายสารวัตร เตรียมเดินทางมาติดตามเรื่องเองวันพรุ่งนี้ ด้านตำรวจเดินทางไปพบอัยการ เชิญร่วมสอบสวนตามขั้นตอน เนื่องจากเป็นสำนวนวิสามัญฆาตกรรม พร้อมขอเวลารวบรวมข้อเท็จจริง ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียชีวิต


เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ผ่านมา นายอนุชิต ธาตุเสียว ทนายความของครอบครัวสารวัตรที่ก่อเหตุ เดินทางมาที่ สน.สายไหม เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตและการเข้าระงับเหตุของเจ้าหน้าที่ โดยได้ยื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผู้กำกับการ สน.สายไหม

นายอนุชิต เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้รับมอบอำนาจจากพ่อและแม่ของสารวัตร ให้มายื่นหนังสือเพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นต่างๆ ที่ทางครอบครัวยังติดใจสงสัยเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิต โดยจากสิ่งที่ครอบครัวได้เห็น โดยเฉพาะร่องรอยในที่เกิดเหตุ ทำให้ครอบครัวสงสัยว่าการปฏิบัติการเข้าควบคุมตัวสารวัตร น่าจะเป็นการทำเกินกว่าเหตุจนทำให้สารวัตรถึงแก่ความตาย


โดยจากการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่ามีร่องรอยของการถูกยิงในบริเวณหลังบ้าน ซึ่งเป็นจุดที่สารวัตรได้ตกลงมาจากชั้น 2 แล้ว โดยบริเวณกำแพงและประตูด้านหลังบ้านที่ชั้น 1 มีร่องรอยกระสุนทะลุออกไป และมีร่องรอยกระสุนบริเวณหลังบ้านด้วย จึงสงสัยว่าเจ้าหน้าที่มีการยิงซ้ำออกไปก่อนจะเข้าไปควบคุมตัวหรือไม่ ครอบครัวจึงอยากให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจพิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ให้ละเอียด นอกจากนี้ ในบ้านที่เกิดเหตุ ก็มีร่องรอยของวิธีกระสุนจำนวนมาก จึงสงสัยว่าลักษณะเป็นเหมือนการถูกไล่ล่ามากกว่าเป็นการยิงแค่เพื่อให้เข้าควบคุมตัวได้

สำหรับกรณีที่ก่อนหน้านี้ตำรวจเคยออกมาบอกว่า ทางครอบครัวไม่ได้ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตนั้น นายอนุชิต ระบุว่า ครอบครัวของสารวัตรไม่ได้มีเพียงแค่พี่ชายที่เป็นตำรวจ แต่ยังมีพ่อและแม่ที่อายุมากแล้ว ซึ่งท่านก็มีข้อสงสัยในจุดต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม เท่าที่ตนได้พูดคุยกับครอบครัวของสารวัตร ทราบว่า ในระหว่างที่ตำรวจปฏิบัติการ และได้ประสานไปหาญาตินั้น พี่ชายของสารวัตร ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า ขอเวลาให้เขาเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุก่อน เพื่อร่วมปฏิบัติการได้หรือไม่ โดยขอยังไม่ให้สั่งการบุกเข้าไปควบคุมตัว ซึ่งพี่ชายอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ อาจต้องใช้เวลาเดินทาง แต่ท้ายสุดเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้รอ ซึ่งครอบครัวเชื่อว่า หากพี่น้องได้มาพูดคุยจะสามารถทำให้อารมณ์เย็นลงได้ แม้ว่าจะได้วิดีโอคอลกับแม่แล้ว แต่ก็ไม่เหมือนการได้เจอกันต่อหน้า เพราะอยู่ในภาวะที่กำลังคลุ้มคลั่ง

ทั้งนี้ ทางครอบครัวต้องการให้มีพนักงานอัยการเข้ามาร่วมสอบสวนด้วย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เพราะการเข้าปฏิบัติการ กระทำโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงต้องการให้มีหน่วยงานกลางเข้ามาร่วมสอบสวน รวมถึงพิสูจน์หลักฐาน ส่วนที่กำหนดระยะเวลาภายใน 3 วัน เพราะกลัวว่าหากผ่านระยะเวลาไป หลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ จะไม่สามารถพิสูจน์ได้แล้ว ส่วนเรื่องการเยียวยา ตอนนี้ทางครอบครัวยังไม่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้


โดยหลังจากทนายความ ได้เข้ายื่นหนังสือและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้ระยะเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ทนายความ ได้เปิดเผยว่า จากที่ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงอยู่ด้วย ก็ยืนยันว่าจะมีการสอบสวนพยานเพิ่มเติมเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริง และจะให้ความเป็นธรรมกับญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยกำลังอยู่ระหว่างการประชุมหารือกัน และตามขั้นตอนแล้วก็จะต้องมีการเชิญพนักงานอัยการเข้ามาร่วมสอบสวนข้อเท็จจริงอยู่แล้ว แต่กรอบระยะเวลาภายใน 3 วัน ที่ทางครอบครัวขอนั้น อาจจะทำได้ไม่ทัน เพราะเนื่องจากเป็นคดีสำคัญจึงต้องใช้ระยะเวลา ซึ่งหลังจากนี้ ตนเองจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีนี้ด้วย และในวันพรุ่งนี้ (21 มี.ค.) พี่ชายของสารวัตรที่เป็นตำรวจ ก็จะเดินทางมาที่กรุงเทพฯ เพื่อติดตามเรื่องนี้ด้วยตนเอง

ทางด้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2, และผู้กำกับการ สน.สายไหม ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมในเวลาประมาณ 13.00 น. ก็ได้เดินทางออกไปจาก สน.สายไหม ทันที ในจังหวะที่สื่อมวลชนกำลังสัมภาษณ์ทนายความของครอบครัวสารวัตรอยู่ ทีมข่าวจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถาม พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ตนเองพร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวน กำลังเดินทางไปพบกับพนักงานอัยการ เพื่อพูดคุยประสานหารือในการเชิญพนักงานอัยการเข้ามาร่วมสอบสวน เนื่องจากสำนวนคดีนี้เป็นคดีวิสามัญฆาตกรรม ซึ่งตามขั้นตอนของกฎหมาย จำเป็นต้องมีหน่วยงานกลางเข้ามาร่วมทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อให้ได้ข้อสรุปอยู่แล้ว

ส่วนกรณีที่ทางครอบครัวระบุระยะเวลาว่าขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เสร็จสิ้นภายใน 3 วันนั้น คงเป็นไปไม่ได้ เพราะคดีนี้มีรายละเอียดมาก จึงต้องใช้ระยะเวลา โดยจะต้องมีการเรียกสอบปากคำโดยละเอียด และระบุไทม์ไลน์เหตุการณ์ รวมถึงตำแหน่งในการเข้าปฏิบัติการให้ชัดเจน จึงขอเวลาในการทำสำนวนก่อน ซึ่งเบื้องต้นได้พบและพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจกับทนายความของครอบครัว ทางทนายความก็เข้าใจในขั้นตอนการทำงานของตำรวจ โดยตนเองขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมกับญาติของผู้เสียชีวิต และจะเร่งดำเนินการเพื่อให้ข้อเท็จจริง ข้อสงสัยต่างๆ กระจ่างต่อสังคม. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก