ตีแผ่กลโกงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลงแอปฯ ดูดเงิน

กทม. 19 ก.พ.- ปอท. ตีแผ่กลโกงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงผู้เสียหายติดตั้งแอปฯ ดูดเงิน พร้อมแนะวิธีป้องกันสำหรับประชาชน


วันที่ 19 ก.พ.2566 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบก.ปอท.) ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่าในปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้พัฒนารูปแบบการหลอกลวงจากเดิมหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินให้กับคนร้ายโดยตรง เป็นการหลอกลวงให้ผู้เสียหายกดลิงก์เพื่อทำการติดตั้งโปรแกรมในโทรศัพท์ เพื่อเข้าถึงข้อมูลและควบคุมโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย ซึ่งหากคนร้ายสามารถรู้รหัสผ่านในการใช้งานแอปพลิเคชันธนาคาร คนร้ายก็จะสามารถทำการถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารของเหยื่อจนหมด

โดยวิธีการของคนร้ายนั้นจะใช้แอปพลิเคชันในรูปแบบของโปรแกรมการควบคุมเครื่องระยะไกล หรือที่เรียกว่า Remote Desktop Software ซึ่งในช่วงแรกนั้นคนร้ายจะใช้แอปพลิเคชันที่ใช้งานกันโดยทั่วไป เช่น TeamViewer หรือ AnyDesk แต่ต่อมาเมื่อมีผู้เสียหายเพิ่มมากขึ้น และมีการแจ้งเตือนทางสื่อต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้มีความระมัดระวังในการใช้งานแอปพลิเคชันดังกล่าว อีกทั้งหลายธนาคารยังทำการแก้ไขแอปพลิเคชันธนาคารเพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายใช้โปรแกรม Remote Desktop เพื่อใช้งานแอปพลิเคชันธนาคารได้ โดยการตรวจสอบว่าขณะใช้งานมีการแชร์ภาพหน้าจออยู่หรือไม่ หากมีการใช้งานอยู่จะทำให้ไม่สามารถใช้แอปพลิเคชันธนาคารได้


ทำให้ในปัจจุบันคนร้ายเลือกที่จะทำการเขียนแอปพลิเคชันขึ้นมาเอง ซึ่งคนร้ายจะสามารถทำแอปพลิเคชันให้มีลักษณะคล้ายกับของหน่วยงานราชการหรือองค์กรต่าง ๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และหลอกให้ผู้เสียหายยินยอมให้แอปพลิเคชันเข้าถึงข้อมูลด้วยวิธีการต่าง ๆ หรือใช้ช่องว่างของระบบปฏิบัติการในการข้ามขั้นตอนการกำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลของแอปพลิเคชันของคนร้ายได้

โดยขั้นตอนการหลอกลวงของคนร้ายนั้นมักจะเริ่มต้นด้วยการแอบอ้างเป็นหน่วยงานรัฐหรือเอกชน หลอกให้ผู้เสียหายติดตั้งแอปพลิเคชันจากลิงก์ที่คนร้ายส่งให้ โดยอ้างว่าเพื่ออำนวยความสะดวกหรือเพื่อรับโปรโมชันพิเศษ อาจมีการทำหน้าเว็บไซต์ปลอมให้ดูน่าเชื่อถือ ซึ่งถ้าหากเหยื่อหลงเชื่อ ติดตั้งโปรแกรมของคนร้าย และกดอนุญาตให้คนร้ายควบคุมโทรศัพท์ของตน ก็จะทำให้คนร้ายสามารถมองเห็นหน้าจอ หรือควบคุมเครื่องของผู้เสียหายได้ เสมือนกับคนร้ายถือโทรศัพท์ของผู้เสียหายอยู่

จากนั้นคนร้ายจะใช้อุบายต่าง ๆ ในการหลอกเอาข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เสียหาย โดยเฉพาะรหัส PIN ในการเข้าใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ โดยหลอกให้ผู้เสียหายตั้งรหัส PIN ในแอปพลิเคชันของคนร้าย หรือหลอกให้ผู้เสียหายทำการชำระเงินจำนวนน้อย ๆ ผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร เพื่อดูว่าผู้เสียหายใช้รหัส PIN อะไร ในการทำการโอนเงิน (คนร้ายสามารถมองเห็นจากโทรศัพท์ของคนร้าย) เมื่อคนร้ายทราบรหัส PIN แล้ว จากนั้นจะบอกให้ผู้เสียหายคว่ำหน้าจอโทรศัพท์ไว้ หรือขึ้นป๊อปอัพจากแอปพลิเคชันของคนร้ายเพื่อบังหน้าจอไว้ หลังจากนั้นคนร้ายก็จะนำรหัส PIN ที่ได้ไปใช้งานกับแอปพลิเคชันธนาคารเพื่อถอนเงินออกจากบัญชีผู้เสียหายจนหมดบัญชี


แนวทางการป้องกันอาชญากรรมในรูปแบบดังกล่าว แบ่งได้ออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ คือ

ส่วนของผู้ใช้งาน

  1. หากท่านได้รับโทรศัพท์อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือธนาคาร แจ้งว่าให้ทำการแอดไลน์หรือส่งลิงก์เพื่อติดตั้งแอปพลิเคชันใด ๆ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจจะเป็นมิจฉาชีพ จะต้องทำการสอบถามชื่อ หน่วยงาน ก่อนที่จะวางสายเพื่อโทรศัพท์ไปสอบถามที่หน่วยงานว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่
  2. ให้ระมัดระวังในการกดลิงก์ใด ๆ จากบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือธนาคาร เพราะอาจเป็นลิงก์หลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคลหรืออาจเป็นลิงก์หลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันของมิจฉาชีพได้
  3. แอปพลิเคชันของหน่วยงานรัฐหรือเอกชนที่จะเปิดให้ประชาชนได้ใช้งาน มักจะมีให้ดาวน์โหลดผ่านทาง App Store หรือ Play Store
  4. ให้ระมัดระวังในการติดตั้งแอปพลิเคชันจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอปพลิเคชันที่ไม่ได้อยู่ใน App Store หรือ Play Store จะต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
  5. หมั่นอัปเดตระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์มือถือ และแอปพลิเคชันธนาคาร ให้เป็นปัจจุบันเสมอ เพราะจะช่วยปิดช่องโหว่ของระบบ ไม่ให้คนร้ายนำมาใช้ประโยชน์ได้
  6. ไม่ควรตั้งรหัส PIN เหมือนกันในทุกแอปพลิเคชัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรหัส PIN ของแอปพลิเคชันธนาคารไม่ควรตรงกับรหัส PIN ในการปลดล็อคโทรศัพท์ และไม่ควรบันทึกรหัสผ่านใด ๆ ไว้ในโทรศัพท์
  7. หากพลาดและดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดังกล่าวมาติดตั้งแล้วให้ทำการเปิดโหมดเครื่องบิน และถอดซิมการ์ดออกจากโทรศัพท์มือถือ เพื่อไม่ให้คนร้ายทำการควบคุมเครื่องจากระยะไกล และทำการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารได้

ส่วนของผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน

  1. ควรตัดฟังก์ชันการแสดงเครื่องหมายที่สามารถบ่งบอกได้ว่าผู้ใช้กำลังกดรหัส PIN หมายเลขใดออก เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายสามารถมองเห็นรหัส PIN ผ่านการ Remote Desktop ได้
  2. ทุกแอปพลิเคชันที่มีการใส่รหัส PIN หรือแอปพลิเคชันที่มีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่สำคัญ ควรจะมีฟังก์ชันการตรวจสอบว่ามีการเปิดโปรแกรม Remote Desktop อยู่ด้วยหรือไม่ และป้องกันไม่ให้ใช้งานได้ หรือให้ผู้ใช้ทำการกดยินยอมว่าจะใช้งานโปรแกรมดังกล่าวขณะใช้โปรแกรม Remote Desktop อยู่

ส่วนของหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชน ควรมีการประชาสัมพันธ์ หรือช่องทางให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลได้ว่า ว่าปัจจุบันหน่วยงานหรือองค์กรของท่าน มีการให้บริการประชาชนผ่านทางแอปพลิเคชันใดบ้าง สามารถดาวน์โหลดได้จากช่องทางใด เพื่อให้ประชาชนไม่หลงเชื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชันปลอมของคนร้าย

ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดของคนร้ายไปยัง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้ที่เว็บไซต์ https://tcsd.go.th/แจ้งเบาะแส/ และหากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมออนไลน์ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานทีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ หรือแจ้งความออนไลน์ได้ด้วยตนเองที่เว็บไซต์ https://www.thaipoliceonline.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

เครื่องบิน แอร์ อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มียืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าใด เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย […]

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย