เร่งสอบเหตุเรือน้ำมันระเบิดทราบผลภายใน 1 สัปดาห์

สมุทรสงคราม 18 ม.ค. – เหตุเรือบรรทุกน้ำมันระเบิดระหว่างซ่อมบำรุงที่ จ.สมุทรสงคราม ซึ่งแม้จะเป็นเรือเปล่าไม่มีสินค้าน้ำมัน แต่ก็ยังมีน้ำมันเตาและน้ำมันดีเซลค้างอยู่รวมกว่า 4 หมื่นลิตร ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย


เหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำมันระเบิดระหว่างซ่อมบำรุงเกิดขึ้นเวลา 09.10 น. เมื่อวานนี้ (17 ม.ค.) เรือที่เกิดเหตุ ชื่อ “สมูธซี 22” เป็นเรือบรรทุกน้ำมันขนาด 3 ล้านลิตร เกิดระเบิดขึ้นระหว่างเทียบท่าที่ท่าเรือรวมมิตรด็อคยาร์ค ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เพื่อรอซ่อมบำรุง จากภาพจะเห็นว่าแรงระเบิดทำให้เศษซากเรือกระเด็นกระจัดกระจายไปไกล และมีเสียงดังสนั่นได้ยินไปไกลเป็น 10 กิโลเมตร ไฟโหมไหม้อย่างรุนแรง และยังมีเสียงระเบิดดังขึ้นอีกหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงกว่า 10 คัน และมีเรือดับเพลิงเข้าควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้ และสามารถดับไฟได้สนิท ช่วงเวลา 15.00 น.

ขณะเกิดเหตุมีลูกเรือและช่างกว่า 20 คน ซึ่งมีทั้งคนไทยและแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีผู้บาดเจ็บ 4 คน และพบผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย โดย 3 รายล่าสุดพบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เป็นแรงงานสัญชาติเมียนมา ได้นำขึ้นที่วัดปากสมุทร ทำให้ล่าสุดยังมีผู้สูญหาย อีก 3 คน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังพบข้อเท้าขวา 1 ชิ้น เป็นชิ้นส่วนมนุษย์ แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นชิ้นส่วนศพจากเหตุการณ์นี้หรือไม่ โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหลายมูลนิธิได้สนธิกำลังวางแผนค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นปูพรมทั่วแม่น้ำแม่กลอง ทั้งบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุระเบิดและบริเวณโดยรอบ รวมทั้งวางแผนการดำน้ำค้นหาผู้สูญหายด้วย


นายอมรศักดิ์ ฉัตรระทิน นายก อบต.แหลมใหญ่ กล่าวว่า ทาง อบต.พร้อมสนับสนุนภารกิจการค้นหาผู้สูญหายอย่างเต็มที่ และรับลงทะเบียนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เบื้องต้นมีชาวบ้านในตำบลแหลมใหญ่ ได้รับผลกระทบกว่า 60 ราย และยังมีตำบลใกล้เคียงอีกกว่า 20 ราย และช่วงบ่าย วันนี้ (18 ม.ค.) ที่สำนักงานเจ้าท่า จ.สมุทรสงคราม คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่กรมเจ้าท่าแต่งตั้งขึ้น จะเรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะมีผู้แทนจากบริษัทเรือเข้าร่วมด้วย โดยกรมเจ้าท่าจะสอบถามมาตรการเยียวยาจากผู้ประกอบการ ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องใบอนุญาต รวมทั้งประเด็นสำคัญถึงมาตรการความปลอดภัยขณะซ่อมบำรุง เพื่อให้ได้ข้อสรุปผลสอบ ตามที่กำหนดกรอบไว้ภายใน 1 สัปดาห์. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : “ทรัมป์ 2.0” นำไปสู่กาลอวสานระเบียบโลก ?

นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวคิดมองโลกแบบแหวกแนว ส่วนหนึ่งทำให้ได้ใจคนอเมริกัน แต่ส่วนหนึ่งทำให้ทั้งโลกปั่นป่วน วันนี้มีคำกล่าวจากผู้นำรัสเซียว่า ระเบียบโลกใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น

มอบรางวัล “หมูเด้ง” ทายผล “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง

มอบรางวัลผลไม้ถาดยักษ์ให้ “หมูเด้ง” หลังทำนายทายถูกว่า “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง ด้าน ผอ.สวนสัตว์ฯ อวยยศให้เป็น “อาจารย์เด้ง”

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น