13 ม.ค. – ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ แถลงจับกุมเครือข่าย “ซ้อเจี๊ยว” ในพื้นที่ จ.จันทบุรี เครือข่ายนายหน้าขายบริการทางเพศทั้งชายหญิงทางโซเชียล
ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ แถลงจับกุมนายสุกรี หรือ ซ้อเจี๊ยว อายุ 72 ปี นายชัยดล หรือเอส อายุ 45 ปี ได้ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี หลัง ชุดสืบสวน พบว่ามีบัญชีทวิตเตอร์ มีพฤติการณ์เป็นนายหน้าขายบริการทางเพศทั้งเด็กชาย และเด็กหญิงโดยมีการโพสต์โฆษณาสาธารณะบุคคลทั่วไป สามารถเข้าถึงได้ในลักษณะเป็นธุระจัดหา หรือชักชวนให้มีการซื้อขายบริการทางเพศผ่านทางทวิตเตอร์ โดยมีราคาค่าบริการคนละ 1,500-2,000 บาท ซึ่งมีมัดจำค่าตัวเด็กคนละ 500 บาท จึงได้ให้สายลับติดต่อล่อซื้อ เมื่อถึงเวลานัดหมายนายชัยดล ได้พาเด็กชาย อายุ 13 ปี และวัยรุ่น 19 ปี มาขายบริการทางเพศให้กับสายลับ จึงนำกำลังเข้าจับกุม
จากการสืบสวนขยายผลสอบปากคำผู้เสียหาย ทราบว่า มีนายหน้าอีกหนึ่งคนชื่อนายสุกรี เป็นผู้ส่งเด็กให้กับนายชัยดล พาไปขายบริการทางเพศ ในจังหวัดจันทบุรี โดยได้รับส่วนแบ่งจากการขายบริการทางเพศ ครั้งละ 200 ต่อคน เจ้าหน้าที่จึงขยายผลจับกุมนายสุกรี ได้บริเวณร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลวัดใหม่ จังหวัดจันทบุรี สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งดำเนินคดีรวม 8 ข้อหา เช่น สมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีกับบุคคลที่อายุยังไม่เกิน 15 ปี, ร่วมกันเป็นธุระจัดหาล่อไปหรือชักชวนพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ฯลฯ
ส่วนอีกคดี ตำรวจ ปคม. เปิดยุทธการ พิทักษ์กระต่ายป่า ปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักแม่เล้า ส่งเด็กขายบริการในพื้นที่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา จับกุมนางสาวสุพัชรินทร์ อายุ 19 ปี และยังขยายผลจับกุมผู้ซื้อบริการอีก 3 คน โดยคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา ตำรวจได้จับกุมนางสาวปภาดา แม่เล้าซึ่งชักชวนคนทั่วไป มาซื้อขายบริการทางเพศผ่านทางทวิตเตอร์ โดยในขณะนั้นสามารถช่วยผู้เสียหายเป็นเด็กออกมาได้ 2 คน และนำเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองเหยื่อจากการค้ามนุษย์แล้ว จากนั้นขยายผลจับกุมแม่เล้าร่วมขบวนการอีกหนึ่งคนคือนางสาวสุพัชรินทร์ สอบสวนนางสาวสุพัชรินทร์ รับว่าเป็นนายหน้าจัดหาเด็กให้แก่ผู้ซื้อบริการมานาน 5-6 เดือน ได้ค่าตอบแทนจากการติดต่อ 300-500 บาทต่อครั้ง โดยจะใช้รีสอร์ทเป็นสถานที่ขายบริการ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา สระแก้วและอุดรธานี
ด้านตำรวจเตือนผู้ปกครอง ให้สังเกตพฤติกรรมของลูกหลานอย่างใกล้ชิด หากมีการพฤติกรรมเปลี่ยนไป เช่น เก็บตัว หมกมุ่น อยู่กับใช้โทรศัพท์ และ การใช้จ่ายเงินเกินตัว เพราะปัญหาเด็กเยาวชนถูกหลอกผ่านช่องทางโซเชียลไปเพื่อการอนาจาร หรือล่วงละเมิดทางเพศ พบมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยในปี 2565 มีผู้เสียหายมากถึง 391 คน โดยเฉพาะในช่วงอายุ 8-14 ปี มี 202 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กหญิง
ขณะเดียวกันยังฝากเตือนคนที่คิดจะตั้งตัวเป็นเอเย่นต์ นายหน้าหรือโมเดลลิ่ง ค้าบริการทางเพศเด็กเพียงเพราะเห็นแก่รายได้ส่วนต่างจากการค้าประเวณี ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์อัตราโทษ จำคุกสูง 15 ปี ปรับสูงสุด 1,500,000 บาท และยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาอื่นๆ รวมถึงอาจถูกยึดทรัพย์ได้. -สำนักข่าวไทย