ร้องกองปราบฯ ติดตามแก๊งจำนำรถไปขายต่อให้นายทุน

กองปราบฯ 22 ธ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 20 คน ร้องกองปราบฯ ช่วยติดตามรถยนต์กว่า 80 คัน ที่ “เจ๊พลอย ชลบุรี” แก๊งจำนำรถเอาไปขายต่อให้นายทุน 5 กลุ่ม หลังท้องที่ไม่ตามรถให้ จึงเกรงว่ารถจะถูกส่งไปขายประเทศเพื่อนบ้าน


หลังจากที่เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ตำรวจกองบังคับการปราบปราม บุกทลายเครือข่าย “เจ๊พลอย ชลบุรี” ที่เปิดเพจหลอกจำนำรถ แต่กลับเอารถไปขายต่อให้กับนายทุน โดยเมื่อผู้เสียหายนำเงินมาไถถอนไม่สามารถนำรถมาส่งคืนให้กับผู้เสียหายได้ และสามารถยึดรถกลับมาได้ 64 คัน แต่เป็นรถของกลางในคดีเพียง 28 คันเท่านั้น

ล่าสุด เวลา 10.30 น. กลุ่มผู้เสียหายกว่า 20 คน ที่ยังไม่ได้รับรถคืน ได้นำเอกสารหลักฐาน เพิ่มเติม เป็นข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มนายทุน มามอบให้กับตำรวจกองปราบฯ เพื่อขอให้ช่วยติดตามรถยนต์อีก 83 คัน เพราะแม้ว่าตัวนางสาวแพรวศิญา หรือ เจ๊พลอย ผู้ต้องหาจะถูกจับกุมไปแล้วเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา รถของผู้เสียหาย 1 คัน กลับถูกกลุ่มขบวนการของเจ๊พลอย นำออกนอกประเทศไปแล้ว


ด้านนางสาวอรสา หนึ่งในผู้เสียหายบอกว่า นอกจากจะมีรถถูกส่งออกนอกประเทศไปแล้วยังมีรถผู้เสียบางคันที่ถูกนำไปขายหลุดจำนำในเพจด้วย จึงเป็นสาเหตุให้ผู้เสียหายร้อนใจ กลัวว่ารถของตนเองจะถูกส่งออกไปขายในประเทศเพื่อนบ้านช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ หรือโดนสวมทะเบียนขายต่อไปอีก ทำให้ติดตามได้ยากขึ้น และคดีนี้ เกิดขึ้นในหลายท้องที่ของ จ.ชลบุรี เช่น สภ.เสม็ด, สภ.พานทอง, สภ.บ่อวิน ซึ่งทราบข้อมูลว่า “เจ๊พลอย” ได้ให้ข้อมูลกับตำรวจว่า ได้นำรถส่งต่อให้กับ 5 นายทุน อยู่ในพื้นที่นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา แต่เหตุใด ตร.ท้องที่ จึงไม่เร่งติดตามรถผู้เสียหายกลับมา นอกจากนี้นายทุนทั้ง 5 ราย ล้วนเป็นผู้มีอิทธิพล และหนึ่งในนั้นยังเป็นนักการเมืองระดับ ส.ส. ที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบันด้วย ก็กลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในการติดตามรถคืน

นายวิภพ ผู้เสียหายอีกคนบอกว่า รถคันที่ถูกส่งออกไปต่างประเทศ เป็นรถกระบะอีซูซุ ดีแม็ก ซึ่งเจ้าของรถได้พยายามติดตามรถด้วยประสานให้ศูนย์เพื่อเปิดสัญญาณติดตามจีพีเอสรถ จนกระทั่งพบว่าสัญญาณล่าสุดอยู่ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เจ้าของรถจึงได้แจ้งข้อมูลดังกล่าวให้กับตำรวจกองปราบปรามทราบ จากนั้นก็มีการประสานต่อไปยังตำรวจท้องที่ แต่ตำรวจไม่สามารถเข้าตรวจยึดได้ทัน เพราะรถคันดังกล่าวถูกนำออกนอกประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติไปแล้วในระยะเวลาเพียงวันเดียว . -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี