ผงะ! พบศพหญิงสาวในแท็งก์น้ำ ตึกเก่าย่านรามคำแหง

กรุงเทพฯ 19 ธ.ค.- ช่างรับเหมารีโนเวทตึกเก่าผงะ เจอศพหญิงสาวในแท็งก์น้ำชั้นดาดฟ้า ตึก 4 ชั้นย่านรามคำแหงซอย 1 สภาพศพบางส่วนแห้งจนติดกับผิวแท็งก์น้ำ ตำรวจเร่งหาเบาะแสคนหาย


เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 ธ.ค. ที่ตึกแถวแห่งหนึ่งภายในซอยรามคำแหง 1 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. ตำรวจ สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุพบศพภายในแท็งก์น้ำ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน โดยที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น จากการตรวจสอบบริเวณชั้นดาดฟ้า มีการต่อเติมเป็นห้องมีหลังคา มีแท็งก์น้ำขนาด 1,250 ลิตร ไม่มีฝาปิด พบร่างมนุษย์นอนคว่ำหน้าอยู่ คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 เดือน

นายออง โซลิน อายุ 35 ปี กล่าวว่า พวกตนเพิ่งได้รับเหมารีโนเวทตึกนี้ และเริ่มงานวันแรกตั้งแต่วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งตนก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าแล้ว แต่ตนไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าน่าจะเป็นกลิ่นซากสัตว์ที่ตายแล้วหลายวัน จนกระทั่งวันนี้กำลังจะนั่งกินข้าวกัน แล้วได้กลิ่นแรงกว่าเดิมมาก ทำงานไม่ได้เลย ก็ตามหาที่มาของกลิ่น จึงให้เพื่อนปีนขึ้นไปดูที่แท็งก์น้ำ เห็นเป็นผ้าห่อ จึงคิดว่าเป็นหมาแมวโดนวางยาแล้วนำมาทิ้ง จึงต่อไฟสปอตไลท์ส่องดู ตนตกใจเมื่อเห็นรูปร่างผู้หญิงมัดผม ผมยาว นอนคว่ำหน้าอยู่ก้นแท็งก์ สวมเสื้อผ้าคล้ายเสื้อยืดและกางเกงขาสั้น ลักษณะเน่าจนแห้ง มีหนอนและคราบน้ำเหลืองเต็มในแท็งก์ซึ่งไม่มีน้ำ ตนจึงรีบแจ้งหัวหน้าให้โทรแจ้งตำรวจเข้ามาดูที่เกิดเหตุ


โดยตนไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิต แต่ส่วนตัวมองว่าน่าจะไม่ใช่การตกลงไปเสียชีวิตด้วยตัวเอง เนื่องจากบริเวณจุดเกิดเหตุไม่มีบันได้ หรือเก้าอี้ ที่จะทำให้ผู้หญิงปีนขึ้นไปได้ อย่างกรณีของตนที่เป็นช่าง ยังต้องใช้บันได 2 ขั้น ปีนขึ้นไปชะโงกดูอีกทีหนึ่ง แต่จะเป็นเหตุฆาตกรรมจุดนี้หรือที่อื่น แล้วนำศพมาอำพรางที่นี่ เป็นหน้าที่ของตำรวจและแพทย์นิติเวชเป็นผู้ชันสูตรและตรวจสอบอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกกลัวมาก เพราะกลิ่นศพแรงมากผิดปกติ จึงเชื่อว่าวิญญาณของผู้เสียชีวิตเจตนาให้ตนกับเพื่อนมาเห็นและรับรู้ เนื่องจากผู้เสียชีวิตนั้นเสียชีวิตเป็นเวลานานแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผกก.สน.หัวหมาก กล่าวว่า สภาพศพเท่าที่ดูยังบอกไม่ได้ว่าการเสียชีวิตมาจากสาเหตุใด เท่าที่ดูจากสภาพศพน่าจะเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 1 เดือน สำหรับอาคารดังกล่าวเจ้าของได้ซื้อมานาน 3 ปี และไม่มีใครเข้าไปอยู่อาศัย โดยเจ้าของได้ปิดประตูด้านหน้าไว้ แต่ไม่ได้ล็อก มีเพียงโต๊ะวางไว้เท่านั้น ทั้งนี้ จากการสอบสวนพบว่า มีช่างเข้ามาซ่อมแซมบ้านเมื่อราว 6 เดือน ก่อนแต่ดูจากสภาพศพแล้วคิดว่าน่าจะนานเกินไป อย่างไรก็ตาม ยังไม่ตัดประเด็นนี้ทิ้ง จะต้องมีการเรียกผู้รับเหมามาสอบสวน และอาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีพวกคนจรแอบลักลอบขึ้นไปก่อนเกิดเหตุดังกล่าว ขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานอีกสักระยะจะเกิดความชัดเจนขึ้น


ด้านนายธนาสิน บุญกระสินธ์ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู บอกว่า ศพที่พบเป็นผู้หญิง นอนคว่ำหน้าอยู่ก้นแท็งก์ที่มีระดับน้ำเหลืออยู่ประมาณ 15 ซม. สภาพเน่าเปื่อย แพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 6 เดือน เนื่องจากเนื้อหนังบางส่วนมีลักษณะแห้งติดกับผิวแท็งก์น้ำ ซึ่งการนำศพออกจากแท้งค์น้ำต้องใช้เครื่องมือตัดถ่าง ตัดผ่าแท็งก์น้ำให้เป็นช่องเพื่อให้สามารถนำศพออกมาได้ ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบเอกสารประจำตัว

ขณะที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนนครบาล 4 ให้ข้อมูลว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และไม่พบพยานหลักฐานอื่นใดในที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจยังอยู่ระหว่างตรวจสอบประวัติคนหายในพื้นที่ รวมถึงการแจ้งความคนหายย้อนหลัง 6 เดือน รวมถึงคนวิกลจริต และคนจรจัดในพื้นที่ว่ามีใครหายไปบ้าง ขณะที่หลังจากนี้ต้องประสานไปยังนิติเวช เรื่องการชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง ว่ามีร่องรอยการถูกทำร้ายหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม