แม่เด็ก 7 ขวบ ร้อง “กัน จอมพลัง” เอาผิดรุ่นพี่ทำร้ายลูก

25 ม.ค. – “กัน จอมพลัง” พาเด็กชายวัย 7 ขวบ แจ้งความตำรวจเอาผิดรุ่นพี่ ม.3, ครู และผู้บริหารโรงเรียนสอนศาสนา ย่านรามคำแหง ฐานร้ายร่างกายและปล่อยปละละเลยให้ได้รับบาดเจ็บ


นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากแม่ของน้องอายุ 7 ขวบ ซึ่งอยู่โรงเรียนประจำ แต่ระหว่างกลับมาบ้าน คุณแม่เห็นร่องรอยฟกช้ำตามร่างกาย จึงสงสัยลูกชายถูกทำร้าย เมื่อไปสอบถามทางโรงเรียนกลับแจ้งว่า รอยช้ำเกิดจากเด็กเล่นกัน แต่จากข้อมูลพบว่า น้องอายุ 7 ขวบ ถูกทำร้ายร่างกาย โดยทางโรงเรียน และครู ปัดความรับผิดชอบ และแจ้งให้น้องไปเรียนที่อื่น ทำให้แม่น้อง 7 ขวบ รู้สึกไม่สบายใจ จึงพาเข้าแจ้งความ ตร.สน.มักกะสัน เพื่อสืบสวนดำเนินคดีกับผู้ที่ปล่อยปละละเลย หรือบกพร่องให้น้องได้รับบาดเจ็บภายในโรงเรียน รวมถึงรุ่นพี่ 3 คน ที่ทำร้ายน้อง

“กัน จอมพลัง” ย้ำว่าทางโรงเรียนจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ พร้อมกับตั้งคำถามกลับไปหาทางโรงเรียนว่า หากโรงเรียนไม่รับผิดชอบ ผู้ปกครอง และเด็กคนอื่น ๆ ที่ยังเรียนอยู่ในโรงเรียนจะรู้สึกอย่างไร ทั้งนี้ ตนได้ประสาน สก.เขตบางเขน หาโรงเรียนใหม่ให้กับน้องผู้เสียหายแล้ว เนื่องจากหลังเกิดเหตุ แม่ของเด็กไม่กล้าให้ลูกกลับไปโรงเรียนที่เดิม ทำให้ต้องดรอปเรียน


ด้าน แม่ของเด็กชาย ผู้เสียหาย เล่าว่า ลูกถูกรุ่นพี่ที่พักในหอเดียวกันทำร้าย โดยรุ่นพี่กล่าวหาว่าเอาเงินของรุ่นพี่ไป แต่น้องปฏิเสธ รุ่นพี่ไม่เชื่อ ใช้ไม้แขวนเสื้อตีตามร่างกาย ทุบและหยิก โดยรุ่นพี่ทั้ง 3 คน ร่วมกันลงมือก่อเหตุและทั้งหมดเป็นเด็กกำพร้า แต่เมื่อลูกไปแจ้งครูประจำชั้น ครูกับแย้งว่า ถ้าเกิดเหตุขึ้นอีกครั้ง จึงค่อยกลับมาแจ้งครูอีกรอบ จึงเห็นว่าโรงเรียนไม่มีความปลอดภัยแล้วให้ลูกย้ายโรงเรียน ส่วนที่เห็นรอยฟกช้ำตามร่างกายลูก สืบเนื่องจากวันเด็ก คุณลุงให้น้องไปอาบน้ำ จึงพบเห็นรอยฟกช้ำตามร่างกายจำนวนมาก

แม่ของเด็กชายผู้เสียหายยังให้ข้อมูลว่า รุ่นพี่เรียนอยู่ชั้น ม.3 อายุ 15 ปี ส่วนลูกชาย เรียน ชั้น ป.1 ในโรงเรียนสอนศาสนาย่านรามคำแหง จึงเข้าร้องเรียน “กัน จอมพลัง” เนื่องจากทางโรงเรียนไม่ติดต่อ หรือมีคำตอบที่ชัดเจนถึงอาการบาดเจ็บของลูกให้ทราบ

พร้อมย้ำว่า ต้องการให้ตำรวจสอบสวนเอาผิดทางผู้บริหารโรงเรียน, ครูประจำชั้น และครูที่ดูแลหอพัก ที่เป็นสาเหตุให้บุตรชายได้รับบาดเจ็บครั้งนี้. -412-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าจะเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม