กรุงเทพฯ 5 ธ.ค. – “ลุงฆ่าแมว” ยืนยันไม่ผิด ไม่ยอมรับ ไม่ขอโทษ ทำตามสิทธิที่จะปกป้องตัวเองและทรัพย์สิน ไม่หวั่นเสียงด่า พร้อมสู้ในศาล ด้านเจ้าของแมว ยังทำใจไม่ได้ ไม่ขอรับคำขอโทษ จะเดินหน้าเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ขณะที่ประธานชุมชน เผย “ลุงฆ่าแมว” เพิ่งมาอยู่ได้ 2 ปีกว่า มีปัญหากับคนทั้งซอย และนอกซอย ทั้งวางยาฆ่าแมว ปาก้อนหินใส่คนที่เดินผ่านหน้าบ้าน
จากกรณีคลิปสะเทือนโซเชียล ลุงเพื่อนบ้าน “จับแมวน้อยฟาดพื้นดับ” ต่อหน้าเจ้าของ แมวเคราะห์ร้ายตัวนี้ชื่อ เจ้าโชโต่ เป็นแมวเปอร์เซีย ผสมสกอตติช เพศผู้ วัย 4 เดือนเศษ เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง บันทึกและแชร์คลิปภาพเหตุการณ์ชายสูงอายุจับหางแมว ซึ่งอยู่ในสภาพแน่นิ่ง พร้อมตะคอกเพื่อนบ้านว่า “เออ ฆ่าได้สิ เข้ามาทำไมบ้านกู กูเกลียดแมว” ก่อนจับแมวฟาดลงกับพื้นถึง 2 ครั้ง พร้อมตะโกนว่า “ตายตัวที่ 2 นะ รู้ไว้ซะด้วย” ก่อนจะมีการโต้เถียงกับเพื่อนบ้าน ซึ่งแสดงตัวเป็นเจ้าของแมว จนโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้าง
บ่ายวันนี้ (5 ธ.ค.65) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ชุมชน ย่านทุ่งสองห้อง ไปหาลุงฆ่าแมว โดยมีประธานชุมชน 310 การเคหะทุ่งสองห้อง พยายามเข้าไปพูดคุย สอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ลุงคนนี้ทราบชื่อ นายเทียน อายุ 68 ปี พาผู้สื่อข่าวไปดูความเสียหายที่เกิดจากแมวในซอย ที่มาข่วนเบาะรถมอเตอร์ไซค์ในบ้านเป็นรอยทุกคัน โดยระบุว่า ทนไม่ไหว เพราะเกิดหลายครั้งแล้ว ยอมรับว่าตัวเองเกลียดแมว ยิ่งมาทำความเสียหายแบบนี้ยิ่งต้องพยายามป้องกันทั้งตัวเองและรถ ยืนยันทำตามสิทธิที่ตัวเองมี ไม่ได้ตั้งใจทำให้ตาย แค่จะทำให้มันนิ่ง แล้วก็ปล่อยมันไป และไม่รู้สึกผิดด้วย ถามว่าจะไปขอโทษเจ้าของไหม นายเทียนบอกก็เขาไปแจ้งความแล้ว จะไปขอโทษทำไม ก็สู้กันในศาล ถ้าไม่ฟ้องก็อาจจะขอโทษ และยอมรับด้วยว่า ที่ทำร้ายแมวในซอยนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก ทำมาหลายครั้งแล้ว แต่จำไม่ได้ว่าทำร้ายหรือฆ่าไปกี่ตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่สัมภาษณ์ มีชาวบ้านไม่พอใจพฤติกรรมลุง ด่ากราดด้วยถ้อยคำหยาบคายตลอดเวลา แต่ลุงก็ไม่ยอม ด่าตอบโต้ตลอดเช่นกัน
เจ้าของแมวลั่นไม่รับคำขอโทษ ขอสู้เอาผิดให้ถึงที่สุด
ด้าน น.ส.เอื้อ อายุ 18 ปี เจ้าของแมวเคราะห์ร้าย ที่ยังอยู่ในอาการเสียใจ เปิดเผยว่า วันนี้ไปให้ปากคำเพิ่มเติมกับตำรวจในฐานะเจ้าของแมว แจ้งความในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ และทำให้เสียทรัพย์ โดยตนเพิ่งซื้อเจ้าโชโต่ มาเพียง 1 เดือน ในราคา 3,000 บาท โดยเจ้าของแถมเจ้าโกโจ มาให้ด้วย เพื่อให้เป็นเพื่อนกัน แม่ตนเองที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่า หลังเกิดเหตุรีบนำร่างเจ้าโชโต่ ที่อยู่ในสภาพนอนแน่นิ่งไปพบสัตวแพทย์ เพื่อรักษาอาการอย่างเร่งด่วน ซึ่งพาไปหาถึง 4 โรงพยาบาล ก่อนที่สุดท้ายแพทย์ได้แจ้งว่า เสียใจด้วย เนื่องจากน้องมีอาการสาหัส เพราะได้รับการกระทบกระเทือนที่สมองอย่างรุนแรง ตอนนี้ก็ยังทำใจไม่ได้ และรู้สึกว่าร้ายแรงมาก จนถึงขั้นไม่กล้าดูคลิป หลังจากนี้คงจะไม่ซื้อแมวมาเลี้ยงเพิ่มเติมอีกต่อไป ที่ผ่านมาไม่เคยคุย แม้แต่ชื่อลุงก็ไม่รู้จัก แม้จะอยู่ถัดจากบ้านตัวเองไปประมาณ 4-5 หลัง ลุงคนนี้เพิ่งมาอยู่ได้ไม่นาน ทั้งนี้ หากลุงมาขอโทษ ตนเองและครอบครัวก็จะไม่รับคำขอโทษ ยืนยันจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
ประธานชุมชนเผย “ลุงฆ่าแมว” เพิ่งมาอยู่ไม่ถึง 3 ปี สร้างเรื่องกับคนทั้งซอย
ขณะที่ประธานชุมชน เล่าว่า “ลุงฆ่าแมว” เพิ่งมาอยู่ที่นี่ช่วงก่อนโควิดระบาด รวมประมาณ 3 ปี ก่อนหน้านี้ลูกชายอยู่มาเป็น 10 ปี ไม่เคยมีปัญหากับใคร แต่พอลุงมาอยู่ ปัญหาเกิดมากมาย ลูกบ้านมาร้องเรียนได้ทุกวัน โดยเฉพาะการทำร้ายสุนัข แมว ทั้งจรจัด และที่มีเจ้าของ จากข้อมูลลูกบ้านระบุชัดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้เขาเคยตีแมวของยายข้างบ้านที่หลุดไปบ้านเขาจนตาย ก่อนนำไปโยนทิ้งถังขยะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น วางยาแมวจนตาย รวมทั้งทำร้ายคนที่เดินผ่านไปมาหน้าบ้านด้วยการปาก้อนหินใส่ศีรษะ พรุ่งนี้ (6 ธ.ค.) จะไปคุยกับสำนักงานเขตหลักสี่ ว่าจะดำเนินการอะไรได้บ้างกับลุงคนนี้
“ลุงฆ่าแมว” อาจเจอโทษ คุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท
สำหรับโทษในเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายสาธิต ปรัชญาอริยะกุล เลขาธิการและผู้อำนวยการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า เรื่องนี้เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 มาตรา 20 “ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร” ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เรื่องนี้เป็นความผิดอาญาที่ยอมความกันไม่ได้ แต่หาก “ลุงฆ่าแมว” ระบุว่า ทำไปเพื่อป้องกันทรัพย์สินและร่างกาย กฎหมายก็มีข้อยกเว้น แต่ต้องมาดูว่ามีน้ำหนักหรือเหตุผลมากพอหรือไม่ และวิธีการป้องกันเหมาะสมหรือไม่. – สำนักข่าวไทย