นักเรียนอาชีวะร้องถูกวัยรุ่นเจ้าถิ่นทำร้าย

กรุงเทพฯ 24 พ.ย. – “กัน จอมพลัง” พานักเรียนอาชีวะ-มารดา ร้อง ผกก.สน.ดินแดง ถูกวัยรุ่นเจ้าถิ่นบุกทำร้ายถึงบ้าน และแทงมารดาบาดเจ็บ เหตุเคยเตือนให้อย่าเสียงดัง


นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พานายมังกร อายุ 19 ปี พร้อมมารดา เข้าร้องขอความเป็นธรรมที่ สน.ดินแดง เนื่องจากถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุแจ้งความกลับ หลังผู้ก่อเหตุ 3 คน มานั่งดื่มน้ำกระท่อมส่งเสียงดัง จึงไปบอกให้เบาเสียงลง ทำให้กลุ่มก่อเหตุไม่พอใจ รวมตัวกัน 5 คน กลับมาก่อเหตุที่บ้าน โดยกลุ่มก่อเหตุเป็นนักเรียนจากสถาบันเดียวกัน

มารดานายมังกร เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ขณะที่นอนพักผ่อนอยู่ได้ยินเสียงดัง จึงวิ่งออกไปดู แต่กลับถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุใช้มีดแทงด้านหลังข้างซ้าย ส่วนลูกได้รับบาดเจ็บตรงนิ้วและช่วงอก จึงต้องการร้องขอความเป็นธรรม และเป็นห่วงความปลอดภัยของลูก เนื่องจากคู่กรณีเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน นอกจากนี้ ยังกังวลเรื่องการเรียนของลูกอย่างมาก เนื่องจากทางโรงเรียนยื่นคำขาดให้รีบจัดการเรื่องคดีให้จบภายใน 1 เดือน ไม่เช่นนั้นต้องลาออกอาจทำให้ลูกไม่มีที่เรียนหนังสือ ยอมรับแม้ลูกตนจะนิสัยไม่ดี แต่ไม่เกเร จะหาเงินเรียนเองตลอด


ด้านนายมังกร คาดสาเหตุครั้งนี้น่าจะเกิดจากความไม่พอใจที่ไล่กลุ่มดังกล่าวไม่ให้เสียงดัง โดยผู้ก่อเหตุกลุ่มนี้เป็นเพื่อนเรียนที่เดียวกัน 2 คน ทั้งนี้ มีคลิปจากกล้องวงจรปิดจับภาพของผู้ก่อเหตุ 5 คนไว้ได้ ขณะที่ผู้ก่อเหตุกำลังพูดคุยก่อนจะเข้าไปทำร้ายร่างกายนายมังกร และแม่ภายในบ้าน

ต่อมากัน จอมพลัง พบเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 30 นาที ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อว่า หลังจากพูดคุยกับ พ.ต.อ.วัชรพล สุวนันทวงศ์ ผกก.สน.ดินแดง ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.โสภณ แย้มชมชื่น รอง ผกก.สน.ดินแดง มาพูดคุยกับตน เนื่องจากติดภารกิจ ทราบว่าขณะนี้สำนวนทำเสร็จแล้วและจัดส่งให้อัยการในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ในส่วนเรื่องที่มีกระแสข่าวว่า คู่กรณีจะแจ้งความกลับนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบการแจ้งความกลับและขั้นตอนนี้ยังไม่เสร็จ เนื่องจากยังไม่ได้เรียกคู่กรณีมาสอบปากคำ

ส่วนก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนโทรมาหาผู้เสียหายบอกให้หาผู้ใหญ่มาไกล่เกลี่ยนั้น จากการตรวจสอบเป็นตำรวจและโทรไปจริง ซึ่งให้ผู้กำกับตรวจสอบว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากคู่กรณีมีการแจ้งความกลับจริง จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย และมองว่าต่อให้มาแจ้งความจริง ทางเจ้าที่ตำรวจก็ไม่ได้คล้อยตาม เพราะจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”