“ประหยัด” ร้องศาลปกครองกลาง ขอให้ถอนคำสั่งไล่ออกจากราชการ

ศาลปกครองกลาง 15 พ.ย. – “ประหยัด พวงจำปา” รองเลขาธิการ ป.ป.ช. มอบทนายความยื่นหนังสือร้องศาลปกครองกลาง ขอให้ถอนคำสั่งไล่ออกจากราชการ หลังคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลว่าร่ำรวยผิดปกติ ระบุทรัพย์สินที่ได้มาเป็นของคู่สมรส สามารถพิสูจน์ถึงการได้มาอย่างครบถ้วน


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 พ.ย. ที่ ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ นายประหยัด พวงจำปา มอบหมายให้นายอาทร ดำคง ทนายความผู้รับมอบอำนาจ  เดินทางมายื่นฟ้องประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้ศาลปกครองกลางมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2565 ที่มีคำสั่งลงโทษไล่นายประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  ออกจากราชการ ตามมติการชี้มูลของคณะกรรมการ ป.ป.ช ที่มีมติว่านายประหยัด พวงจำปา ร่ำรวยผิดปกติ

นายประหยัด พวงจำปา เห็นว่า คำสั่งลงโทษไล่ออกเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหลายประการ เช่น 1.ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนของคณะกรรมการไต่สวนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้งขึ้น ไม่ปรากฏว่านายประหยัด พวงจำปา มีการกระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการอันจะเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงแต่อย่างใด โดยทรัพย์สินที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลว่าร่ำรวยผิดปกติเป็นทรัพย์สินของคู่สมรส ซึ่งคู่สมรสสามารถแสดงหรือพิสูจน์ถึงการได้มาซึ่งสิทธิในทรัพย์สินได้อย่างครบถ้วน โดยรายการทรัพย์สินต่าง ๆ มีทั้งในส่วนที่ถือครองแทนบุคคลอื่น เพื่อช่วยเหลือในทางธุรกิจ และเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการประกอบธุรกิจในครอบครัว (กงสี) และเป็นทรัพย์สินที่ได้มาก่อนที่นายประหยัด จะเข้ารับตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยนายประหยัด ไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด และตำแหน่งรองเลขาธิการฯ ที่ได้รับการแต่งตั้งก็ไม่สามารถเอื้อโอกาสที่จะใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินที่มีการชี้มูลแต่อย่างใด


2.การดำเนินการไต่สวนของคณะกรรมการไต่สวน การพิจารณาและการวินิจฉัยคดีของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไม่ชอบด้วยกฎหมายหลายประการ อาทิ ระยะเวลาในการไต่สวนที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด กรรมการ ป.ป.ช.บางราย มีส่วนได้เสียในเรื่องที่กล่าวหา มีอคติ มีความไม่เป็นกลาง มีการสร้างสถานการณ์ และแสวงหาพยานหลักฐานเพื่อกลั่นแกล้ง 3.มติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ลงมติชี้มูลนายประหยัด มีคะแนนเสียงเท่ากัน (4 : 4 เสียง) แต่ปรากฏว่ามีการชี้มูลไปในทางที่เป็นผลร้ายแก่นายประหยัด โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

การยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลางในครั้งนี้เพื่อคุ้มครองศักดิ์ศรีของข้าราชการมิให้ถูกกลั่นแกล้ง และต้องการสร้างบรรทัดฐานในการทำหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าควรทำหน้าที่ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะหากติดตามข่าวสารจะพบว่ามีหลายคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติไม่ชี้มูลความผิดโดยยังเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยของประชาชนอยู่จนถึงปัจจุบัน หรือหลายคดีที่เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลออกไป แต่เมื่อมีการฟ้องร้องต่อศาลปรากฏว่าศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง วันนี้นายประหยัด จึงต้องมาใช้สิทธิร้องขอศาลปกครองกลาง คืนความชอบธรรม เพิกถอนคำสั่งไล่ออกจากราชการตามมติ ป.ป.ช.ดังกล่าว. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่

ระเบิดปากีสถาน

ยอดเสียชีวิตจากเหตุระเบิดสถานีรถไฟปากีสถานเพิ่มเป็น 24 รายแล้ว

เหตุระเบิดสถานีรถไฟในเมืองเควตตา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ตายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 24 ราย บาดเจ็ดมากกว่า 40 ราย