รวบมาเฟียจีนหนีหมายจับตำรวจสากล คดีฉ้อโกง

กทม. 23 ต.ค.- สตม.รวบมาเฟียจีน มีหมายจับตำรวจสากล คดีก่อเหตุฉ้อโกงฯ กว่า 100 ล้านบาท หนีซุก จ.มหาสารคาม


เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2565 พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. เปิดเผยว่า ด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสาธารณรัฐประชาชนจีนประสานผ่านสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้แจ้งข้อมูลผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีน MR.LIU หรือนายหลิว สัญชาติจีน อายุ 54 ปี ซึ่งมีหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีน และมีหมายอินเตอร์โพล(RED NOTICE) แล้วได้หลบหนีมาอยู่ในราชอาณาจักรไทย โดยมีข้อหาในการกระทำความผิดคือฉ้อโกงประชาชนและปล่อยสินเชื่อโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ความเสียหายกว่า 110 ล้านบาท นั้น

พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. สั่งการให้ตนพร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม.ให้สืบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดรายดังกล่าว จนสามารถพบว่าเดินทางเข้ามาอยู่ในประเทศไทย จึงสั่งการให้ พ.ต.ต.สิทธิมณ สร้อยภู่ระย้า สว.กก.4 บก.สส.สตม.,ร.ต.อ.อดิศร บุญชุ่ม รอง สว.กก.ปอพ.บก.สส.สตม.,ร.ต.อ.โกเมน วรรณบวร รองสว.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม. ทำการติดตามจับกุมนายหลิว ซึ่งต่อมาสืบทราบว่า ได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม


โดยวานนี้ (22 ต.ค.65) เวลาประมาณ 08.00 น. ได้เดินทางไปตรวจสอบพบนายหลิว ผู้ต้องหาตามหมายจับอินเตอร์โพล(RED NOTICE) จากการสอบถามให้การรับว่าได้กระทำความผิดในลักษณะฉ้อโกงประชาชนและปล่อยสินเชื่อโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยมีผู้เสียหายจำนวนมาก และสร้างความเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 110 ล้านบาท ซึ่งภายหลังได้หลบหนีเข้ามายังประเทศไทย อีกทั้งจากการสืบสวนขยายผลพบว่า ยังมีพฤติการณ์ในการรวมกลุ่มคนจีนที่อยู่ในประเทศไทยแล้วตั้งเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลหรือมาเฟีย ในการเตรียมการปล่อยสินเชื่อที่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการนำตัวนายหลิว ส่ง บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.พันธนะ เปิดเผยอีกว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทำการสืบสวนขยายผลในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป อีกทั้ง เป็นนโยบายสำคัญของสำนักงานตำรวจ แห่งชาติ และ สตม. ในการปราบปราม คนต่างชาติที่หลบหนีการกระทำความผิด หรือเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ ถือว่าเป็นผู้ต้องหาคดีทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศจีน ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน ต้องการตัว เพื่อส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศจีนเป็นอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม