รวบ “ดิสโก้” โกงบัตรคอนเสิร์ต Blackpink

กทม. 31 พ.ค.-สืบนครบาลรวบ “ดิสโก้ เจ้าแม่ E-ticket” โกงบัตรคอนเสิร์ต Blackpink บีบน้ำตาอ้างทยอยคืนเงินแล้ว ด้านตำรวจไม่ปักใจเชื่อ พบพฤติกรรมติดพนันออนไลน์ ตรวจสอบประวัติการถูกดำเนินคดีฉ้อโกงกว่า 9 คดี

วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.PCT ชุดที่ 5 , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น./รอง หน. PCT ชุดที่ 5, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว, พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ, ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น, ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร, ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา, ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ อันชูฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ดินแดง, ส.ต.ท.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัย ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 และชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.ณัฐริกา หรือดิส อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงสระบุรีที่ 73/2566 ลงวันที่ 27 เม.ย. 66


โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกงทรัพย์ทางออนไลน์” ตรวจสอบพบประวัติการถูกดำเนินคดีกว่า 9 คดี ดังนี้

  1. วันที่ 21 เม.ย. 65 ก่อเหตุ “ฉ้อโกงทรัพย์ทางออนไลน์” พื้นที่ สภ.หนองแค จ.สระบุรี
  2. วันที่ 18 ต.ค. 65 ก่อเหตุ “ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” พื้นที่ สน.ปทุมวัน
  3. วันที่ 15 พ.ย. 65 ก่อเหตุ “ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” พื้นที่ สน.ปทุมวัน
  4. วันที่ 9 ธ.ค. 65 ก่อเหตุ “ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ” พื้นที่ สภ.ปากเกล็ด จ.นนทบุรี
  5. วันที่ 21 ธ.ค. 65 ก่อเหตุ “ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” พื้นที่ สน.ปทุมวัน
  6. วันที่ 8 ม.ค. 66 ก่อเหตุ “ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” พื้นที่ สน.ปทุมวัน
  7. วันที่ 8 ม.ค. 66 ก่อเหตุ “ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” พื้นที่ สน.ปทุมวัน
  8. วันที่ 8 ม.ค. 66 ก่อเหตุ “ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” พื้นที่ สน.ปทุมวัน
  9. วันที่ 8 ม.ค. 66 ก่อเหตุ “ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” พื้นที่ สน.ปทุมวัน

พฤติการณ์คือ สืบเนื่องจากมหกรรมคอนเสิร์ตวง Blackpink ที่ผ่านมา ชุดลาดตระเวนออนไลน์ของ บก.สส.บช.น. ได้พบเบาะแส ว่ามีการฉ้อโกงบัตรคอนเสิร์ต เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีผู้เสียหายหลายรายซึ่งเป็นเหล่าแฟนคลับต่างได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์ชุด pct5 และสืบนครบาล ได้สืบสวนแกะรอยจนทราบว่าคือ น.ส.ณัฐริกา หรือดิส อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับ และมีคดีเกี่ยวกับการฉ้อโกงบัตรคอนเสิร์ตกว่า 9 คดี พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามจับกุมตัว จนทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ในละแวก ซ.ไมยราบ แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบก็ได้เบาะแสผู้ต้องหาจากชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งเพราะพฤติกรรมหวาดระแวงและหลบๆซ่อนๆ ของผู้ต้องหา จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่อพาร์ทเมนท์ ซ.เนียมกล่ำสามัคคี 2 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว


ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนหาเงินได้จากคอนเสิร์ตต่างๆ ที่จัดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะคอนเสิร์ต Black Pink ที่มีคนไทยให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ตนเห็นช่องทางหารายได้ จึงรับกดบัตรทางออนใลน์ โดยให้กลุ่มเพื่อนและน้องสาวช่วยกันกดซื้อบัตรเพื่อนำมาขายต่อให้กับสาวก Black Pink ในประเทศไทย โดยได้จองบัตรคอนเสิร์ต Black Pink ในราคา 9,600 บาทซึ่งเป็นบัตรนั่งราคาแพงที่สุดได้มาประมาณ 200 ใบ จากนั้นตนจึงนำมาขายต่อในราคาใบละ 15,000-30,000 บาท มีผู้ต้องการซื้อจำนวนมากนับหมื่นคน จนขายหมดทั้ง 200 ใบ ได้กำไรหลายแสนบาท แต่ยังมีลูกค้ามาขอซื้อต่อจากตนเรื่อยๆ ตนจึงเกิดความโลภ และเห็นว่าตั๋วทั้งหมดเป็นตั๋วแบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-ticket) จึงมีการนำบัตรที่มีการขายไปแล้ว วนขายซ้ำให้ผู้ที่มาขอซื้อ จนวันจัดคอนเสิร์ต Black Pink เกิดปัญหาตั๋วที่นั่งเดียวมีคนไปแสดงตัวเป็นเจ้าของหลายคน ทำไมให้ตนผู้มีชื่อเป็นเจ้าของบัตรดังกล่าวจึงโดนติดตามตัว และโดนแจ้งความดำเนินคดี แต่ตนก็ได้ทยอยคืนเงินให้ผู้เสียหายบางคนแล้ว แต่ยังมีผู้เสียหายจำนวนมากที่ยังไม่ได้เงินคืนเพราะตนไม่มีเงินแล้ว จึงหนีจากที่อยู่เดิมไปกบดานอยู่ที่แถวลาดพร้าวจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว ตนยอมรับผิดและจะพยายามหาเงินมาคืนให้ผู้เสียหายทุกคน น.ส.ณัฐริกา กล่าว” หลังจากจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัว น.ส.ณัฐริกา ผู้ต้องหา ส่งที่สภ.หนองแค จ.สระบุรีเพื่อดำเนินคดีตามกฎหายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เราไม่ปักใจเชื่อในคำให้การหรือคำแก้ตัวของคนร้ายรายนี้แม้จะมีการเรียกน้ำตาความน่าสงสาร เพราะพยานหลักฐานจากฝ่ายผู้เสียหายนั้นมัดแน่น คนร้ายเป็นสาวโปรไฟล์ดี หาเงินจากการขายบัตรคอนเสิร์ตให้สาวกซุปเปอร์สตาร์ได้จำนวนมาก แต่จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่าคนร้ายมีพฤติกรรมติดพนันออนไลน์ เมื่อเสียเงินจากพนันออนไลน์จนหมดตัว ทำให้เกิดความโลภ คิดคดโกงหาเงินแบบรวดเร็วเพื่อเอามาเล่นพนันออนไลน์อีก จนผู้เสียหายรวมกลุ่มติดตามคนร้ายจำนวนมากเพื่อเอาเงินคืน คนร้ายไม่มีเงินคืนจึงหลบหนี มันไม่เพียงแต่เป็นการฉ้อโกงเท่านั้น แต่การที่เหล่าแฟนคลับศิลปินต่างประเทศจะได้พบตัวเป็นๆของเหล่าดาราที่ตนเองชื่นชอบนั้น มีโอกาสเพียงน้อยครั้ง และยังมาถูกตัดโอกาสเช่นนี้ มันไม่เพียงแค่เรื่องเงิน แต่มันเป็นเรื่องทางจิตใจด้วย หากมีผู้เสียหายคนใดยังไม่เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เกิดเหตุเพื่อเอาผิดกับคนร้ายเพิ่มเติมได้ และหากมีคดีที่ก่อให้เกิดความเดือนร้อนของประชาชนสามารถแจ้งมาทางช่องทางเฟสบุ๊คเพจ สืบนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

EOD เก็บกู้ระเบิดในร้านสะดวกซื้อ-นำร่างผู้เสียชีวิตออกจากพื้นที่

ศรีสะเกษ 25 ก.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD เก็บกู้ระเบิดในร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิต 5 ราย ออกจากพื้นที่แล้ว ความคืบหน้าเหตุการณ์ปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา พื้นที่ชายแดน เขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ วันนี้ (25 ก.ค.) กระสุนปืนของฝั่งกัมพูชาตกมาที่ฝั่งไทย ค่าย ตชด.224 ประมาณ 3 ลูก ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ EOD ที่ปฏิบัติหน้าที่เก็บกู้ระเบิดตั้งแต่ช่วงเช้า ต้องออกจากที่เกิดเหตุด่วน ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ โดยยังทำการเก็บกู้ระเบิดที่หลงเหลือยังไม่แล้วเสร็จ เพราะกระสุนของทางกัมพูชายิงมาใกล้กับจุดเกิดเหตุ จึงทำการอพยพชั่วคราว ก่อนจะดำเนินการเก็บกู้ระเบิดอีกครั้ง ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้เข้าเก็บร่างผู้เสียชีวิตภายในร้านสะดวกซื้อ พบผู้เสียชีวิต 5 ราย หนึ่งในนั้นเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

รอง มทภ.2 เยี่ยมปลอบขวัญ ปชช. เชื่อสถานการณ์จบใน 3-7 วัน

ศรีสะเกษ 25 ก.ค. – รองแม่ทัพภาค 2 ลงพื้นที่ปลอบขวัญประชาชนที่ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ เชื่อว่าสถานการณ์จะจบภายใน 3-7 วัน พลตรีนรธิป โพยนอก รองแม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางมายังที่ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีประชาชนมาลงทะเบียนพักมากที่สุดกว่า 5,000 คน โดยรองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่าติดปัญหาได้หรือไม่ เช่น เรื่องห้องน้ำอาหาร และที่นอน เป็นต้น จากนั้นได้เดินทักทายจับมือให้กำลังใจกับประชาชนโดยระบุขออย่ากังวลกับทรัพย์สินและบ้านเรือน ส่วนบ้านเรือนที่เสียหายเมื่อสถานการณ์คลี่คลายจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยซ่อมแซม ส่วนคำถามที่ว่าประชาชนจะสามารถกลับเข้าบ้านเรือนได้ตามปกติเมื่อไหร่นั้น รองแม่ทัพภาคที่ 2 เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะคลี่คลายภายใน 3-7 วันนี้ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ปราศรัยกับประชาชนถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่จะทรงรับผู้บาดเจ็บจากเหตุสู้รบในครั้งนี้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด รวมถึงการซ่อมแซมบ้านเรือนต่างๆ ที่เสียหายด้วย.-สำนักข่าวไทย

ทูตไทยจ่อแถลงข้อเท็จจริง UNSC ประชุมฉุกเฉิน 25 ก.ค.นี้

นิวยอร์ก 25 ก.ค.-ทูตไทยเตรียมแถลงข้อเท็จจริง UNSC ประชุมฉุกเฉิน 25 ก.ค. ส่งหนังสือแจงนานาชาติ ก่อนเตรียมแจงในที่ประชุม ยันกัมพูชาวางทุ่นระเบิดและเปิดฉากยิงใส่ฐานทหารไทยที่ตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ของไทยก่อน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติได้ดำเนินการในส่วนของไทยทันที หลังเกิดเหตุปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา วานนี้ (24 ก.ค.)โดยมีการส่งหนังสือออกไป 3 ฉบับ ฉบับแรกเป็นหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อตอบโต้ข้อกล่าวอ้างของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาจากไทย ให้กับนายอาซิม อิฟติคาร์ อาหมัด เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรปากีสถานประจำสหประชาชาติ ในฐานะประธาน UNSC ในปัจจุบัน พร้อมกันนี้ยังได้ส่งหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้คณะผู้แทนถาวรของสมาชิกสหประชาชาติทั้งหมดรับทราบด้วย ขณะเดียวกัน คณะผู้แทนถาวรไทยยังได้ส่งหนังสือไปถึงนายอันโตนิอู กุแตเรซ เลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อแจ้งเหตุการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งเป็นอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ เก็บสะสม ผลิต และถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการทำลายทุ่นระเบิดดังกล่าว ต่อกรณีที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ซึ่งทุ่นระเบิดที่พบเป็นของที่เพิ่งถูกวางใหม่ และยังมีการเกิดเหตุซ้ำแม้ว่าไทยจะมีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดไปก่อนหน้านี้หลังเกิดเหตุครั้งแรกแล้วก็ตาม จึงขอให้มีการดำเนินการสอบสวนตามข้อกำหนดในอนุสัญญา และขอให้กัมพูชาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในดินแดนไทยอีกด้วย ทั้งนี้ UNSC จะจัดให้มีการประชุมฉุกเฉินแบบที่เรียกว่า private meeting ซึ่งเป็นการประชุมปิดที่ใช้เวลาราว […]

องคมนตรี นำสิ่งของพระราชทานมอบแก่ จนท.-ประชาชนได้รับผลกระทบชายแดน

อุบลราชธานี 25 ก.ค.-พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี นำสิ่งของพระราชทานมอบแก่เจ้าหน้าที่และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ จ.ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่าน พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ได้เดินไปยังพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และจุดที่ 2 จังหวัดอุบลราชธานี และขณะนี้องคมนตรีได้เชิญสิ่งของพระราชทานในจุดที่ 1 จ.อุบลราชธานี แก่เจ้าหน้าที่จำนวน 200 ชุด มอบแก่ประชาชน 75 ชุด จากนั้นจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมประชาชนในศูนย์อพยพและจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงกลุ่มเปราะบาง รวมไปถึงทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนบรรยากาศเช้านี้ที่ช่องบ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ที่เป็นจุดปะทะ ชาวบ้านได้อพยพมาอยู่ในหลุมหลบภัย เนื่องจากมีเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง ผู้นำชุมชนจึงได้ให้ประชาชนเข้าไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย จากนั้นยังมีรายงานจากรองโฆษกกองทัพบกว่า สถานการณ์ในวันนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า เริ่มมีการปะทะตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 น. ในพื้นที่ช่องบก และภูมะเขือ จ.อุบลราชธานี รวมถึงในพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยฝ่ายกัมพูชาได้ระดมยิงด้วยอาวุธหนัก ปืนใหญ่สนาม และจรวด BM-21 เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนถึง 08.00 น. […]