ผบ.ตร. สั่งให้ทุกหน่วยวาง 6 มาตรการเข้มป้องกันอาชญากรรม

22 ต.ค. – ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ทุกหน่วยวาง 6 มาตรการเข้มป้องกันอาชญากรรม จี้ต้องรุกคืบแก้ปัญหายาเสพติด-อาวุธปืน กำชับต้องรายงานผลให้ทราบภายใน 10 พ.ย.นี้


เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประกัสร์ ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งด่วนที่สุด เป็นวิทยุในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ถึง ผบช. หรือตำแหน่งเทียบเท่า และ ผบก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร.มีใจความว่า :

“ด้วยปัญหายาเสพติดที่กำลังแพร่ระบาด คุกคามและบ่อนทำลายประเทศชาติ เป็นต้นเหตุสำคัญประการหนึ่งของความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทั้งผู้ค้าและผู้เสพยาเสพดิดที่เพิ่มมากขึ้น อาชญากรรมและภัยคุกคามจากยาเสพติดมักมีความรุนแรง ประกอบกับปัจจุบันมีเหตุการณ์ก่ออาชญากรรมที่มีการใช้อาวุธปืนอยู่บ่อยครั้ง สร้างความสูญเสียแก่ชีวิต ทรัพย์สิน และความหวาดกลัวภัยของประชาชนมากยิ่งขึ้น ส่งผลกระทบต่อสังคมและความสงบเรียบร้อยของประชาชนโดยรวม


เพื่อให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชน โดยบัญชาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ ตร. เร่งรัดปราบปรามความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุนปืน ให้บังเกิดผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ สร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาให้แก่ประชาชน จึงให้ทุกหน่วยดำเนินการตามมาตรการ ของ ตร. ที่เคยสั่งการไว้โดยเคร่งครัด และกำชับการปฏิบัติ ดังนี้
(1.)ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ให้เพิ่มความเข้มในการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดในพื้นที่ รวมทั้งให้มีการขยายผลและใช้มาตรการทางทรัพย์สินแบบบูรณาการทั้งยึด อายัดทรัพย์คดียาเสพติด และดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการพอกเงินฯ ต่อผู้กระทำผิดทุกระดับ ให้ดำเนินการเชิงรุก ลดการแพร่ระบาดยาเสพติดในพื้นที่อย่างจริงจัง โดยแสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการแก้ปัญหาทั้งมิติในด้านการป้องกัน การจับกุม การบำบัด โดยเฉหาะในชุมซน สถานศึกษา สถานบริการและสถานประกอบการ

ให้ ผบช.,ผบก. ขับเคลื่อนการปฏิบัติในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดด้วยตนเอง ให้มีแผนการสุ่มตรวจสถานบริการ สถานประกอบการตามวงรอบ และมีแผนการปิดล้อมตรวจค้นชุมชนแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง และให้ดำเนินการตามโครงการตำรวจสีขาว โดยการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของข้าราชการตำรวจในสังกัด โดยหากตรวจพบว่าข้าราชการตำรวจนายใดมีสารเสพติดในร่างกาย

ผู้บังคับบัญชาจะต้องดำเนินการทางวินัยและปกครองขั้นเด็ดขาด และหากพบว่าผู้บังคับบัญชามีการปล่อยปละละเลยให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจะถูกดำเนินการทางวินัยเช่นกัน , ร่วมกับภาคีเครือข่าย ค้นหาผู้ติดยาเสพติดที่มีอาการทางจิตในพื้นที่ จัดทำฐานข้อมูล เพื่อพิจารณาจัดลำดับความรุนแรงของอาการ เพื่อนำเข้าบำบัดรักษาโดยเร็ว ตาม พ.ร.บ.สุขภาพจิต พ.ศ.2551 และค้นหาและนำผู้ใช้ ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำปัดรักษาโดยสมัศรใจ ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 มาตรา 114 และบันทึกข้อมูลในระบบชักถามข้อมูลยาเสพติดทุกราย (https://www.nsbqdrugs.com/form.pdf )


ให้รายงานผลการปฏิบัติภายในวันที่ 10 พ.ย.65 ในการปฏิบัติงานให้ดำเนินการด้วยความรอบคอบ ภายใต้กรอบของกฎหมายโดยเคร่งครัด และด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระตับ ติตตาม ตรวจสอบ และควบคุมความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ให้ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยเด็ดขาค หากพบการกระทำความผิดจะต้องดำเนินการทางอาญา ทางวินัย และทางปกครองอย่างเฉียบขาดทุกราย

(2.)ความผิดเกี่ยวกับอาวุธป็น อาวุธสงคราม การป้องกัน ตรวจสอบข้อมูลประวัติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธปืน โดยปรับปรุง การบันทึกข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน รวมถึงดำเนินการกับกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้
วัยรุ่น กลุ่มเสี่ยง เด็กแว้นแข่งรถจักรยานยนต์ ที่มีพฤติกรรมชอบพกพาอวุธปืนในที่สาธารณะ และชอบยิงปืน หรือกลุ่มวัยรุ่น นักเลงอันธพาล ที่มีพฤติกรรมก่อความวุ่นวาย ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ทำตัวเป็นเจ้าถิ่น จับกลุ่มมั่วสุมในที่สาธารณะ มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม สร้างความหวาดกลัวต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ บุคคลที่พกพาอาวุธปินติตตามผู้มีอิทธิพส ผู้กว้างชวางในพื้นที่ บุคคลผู้ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน แต่มีความประพฤติไม่เรียบร้อยหรือมีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม ต้องสืบสวนติดตามพฤติกรรมในเชิงลึก กลุ่มบุคคลหรือบุคคลผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ผู้ติดตามทวงหนี้ โดยการข่มขู่และหรือมีพฤติกรรมข่มขู่ หรือใช้ความรุนแรง บุคคลพันโทษ บุคคลที่ถูกปล่อยตัวชั่วคราว ในความผิดเกี่ยวกับอาวุธปินหรือความผิดอื่นโดยใช้อาวุธปืนในการกระทำความผิด บุคคลที่มีพฤติกรรมหรือลักลอบผลิต จำหน่ายหรือขายอาวุธปืนโดยเปิดเผยทางอินเตอร์เน็ต (online) และในทางลับ และให้หน่วยเฉพาะทาง เช่น บช.สอท. บช.ก. รวมถึง ศปอส. ในทุกระดับ ดำเนินการสืบสวนปราบปรามให้ได้ผล บุคคล กลุ่มบุคคล ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและใช้อาวุธปืนในการกระทำความผิด

ทั้งนี้ หากพบว่าเข้าลักษณะบุคคลตามมาตรา 13 แห่ง พ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ให้แจ้งนายทะเบียนอาวุธปืนเพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ให้จัดทำฐานข้อมูลอาวุธปิน เครื่องกระสุนปืน (เฉพาะอาวุธปืนถูกกฎหมาย) ให้เป็นปัจจุบัน โดยให้เป็นหน้าที่ของ หน.สน.,สภ. ประสานกับฝ่ายปกครองเพื่อพิสูจน์ทราบจำนวนอาวุธปืน ผู้ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปิน ตลอดจนรายละเอียดขนาด,ชนิดของอาวุธปืน

สำหรับสถานีตำรวจที่มีร้านจำหน่ายอาวุธป็นในพื้นที่ให้ดำเนินการตรวจสอบยอดจำนวนการนำเข้า ขาย คงเหลือ ของอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนให้ถูกต้องตรงกับบัญชี พร้อมขอความร่วมมือให้จำหน่ายกระสุนปืนกับผู้ที่มีใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน (ป.4) มาแสดง และต้องเป็นกระสุนปืนตามขนาดที่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนเท่านั้น หากตรวจสอบพฤติการณ์การกระทำผิด พฤติการณ์ในทางที่ไม่ดีของบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปิน (ป.ส.) หรือมีพฤติการณ์ไม่น่าไว้วางใจในคุณสมบัติของผู้ได้รับอนุญาตตามมาตรา 3 แแห่ง พ.ร.บ.อาวุปืนฯ ให้รายงานนายทะเบียนอาวุธปืนทราบเพื่อพิจารณาเรียกประกันหรือเพิกถอนใบอนุญาตต่อไป สืบสวนหาข่าว ติดตามพฤติการณ์ ความเคลื่อนไหว และจัดทำฐานข้อมูลบุคคล และสถานที่ เป้าหมายสำคัญ โดยเฉพาะแหล่งผลิต ซุกช่อน จำหน่าย ให้เป็นปัจจุบัน เพื่อกำหนดเป็นเป้าหมายในการปิตล้อมตรวจค้นในช่วงระดมให้ชัดเจน

กำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกลำดับชั้นเข้มงวดกวดขันในการตรวจสอบอาวุธปืน คงคลังของทางราชการ และควบคุมการเบิกจ่ายอาวุธปืนของทางราชการทุกประเภทให้เป็นไปโดยถูกต้องตามระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดีลักษณะที่ 32 (เดิม) อาวุธและกระสุนปืนของกรมตำรวจ ข้อ 3 และระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 35 (เดิม) บทที่ 8 คำแนะนำในการรักษาคลังและให้ผู้บังคับบัญชาทุกลำดับชั้นกำชับการปฏิบัติดูแลรักษาอาวุธปืนของทางราชการตามหนังสือ ตร. ที่ 0008.421/ว 44 ลง 30 ก.ย.59 เรื่อง กำชับการปฏิบัติและกำหนดมาตรการในการควบคุมและการตรวจสอบเกี่ยวกับการใช้อาวุธปืนของทางราชการ โดยให้ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด

กรณีข้าราชการตำรวจที่มีอาวุธป็นเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง ให้ตรวจสอบสถานภาพอาวุธปืนที่ตัวเองมีชื่อครอบครองทั้งหมดว่ายังอยู่ครบถ้วน สูญหาย ชำรุด หรือมีการจำหน่ายไปแล้วหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีการจำหน่ายให้ตรวจสอบผู้ซื้อด้วยว่าได้รับใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืน (แบบ ป.3) จากนายทะเบียนท้องที่ถูกต้องหรือไม่ ทั้งนี้ให้หารือนายทะเบียนท้องที่และปฏิบัติให้ครบถ้วนถูกต้องตามกฎหมาย กฎระเบียบ และคำสั่งที่เกี่ยวซ้องการปราบปรามให้สืบสวนปราบปราม ตรวจค้นจับกุมแหล่งค้า ผลิต ซุกซ่อนอาวุธที่ผิดกฎหมายแหล่งอบายมุข แหล่งมั่วสุมของวัยรุ่น นักเลงอันธพาล สถานบริการ และเพิ่มมาตรการกดดันบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่คุ้มครองดูแลสถานบริการ สถานบันเทึง โดยเน้นการครอบครองอาวุธปืนและพกพาอาวุธที่ผิดกฎหมาย มิได้รับอนุญาต กำหนดจุดตรวจ จุดสกัด และตั้งด่านตรวจค้นบนเส้นทางหลัก เส้นทางรองเส้นทางล่อแหลม เส้นทางคนร้าย เพื่อตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะ อาวุธทุกชนิดที่อาจนำไปใช้ในการกระทำ ความผิด รวมถึงการครอบครองและพกพาอาวุโดยมีได้รับอนุญาต

ทั้งนี้ การตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และด่านตรวจดังกล่าวให้ปฏิบัติตามแนวทางที่ ตร. กำหนดสกัดกั้นการลักลอบขนส่งอาวุธที่ผิดกฎหมาย ทั้งทางบกและทางน้ำ การสุ่มตรวจค้นบุคคลหรือสัมภาระที่ต้องสงสัยในการกระทำความผิดที่มากับรถโดยสารสาธารณะ เช่น รถไฟ รถโดยสารประจำทาง ไม่ประจำทาง หรือสัมภาระที่ไม่มีผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าของ และสกัดกั้นการลักลอบซื้อขาย นำเข้าและส่งออก อาวุธผิดกฎหมายตามแนวชายแดน สน.,สภ. ที่มีที่ทำการไปรษณีย์ หรือบริษัทขนส่งพัสดุเอกชนในพื้นที่ ให้ประสานขอความร่วมมือเพื่อสุ่มตรวจสอบพัสดุต้องสงสัยที่ส่งทางไปรษณีย์หรือบริษัทนส่งพัสดุเอกชน ตลอดจนให้ความร่วมมือแจ้งข้อมูลกรณีตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยที่อาจเป็นสิ่งของผิดกฎหมายเพื่อร่วมกันตรวจสอบโดยละเอียดจากเจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง

การปราบปรามการค้าอาวุธข้ามชาติ ให้ บช.ก. เป็นหน่วยรับผิดชอบหลักและดำเนินการกรณีมีหลักฐานการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ การดำเนินการกับผู้มีอิทธิพลที่มีมือปืน ให้ความคุ้มครองต้องสืบสวนเชิงลึกเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุมชัดเจนเพื่อพิสูจน์ความผิดให้ศาลพิพากษาลงโหษได้และการซื้อขายอาวุธทางสื่อออนไลน์ ซึ่งต้องใช้ผู้มีความรู้ทางเทคนิคความเชี่ยวชาญเฉพาะทางดำเนินการให้ได้ผล

(3.)การดำเนินการตามข้อ 1 และ 2 ให้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากประชาชนผู้นำชุมชน สมาชิกแจ้งข่าวอาชญากรรม ในการแจ้งเบาะแสผ่านศูนย์รับแจ้งเหตุ 141 หรือทางสายด่วน 1544 เพื่อตรวจสอบดำเนินการ โดยขอเน้นย้ำในการรักษาความลับและความปลอดภัยของผู้แจ้งเหตุหรือเบาะแสรวมถึงให้ดำเนินการขอเบิกจ่ายสินบนเงินรางวัลนำจับให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

(4.)ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ควบคุม กำกับดูแล การปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด เน้นย้ำให้ปฏิบัติตามหลักยุทธวิธีตำรวจและคู่มือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงาน ป้องกันปราบปราม (Standard Operating Procedure : SOP) ควบคู่ไปกับมาตรการความปลอดภัยเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด

(5.)ให้ทุกหน่วยประสานและสนับสนุนการปฏิบัติซึ่งกันและกันอย่างใกล้ชิด กรณีที่มีการจับกุมรายสำคัญ มีของกลางเป็นจำนวนมาก หรือเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ให้จัดแถลงข่าวในพื้นที่ทันที โดยดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

(6.)กรณีที่มีเหตุสำคัญเร่งด่วนให้ใช้ช่องทาง ศปก.ของหน่วย รายงานให้ ศปก.ตร. ทราบ เพื่อรายงาน ผบ.ตร. จตช. รอง ผบ.ตร. ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่รับผิดชอบ และ ผอ.ศปอส.ตร. (กรณีเหตุสำคัญเร่งด่วนความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงครามที่กระทำความผิดผ่านระบบออนไลน์และโซเชียลมีเดียต่างๆ) ผอ.ศอ.ปส.ตร. (กรณีเหตุสำคัญเร่งด่วนความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด) เพื่อทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด “คำสั่งดังกล่าว ระบุ” . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือน 6 จังหวัดรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 10 ก.ค.- กรมอุตุฯ เตือน 6 จังหวัด บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร จันทบุรี และตราด รับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทย โดยเฉพาะในบริเวณจังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 11-13 ก.ค. ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากจะมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน […]

“ทักษิณ” ประกาศเลิกคบ “ฮุน เซน”

พญาไท 9 ก.ค. – “ทักษิณ” ประกาศเลิกคบ “ฮุน เซน” ยอมรับช็อกลูกสาวถูกปล่อยคลิป ชี้ไม่มีการรบ เผยผลประโยชน์สีเทาจุดแตกหัก “ฮุน เซน” เชื่อปมชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ถึงขั้นสงคราม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในงาน “55 ปี NATION : ผ่าทางตันประเทศไทย” Chapter 3 บก. ถาม “ทักษิณ ชินวัตร” ณ ห้องพญาไท 4 ชั้น 6 โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท ดำเนินรายการโดย 3 บก. บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่นระบุจุดเริ่มต้นของรอยร้าวที่ปะทุขึ้นสู่สาธารณะมาจากการปล่อยคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีแพทองธาร และฮุน เซน โดย ดร.ทักษิณ เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า เดิมทีมีการนัดหมายให้นายกฯ แพทองธาร สนทนากับฮุน เซน ผ่านการประสานงานของ “พี่ฮวด” โดยมีรัฐมนตรีคนสำคัญร่วมรับฟังด้วย ทั้งนายภูมิธรรม […]

ทบ.แจงปมทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า

9 ก.ค.- โฆษกกองทัพบก แจงทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า ปมทหารเขมรอยากรู้อยากเห็น ขยับเข้าใกล้พื้นที่ไทยเกินขอบเขตที่กำหนด จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์คลิปภาพทหารเขมรปะทะคารมกับทหารพรานของไทย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 9 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ค.68 เวลา 09.00 น. โดยสื่อของฝ่ายกัมพูชาได้นำเสนอคลิปวิดีโอการโต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารไทยและทหารกัมพูชา จากการตรวจสอบของหน่วยที่เกี่ยวข้องพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณช่องอานม้า ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยทหารพราน 2310 โดยกำลังพลประมาณ 7 นาย ได้จัดเตรียมสถานที่ เพื่อรองรับกิจกรรมภายในของหน่วย และกิจกรรมการตรวจเยี่ยมของผู้บังคับบัญชา คาดว่าฝ่ายกัมพูชาเห็นว่าฝ่ายทหารไทยมีการปฏิบัติต่างไปจากวันปกติทั่วไป จึงอยากเข้ามาสังเกตการณ์ใกล้ๆ แต่เมื่อเข้าใกล้พื้นที่มากกว่าขอบเขตที่กำหนด ทหารไทยจึงแสดงตนเข้าชี้แจง และขอให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม เป็นเหตุให้เกิดการโต้เถียงกันด้วยวาจาตามที่ปรากฏข่าว แต่ทั้งสองฝ่ายได้มีการอธิบายทำความเข้าใจกันจนเป็นที่เข้าใจทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ บริเวณที่ฝ่ายไทยจัดกิจกรรมมิได้เป็นการรุกล้ำเข้าไปในเขตกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ ขณะที่ ผช.เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ไปขอสึกที่วัดดังเชียงใหม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., นายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ที่ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามตัวเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี พระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในหลักฐานคลิปวิดีโอร่วมหลับนอนกับสีกา ก. เช่นเดียวกัน เพื่อตามตัวมาพูดคุยเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว ภายหลังทราบว่าเจ้าตัวกำลังเดินทางออกจากวัดมาที่หน้าวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ เพื่อมาซื้อจีวรผืนใหม่ จึงนำกำลังไปดักนิมนต์ได้ที่แยกไฟแดงพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนเจรจาพร้อมนำหลักฐานคลิปและภาพออกมาแสดงให้เจ้าตัวรับทราบ จนทำให้จำนนต่อหลักฐาน ยอมตัดสินใจลาสิกขา เพื่อรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนิมนต์เดินทางต่อมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อกล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าองค์พระประทานในพระอุโบสถวัดไตรมิตร ขณะเดียวกันในส่วนของการติดตามหาตัวผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เบื้องต้นทราบว่าติดตามเจอตัวที่วัดพระธาตุสุนันทา ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา แสดงหลักฐานให้เจ้าตัวได้รับทราบ เพื่อให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการยอมสึกขาดจากความเป็นพระด้วย […]