นายกฯ สั่ง ผบ.ตร.เร่งกวาดล้างอาวุธปืน-ยาเสพติด ครบวงจร

กรุงเทพฯ 9 ต.ค. – นายกฯ สั่งการ ผบ.ตร.เร่งระดมกวาดล้าง “อาวุธปืน ยาเสพติด แบบครบวงจร” สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน


วันที่ 9 ตุลาคม 2565 เวลา 11.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและยาเสพติดแบบครบวงจรอย่างต่อเนื่อง เปิดให้ประชาชนแจ้งเบาะแส ที่สายด่วน 191, 1599

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมักมีการใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุอาชญากรรมสะเทือนขวัญ และหลายครั้งที่ผู้ก่อเหตุมีอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาเสพติด สร้างความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งยังสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนเป็นอย่างยิ่ง


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงมีบัญชาให้ ตร. เร่งรัดปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและอาวุธปืนอย่างเร่งด่วนแบบครบวงจรและต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ทั้งนี้ ตร.จะมีการระดมกวาดล้างเป็นช่วงๆ แต่ในช่วงแรกจะระดมอย่างเร่งด่วนก่อน และจะทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ไม่เปิดเผยว่าช่วงใดบ้าง เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้มีการกระทำผิดกฎหมาย

นอกจากนั้นจะมีการตรวจค้นกลุ่มเสี่ยง เช่น กลุ่มวัยรุ่น เด็กแว้น ที่มีพฤติกรรมชอบพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ และชอบยิงปืน นักเลงอันธพาล ที่มีพฤติกรรมก่อความวุ่นวาย ก่อความเดือดร้อนรําคาญ บุคคลที่พกพาอาวุธปืนติดตามผู้มีอิทธิพล ผู้กว้างขวาง ผู้ประมูลรับเหมางานรายใหญ่ บุคคลที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ผู้ติดตามทวงหนี้ บุคคลพ้นโทษ บุคคลที่ถูกปล่อยตัวชั่วคราว ในความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน หรือความผิดอื่นโดยใช้อาวุธปืนในการกระทําความผิด บุคคลที่มีพฤติกรรม หรือลักลอบผลิต จําหน่ายหรือขายอาวุธปืนทางอินเทอร์เน็ต (online) รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยเฉพาะผู้ผลิต ผู้จําหน่าย รายใหญ่ และผู้มีประวัติถูกจับกุมในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดซ้ำซาก

ในขณะเดียวกัน จะมีการตรวจค้นจับกุมแหล่งค้า ผลิต ซุกซ่อนอาวุธที่ผิดกฎหมาย แหล่งอบายมุข แหล่งมั่วสุม สถานบริการ กําหนดจุดตรวจ จุดสกัด และตั้งด่านตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะ สกัดกั้นการลักลอบขนส่งอาวุธที่ผิดกฎหมาย ทั้งทางบกและทางน้ำ สุ่มตรวจ ค้นสัมภาระรถโดยสารสาธารณะ สกัดกั้นการลักลอบซื้อขาย นําเข้า และส่งออก อาวุธผิดกฎหมายตามแนวชายแดน การปราบปรามการค้าอาวุธข้ามชาติ


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการและควบคุมสั่งการในเรื่องนี้ ทั้งในระดับสถานี กองบังคับการ และกองบัญชาการ เพื่อบริหารจัดการคดีไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน วางระบบการประสานงานและส่งต่อข้อมูลอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมถึงให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ กวดขันควบคุมการปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด

ส่วนในด้านการปราบปรามยาเสพติดเชิงรุก จะมีการบูรณาการกับทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น สาธารณสุข เพิ่มความเข้มในการปราบปรามจับกุมผู้กระทําความผิดในพื้นที่ รวมทั้งให้มีการขยายผลและใช้มาตรการทางทรัพย์สิน ทั้งยึด อายัดทรัพย์คดียาเสพติด การฟอกเงิน ต่อผู้กระทําผิดทุกกรณี

นอกจากมิติการป้องกัน การนำผู้เสพมาเข้ารับการบําบัด โดยเฉพาะในชุมชน สถานศึกษา สถานบริการและสถานประกอบการ จะมีการสุ่มตรวจตามวงรอบ มีการปิดล้อมตรวจค้นชุมชนอย่างต่อเนื่อง ค้นหาผู้ติดยาเสพติดที่มีอาการทางจิตประสาทในพื้นที่ จัดทําฐานข้อมูลเพื่อพิจารณาจัดลําดับความรุนแรงของอาการ เพื่อนําเข้าบําบัดรักษา ค้นหาและนําผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบําบัดโดยสมัครใจโดยเร็ว

ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาทุกระดับต้องลงไปขับเคลื่อนนโยบายตามที่ได้สั่งการลงไป รวมทั้งจัดทำโครงการ “ตำรวจสีขาว” สุ่มตรวจปัสสาวะตำรวจทุกนาย ติดตาม ตรวจสอบ และควบคุมความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ให้ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยเด็ดขาด หากพบการกระทําความผิดจะต้องดําเนินการทางกฎหมาย ทางวินัย และทางปกครอง อย่างเด็ดขาดทุกราย และจะมีการประเมินผลการปฏิบัติงานและนำมาใช้ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจในวาระที่จะถึงนี้ด้วย

ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า หากประชาชนต้องการแจ้งเบาะแส ความผิดเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด อาวุธปืน เครื่องกระสุน หรือวัตถุระเบิด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชม. ทั้งนี้ ข้อมูลในการแจ้งจะปิดเป็นความลับ และจะมีเงินสินบนรางวัลให้กับผู้แจ้ง ในกรณีที่สามารถจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก