กรุงเทพฯ 30 ส.ค. – ดีเอสไอค้นโกดังย่านลาดกระบัง พบสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ยี่ห้อดังกว่า 300,000 ชิ้น เจ้าของเป็นชาวกัมพูชานำเข้าจากจีนผ่านชายแดนอรัญประเทศ ก่อนกระจายให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เจ้าหน้าที่ตามสืบนาน 3 เดือน
กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ บุกค้นโกดังเก็บและกระจายสินค้าของบริษัทเอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ในเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร พบสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อดังจำนวนมากกว่า 300,000 ชิ้น โดยเฉพาะกระเป๋าแบรนด์เนม อาทิ Louis Vuitton , channel, coach,Prada, Lacoste และยี่ห้ออื่น ๆ ที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศ มูลค่าสินค้าตามราคาพร้อมตลาดเป็นเงินจำนวนกว่า 100 ล้านบาท และคิดเป็นมูลค่าความเสียหายตามราคาของแท้เป็นเงินจำนวนกว่า 1,000 ล้านบาท
เจ้าของสินค้าเหล่านี้เป็นนายทุนชาวกัมพูชามาเช่าโกดัง แล้วนำสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าจากจีนเข้าทางกัมพูชา ก่อนจะนำเข้าประเทศไทยผ่านทางชายแดนอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ใช้เส้นทางจังหวัดนครนายก นำสินค้ามาพักไว้ที่โกดังแห่งนี้ และกระจายสินค้าไปไว้ในโกดังอีก 6 แห่ง รวมแล้วมีโกดังพักสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า 7 แห่ง ก่อนขายส่งให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ และเปิดร้านขายปลีกเองด้วย อีกทั้งมีพ่อค้าแม่ค้าจากสำเพ็ง ก็สั่งสินค้าจากเจ้านี้ด้วย
การสืบสวนครั้งนี้ เจ้าหน้าที่กองคดีทรัพย์สินทางปัญญาดีเอสไอใช้เวลาสืบสวนนาน 3 เดือน ขยายผลจากการซื้อขายสินค้าออนไลน์ โดยแกะรอยจากรถซาเล้งที่ใช้กระจายสินค้าตามจุดต่าง ๆ จนสามารถรู้ถึงเส้นทางการนำเข้าสินค้าเหล่านี้ และจับกุมผู้ต้องหาได้ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าที่ทำเลียนแบบได้ค่อนข้างเหมือน ทั้งตัวสินค้า บรรจุภัณฑ์ และเลขรหัสสินค้า
พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า จากการจับกุมที่นครสวรรค์และร้อยเอ็ด นำมาสู่การสืบสวน จนรู้ว่าผู้ขายรับสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า จากผู้ค้ารายนี้ โดยเฉพาะที่ตลาดโรงเกลือ นครนายก และโกดังแห่งนี้ รวมถึงจุดเก็บอื่นอีกรวมทั้งหมด 6 แห่ง จึงขอหมายศาลเข้าตรวจค้นจนสามารถยึดสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า โดยเฉพาะกระเป๋ากว่า 300,000 ใบ
รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวด้วยว่า ยังมีอีกคดีที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ บุกค้นโกดังเก็บสินค้าประเภทกางเกงยีนส์ละเมิดเครื่องหมายการค้า ในอาคารพาณิชย์ 5 จุด เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังได้รับการประสานข้อมูลจากตัวแทนเครื่องหมายการค้าลีวายส์ ลี และแม็ค ยึดกางเกงยีนส์ได้กว่า 60,000 ตัว มูลค่าสินค้าตามราคาท้องตลาดกว่า 20 ล้านบาท และคิดเป็นมูลค่าความเสียหายตามราคาของแท้เป็นเงินกว่า 100 ล้านบาท
น.ส.มาลา ตั้งประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเลคทีฟ เทรดมาร์ค ยูเนี่ยน (ไทยแลนด์) ตัวแทนนำเข้าสินค้าแบรนด์เนม 70 ยี่ห้อ กล่าวว่า ขอขอบคุณกรมสอบสวนคดีพิเศษ เคสนี้เป็นเคสใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการตั้งดีเอสไอ จำนวนสินค้า 300,000 ชิ้น ที่ละเมิดเครื่องหมายการค้านี้ยังทำให้ไทยสูญเสียการจัดเก็บภาษีจำนวนมาก เพราะปกติภาษีนำเข้าสินค้าต้องถูกจัดเก็บ 25% และคนที่นำเข้าก็ไม่ใช่คนไทยเป็นคนกัมพูชา .-สำนักข่าวไทย