บช.ก. 19 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง รวบเพิ่มผู้ต้องหาคดีฮั้วประมูลรถซ่อมบำรุงทาง อบจ.สงขลา ในบ้านย่านพัฒนาการ แจ้ง 2 ข้อหา พร้อมพบพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คน หลบหนีออกนอกประเทศไปก่อนหน้านี้แล้ว
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ พ.ต.ท.สมนึก ห่านทองสุขศรี รอง ผกก.6 บก.ป. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขยายผลการจับกุม น.ส.อาภาวรรณ อายุ 27 ปี เครือข่ายฮั้วประมูลรถซ่อมบำรุงทาง อบจ.สงขลา ได้ในพื้นที่พัฒนาการ กรุงเทพฯ
คดีนี้สืบเนื่องมากจากปี พ.ศ.2555-2556 อบจ.สงขลา มีการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทาง ซึ่งมีการประกวดราคา 3 ครั้ง รวม 4 คัน มูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท โดยบริษัทนายอิทธิพล เป็นผู้ชนะการประมูลทั้ง 3 ครั้ง โดยมีจ่ายเงินประมูลในครั้งที่ 1 และ 2 ไปแล้ว จำนวน 50 ล้านบาท ได้รถ 2 คัน แต่การประมูลครั้งที่ 3 มีการร้องเรียนจากผู้ประมูลรายอื่น อบจ.สงขลา จึงตรวจสอบ พบการกระทำความผิดของบริษัทของนายอิทธิพล มีการฮั้วประมูล ใช้เอกสารปลอมเสนอในการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางดังกล่าว โดยเป็นเอกสารชุดเดียวกันในการประมูลทั้ง 3 ครั้ง อบจ.สงขลา จึงเข้าร้องทุกข์ดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสงขลา เป็นคดีฮั้วประมูลทั้ง 3 คดี
คดีแรกอยู่ในชั้นอัยการ ส่วนคดีที่ 2 และคดีที่ 3 นายอิทธิพล เจ้าของบริษัทรถซ่อมบำรุงทางที่ชนะการประมูล เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงร้องขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติโอนคดีไปให้กองปราบปราม เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2564 กระทั่งกองปราบฯ สอบสวนพบว่าคดีดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมกระทำความผิด จึงต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่วนผู้กระทำความผิดตำรวจ สภ.เมืองสงขลา มีการรวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว คือ นายอิทธิพล, นายสุรพงษ์ และนางญาณี
ต่อมากองปราบฯ สืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมจนทราบว่ามีผู้ร่วมกระทำความผิดอีก 1 ราย คือ น.ส.อาภาวรรณ จึงได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านของ น.ส.อาภาวรรณ และสถานที่ซึ่งเป็นบริษัทของนายอิทธิพล โดยพบพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด หลังจากนั้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ น.ส.อาภาวรรณ ร่วมกันปลอมแปลงและใช้เอกสารปลอม, ตกลงร่วมกันในการเสนอราคาเพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานรัฐ หรือการเอาเปรียบแกหน่วยงานรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คน พบหลบหนีออกนอกประเทศไปก่อนหน้านี้แล้ว.-สำนักข่าวไทย