ทบ.รายงานยอดผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ เหตุปะทะชายแดนกัมพูชา

24 ก.ค.- “กองทัพบก” อัปเดตเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ประชาชนเสียชีวิต 9 ราย เป็นเด็ก 1 ราย เจ็บ 14 ราย พร้อมประณามกัมพูชา ใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การปะทะพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา อันสืบเนื่องมาจากฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงเข้าใส่ฐานทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ตั้งแต่เมื่อเช้าวันนี้ (24 ก.ค. 68) ปัจจุบันกองทัพบกได้รับรายงานเบื้องต้นจากส่วนราชการในพื้นที่ว่า มีพื้นที่พลเรือนตกเป็นเป้าหมายของอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา จนทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย รวมถึงมีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ดังนี้ ทั้งนี้ กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงต่อเป้าหมายพลเรือนของฝ่ายกัมพูชา และพร้อมดำเนินการทางทหารเพื่อปกป้องอธิปไตยและประชาชนจากการกระทำอันผิดหลักมนุษยธรรมดังกล่าวอย่างถึงที่สุด -สำนักข่าวไทย

ประณาม ‘กัมพูชา’ ไร้เกียรติเยี่ยงสุนัขลอบกัด เลือกใช้วิธีรุนแรง

รัฐสภา 24 ก.ค.- กมธ.ทหาร วุฒิสภา ประณาม ‘กัมพูชา’ จากการกระทําอันไร้เกียรติเยี่ยงสุนัขลอบกัด ชี้ ‘ผู้นํารัฐบาลกัมพูชา’ ไร้จิตสํานึก-ไร้ความละอาย เลือกใช้วิธีการรุนแรง แทนการใช้สันติวิธี เบี่ยงเบนกลบเกลื่อนเรื่องเลวร้ายที่ตนเองสร้างขึ้น คณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา นำโดยพลเอกสวัสดิ์ ทัศนา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการฯ อ่านแถลงการณ์ประณามการกระทําอันรุนแรงและไร้ยางอายของกัมพูชา ในเข้าวันนี้ ระบุว่า วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ทหารกัมพูชา ได้ละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย โดยใช้อาวุธหนักหลายประเภท ทั้งจรวด BM-21 ปืนใหญ่ RPG รวมทั้งปืนเล็ก ระดมยิงเข้ามาในเขตประเทศไทย ตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ด้านจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ทําให้ประชาชนคนไทย ต้องสูญเสียชีวิต และบาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย ถือเป็น การกระทําอันรุนแรง เกินกว่าที่ประชาชนคนไทย จะอดทนและยอมรับได้ การกระทําอันเลวร้าย และไร้เกียรติ เยี่ยงสุนัขลอบกัดของกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ทั้งๆที่ […]

กต.ออกแถลงการณ์ประณามกองทัพกัมพูชาละเมิดอำนาจอธิปไตย

กระทรวงการต่างประเทศ 24 ก.ค.- กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ประณามกองทัพกัมพูชาละเมิดอำนาจอธิปไตย จงใจเป็นปฏิปักษ์ต่อไทยชัดเจน ยัน รัฐบาลไทยพร้อมยกระดับมาตรการป้องกันตนเอง นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวว่ากระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ว่า ตามที่วานนี้ 24 ก.ค.) กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดการบรรยายสรุปกับคณะทูต เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แล้วได้ยื่นหนังสือ 2 ฉบับ คือ 1. หนังสือถึงฝ่ายกัมพูชาเพื่อประท้วงเกี่ยวกับเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 และ2.หนังสือถึงเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรญี่ปุ่นประจำการประชุมว่าด้วยการลดอาวุธ ในฐานะประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาวาระปัจจุบัน รายงานเหตุการณ์การละเมิดพันธะกรณีของกัมพูชาในฐานะรัฐภาคีนั้น ภายหลังฝ่ายไทยได้ยื่นหนังสือ 2 ฉบับ ดังกล่าว รัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งที่เหตุการณ์ความรุนแรงยังเกิดขึ้นอีกครั้งในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาและเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (24 ก.ค.) ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฎิบัติการของไทยประสาทตาเมือนธม จ. สุรินทร์ อีกทั้งได้ยิงจรวด BM 21 จำนวน 2 นัด ในพื้นที่ชุมชนศูนย์พัฒนาชายแดน กาบเชิง จังหวัดสุรินทร์เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ขณะนี้เหตุการณ์โจมตีที่ไม่ใช่เป้าหมายทางการทหารยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องในเฉพาะพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่โรงพยาบาลพนมดงรัก และสถานที่ต่างๆ […]

ผบ.ตร.เผยตำรวจใช้แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง เหตุปะทะชายแดน

24 ก.ค. – ผบ.ตร. เผยตำรวจใช้แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา สำรวจจำนวนผู้บาดเจ็บ เคลื่อนย้ายผู้ป่วย หลังปิดปราสาทยุติส่งกำลังเข้าปฏิบัติการ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์ปะทะบริเวณแนวชายแดน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ใกล้กับปราสาทตาเมือนธม หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน ส่งผลให้มีทหารและประชาชนไทยได้รับบาดเจ็บ ผบ.ตร. ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอย่างเป็นทางการ โดยในการปฏิบัติการครั้งนี้ ทหารดำเนินการตามภารกิจหลัก ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจสนับสนุนแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์กำลังดำเนินการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยครอบคลุมการรักษาความมั่นคงภายใน การอพยพประชาชน การบูรณาการการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัย ร่วมกับโรงพยาบาลในพื้นที่ สำหรับคำถามเรื่องการส่งกำลังเพิ่มเติมเข้าไปสนับสนุน ผบ.ตร. ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้มีการร้องขอจากกองทัพให้ส่งกำลังควบคุมฝูงชนเข้าไปเตรียมความพร้อม เนื่องจากอาจเกิดเหตุขัดแย้งระหว่างประชาชนทั้งสองฝั่ง โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาเมือนธม แต่เนื่องจากขณะนี้มีคำสั่งปิดปราสาทแล้ว จึงยุติการนำกำลังควบคุมฝูงชนเข้าปฏิบัติการ ย้ำว่าขณะนี้ใช้ปฏิบัติการทางทหารเป็นหลัก ส่วนตำรวจยังคงเน้นการสนับสนุนแผนพิทักษ์พื้นที่ในแนวหลัง เพื่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ทั้งนี้ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ประจำการในแนวบังเกอร์ชายแดนยังคงอยู่ในพื้นที่ตามหน้าที่ เพื่อสนับสนุนภารกิจร่วมกับทหารต่อไป.-415-สำนักข่าวไทย

ตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ไทย-กัมพูชา ยังปะทะกันเดือด

สุรินทร์ 24 ก.ค. – ในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม สุรินทร์ จุดแรกที่มีรายงานว่าเกิดเหตุปะทะ ตั้งแต่เช้า และตอนนี้เสียงปืนยังดังต่อเนื่อง และลูกปืนใหญ่ของกัมพูชาที่ยิงตกกลางหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านบาดเจ็บหลายราย บางรายสาหัส ผู้สื่อข่าวปักหลักรายงานอยู่บริเวณบ้านหนองคันนา จุดที่อยู่ห่างตาเมือนธม 2 กิโลเมตร .-สำนักข่าวไทย

สพฐ.รับข้อห่วงใย “เสมา 1” เร่งดูแลนักเรียน-ครูพื้นที่ชายแดน

ศธ. 24 ก.ค. – สพฐ. รับข้อห่วงใย “เสมา 1” เร่งดูแลนักเรียน-ครูพื้นที่ชายแดน ย้ำความพร้อมรับมือสถานการณ์ มั่นใจความปลอดภัยโรงเรียนพื้นที่เสี่ยง ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดสถานการณ์การสู้รบบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา กระทรวงศึกษาธิการ นำโดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผศ.ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อนักเรียน ครู และบุคลากรในโรงเรียนพื้นที่ชายแดน 7 จังหวัด และมอบหมายให้ สพฐ. ติดตามสอบถามความเป็นอยู่ รวมถึงดูแลความปลอดภัยของนักเรียนและครูในพื้นที่ดังกล่าว สพฐ. จึงได้เน้นย้ำไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนให้มีการดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัยในระดับสูงสุดตามที่ได้สั่งการไว้ล่วงหน้าแล้ว และมั่นใจว่าโรงเรียนสามารถดูแลนักเรียนอย่างปลอดภัย ด้วยการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าและการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงเรียนใน “พื้นที่สีแดง” ซึ่งมีความเสี่ยงสูงและตั้งอยู่ใกล้แนวชายแดน จำนวนทั้งสิ้น 239 แห่ง ได้มีการจัดสร้างหลุมหลบภัยที่ได้มาตรฐาน และมีการจัดเตรียมระบบสัญญาณเตือน การอพยพเคลื่อนย้ายเด็ก การสำรองอาหาร ยา และอุปกรณ์จำเป็นอย่างเป็นระบบ ทั้งยังมีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุเป็นระยะ […]

มท.ยันพร้อมอพยพประชาชนแนวชายแดน

กทม. 24 ก.ค.- มหาดไทย ยันมีความพร้อมอพยพประชาชนตามแนวชายแดน ย้ำ เหตุชาวบ้านเสียชีวิตไม่ใช่ความล่าช้า แต่อยู่ระหว่างขนคนออกจากพื้นที่เสี่ยง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงข้อสั่งการภายหลังจากที่มีการปะทะกันบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ว่า ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการประสานผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวชายแดนสุรินทร์ ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ ที่เป็นพื้นที่ที่มีการปะทะกันว่าให้อพยพผู้คนทันที เช่น อำเภอพนมดงรัก ที่อยู่ติดกับชายแดนมายังพื้นที่อำเภอปราสาทที่อยู่ไกลจากชายแดนเข้ามาหน่อย ส่วนคนที่ยังอยู่ในพื้นที่ได้ให้อยู่ในหลุมหลบภัย ตามที่นายอำเภอได้มีการเตรียมการไว้ ซึ่งในการอพยพมีทั้งหน่วยแพทย์ พยาบาล ที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน รวมถึงการตั้งโรงครัว เพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ตนจึงได้มีการกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครอง และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ดูแลพื้นที่ส่วนหลัง รวมถึงพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดน และให้อพยพเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน ตามที่ นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการตั้งแต่เช้าว่าตอนนี้สถานการณ์เริ่มตึงเครียดแล้ว นอกจากนี้ นายอรรษิษฐ์ ยังกล่าวต่อว่าเหตุการณ์ที่มีประชาชนเสียชีวิต ไม่ได้เกิดจากการล่าช้าในการอพยพ หรือ ประชาชนไม่ยอมออกจากพื้นที่ แต่อยู่ในขณะกำลังเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ทำให้เกิดการสูญเสียขึ้น พร้อมยืนยันว่า กระทรวงมหาดไทยมีความพร้อมที่จะอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง ส่วนอีก 3 จังหวัดที่อยู่ติดแนวชายแดน ประกอบด้วย […]

“สุริยะ”สั่ง กพท.-บวท. เฝ้าติดตามสถานการณ์ชายแดน

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – “สุริยะ” เผยหลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา สั่งการ กพท.- บวท. เฝ้าติดตามสถานการณ์-พร้อมอำนวยความสะดวกเครื่องบินทหารเป็นอันดับแรก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยขณะนี้ได้สั่งการให้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์และกำหนดแนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ พร้อมประสานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและประเทศชาติ โดยทางด้าน บวท.ได้เร่งดำเนินการทุกกระบวนการด้านความปลอดภัย และพร้อมอำนวยความสะดวกให้เครื่องบินทหารเป็นอันดับแรก ทั้งนี้หน่วยงานได้ดำเนินการตามมาตรการ เร่งด่วนดังนี้ 1.เตรียมพร้อมการให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศโดยคำนึงถึงลำดับความสำคัญเร่งด่วน (Prioriy) ตามวิธีปฏิบัติที่กำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติการบินของภารกิจด้านความมั่นคง 2.เตรียมพร้อมการจัดอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้สอดรับกับสถานการณ์และภารกิจที่เกิดขึ้น ทั้งในสถานการณ์ปกติ และสถานการณ์ฉุกเฉิน 3. เตรียมพร้อมให้การสนับสนุน ประสานงานและอำนวยความสะดวกการให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศ ตามภารกิจพิเศษต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น ในทุกมิติ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเที่ยวบินพาณิชย์ ยังคงให้บริการตามปกติ โดย กพท. และ บวท. […]

ศบ.ทก.ย้ำมาตรการปกป้องอธิปไตยเป็นไปตามขั้นตอน

ทำเนียบ 24 ก.ค.- ศบ.ทก.เผยความจำเป็นในการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา หลังสถานการณ์ตึงเครียดลุกลาม ย้ำ มาตรการปกป้องอธิปไตยเป็นไปตามขั้นตอน พร้อมเดินหน้าประท้วง และประณามกัมพูชาอย่างที่สุดในการละเมิดอธิปไตย นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ ว่า ที่ผ่านมา ศบ.ทก. ยืนยันมาโดยตลอดว่า ไม่ปิดด่านเพียงแต่เพิ่มความเข้มงวด ซึ่งเป็นไปตามที่หารือกันในที่ประชุม เพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ และเพื่อความปลอดภัยของประชาชน แต่จากสถานการณ์ปัจจุบัน ทางการไทยมีความจำเป็นต้องปิดด่านในจุดต่างๆ เพื่อปกป้องอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นมาตรการอย่างเป็นขั้นตอน จากขั้น 1-2 ที่ผ่านมา จนขณะนี้มาถึงขั้นที่ 4 ส่วนการดำเนินการด้านการต่างประเทศ ของกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวานนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตต่างประเทศ และผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ในเรื่องเหตุการณ์ทุ่นระเบิดที่อำเภอช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี และการประท้วงของฝ่ายไทย ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี โดยมีผู้แทนคณะทูตต่างประเทศมาเข้าร่วม จำนวน 93 คน จาก 68 ประเทศ โดยฝ่ายไทยได้ชี้แจงท่าทีและจุดยืนในเรื่องดังกล่าว และการดำเนินการในเรื่องนี้ ทั้งการประท้วงฝ่ายกัมพูชาโดยตรง […]

ศบ.ทก.เปิดไทม์ไลน์เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 24 ก.ค.- โฆษก ศบ.ทก. ไล่เลียงไทม์ไลน์ เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำทหารกัมพูชาวางอาวุธครบมือ พร้อมเปิดฉากยิงก่อน ใกล้ปราสาทตาเมือนธม ก่อนขยายการปะทะไปอีก 6 จุด ประชาชนตาย 1 บาดเจ็บ 3 เด็ก 5 ขวบเจ็บด้วย ชี้ ศบ.ทก. ยกระดับขั้นที่ 4 ปิดทุกด่านชายแดน วอนนักพนันไทยดูแลตัวเอง เดินทางกลับไม่ได้ พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ศบ.ทก. แถลงว่า ที่ประชุม ศบ.ทก. ได้มีการพูดคุยติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยไล่เรียงเหตุการณ์ก่อนเกิดการปะทะ โดยเฉพาะล่าสุด เหตุการณ์รอบวางระเบิดที่ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เกิดเหตุให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสาหัส ยืนยันว่า เป็นพื้นที่ปฏิบัติการของฝ่ายไทย มีการลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง จากนั้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 7:35 น. ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้โดรนบิน เพื่อตรวจการการวางกำลังของฝ่ายไทย บริเวณประสาทตาเมือน จากนั้นได้พบความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชานำอาวุธเข้าประจำการบริเวณด้านหน้าลวดหนาม พร้อมกำลังพล […]

แนะรัฐปฏิบัติการเชิงรุกตามหลักสากล ปมกัมพูชายิงถล่ม

กรุงเทพฯ 24 ก.ค.- นักวิชาการ แนะรัฐปฏิบัติการเชิงรุกตามหลักสากล ปมกัมพูชายิงถล่ม เร่งเปิดโปงหลักฐานพฤติกรรมฟ้องชาวโลก เพื่อลดท่าทีแข็งกร้าวเขมร ชี้ใครยิงก่อนไม่สำคัญเท่าการยิงเข้ามาในพื้นที่อธิปไตยไทย ขณะเดียวกันหาช่องทางเจรจาบนพื้นฐานความเข้มแข็ง เชื่อไม่บานปลาย เหตุกัมพูชาไม่ได้หวังทำสงคราม แค่อยากยั่วยุ หวังใช้ประโยชน์ พร้อมบอก กต.ต้องทำงานมากขึ้น เแค่เชิญทูตแจงยังไม่พอ สัญญาณอ่อน ต้องสื่อสารตรงผู้นำทั่วโลก นายปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่เกิดการปะทะกันหลังกัมพูชาเปิดฉากยิงเข้ามา ว่า ไทยต้องดำเนินการตามแผนที่วางเอาไว้ ไม่ว่าจะแผนอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ แผนการสถาปนากำลังเข้าไปตามแนวอำนาจอธิปไตยที่เรียกกว่าแผนจักรพงศ์ภูวนาถที่ใช้มาแล้ว แต่ครั้งนี้ต้องเข้มข้นขึ้น เพราะสถานการณ์ซับซ้อนขึ้น ขณะเดียวกันจะต้องใช้แผนการทางการทูตและการเมืองระหว่างประเทศ ที่จะต้องใช้ช่องทางพิเศษในการสื่อสารกับกัมพูชาให้เข้าใจถึงตั้งใจในการปกป้องอธิปไตยแต่ไม่รุกล้ำเข้าไปในเขตแดนของกัมพูชา แม้แต่พื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทแต่การดำเนินการตั้งรับแบบเชิงรุกก็ต้องทำให้เข้มข้นขึ้น การเก็บทุ่นระเบิด การปิดพื้นที่บางพื้นที่ เช่น ตัวปราสาททั้ง 2 แห่ง ในทางปฏิบัติเราอาจดำเนินการเชิงรุก หากมีการโต้ตอบเราก็หาทางป้องกันตนเอง หรือบางกรณีก็ต้องปฏิบัติการเชิงรุก ซึ่งทำได้ทั้งหมดตามหลักสากลเพียง แต่ต้องมีความชัดเจนและต้องสื่อสารกับนานาชาติว่าเราปฏิบัติการทางทหารในรูปแบบใด โดยจำกัดอยู่ที่กองทัพบก เรายังไม่ได้ประกอบกำลังรบแบบพร้อมรบจริงๆ แบบที่จะมีกองทัพอากาศ กองทัพเรือ และบัญชาการโดยกองทัพไทย ดังนั้นสถานการณ์ยังมีทางออกอยู่ และจำเป็นต้องสื่อสารกันทางการเมืองด้วย หากการสื่อสารกับฝ่ายการเมืองด้วยช่องทางพิเศษในยามวิกฤตเช่นนี้ทำได้ การสั่งลงมาให้แต่ละฝ่ายยึดแนวปฏิบัติที่ชัดเจนขึ้น พร้อมไปคุยกันในเรื่องกฎการปะทะ กฎในการปฏิบัติในการวางกำลัง สถานการณ์ก็จะคลี่คลายเร็ว […]

เรียกร้องนานาอารยประเทศ ประณาม “กัมพูชา” เปิดฉากยิงก่อน

ทำเนียบ 24 ก.ค.- รัฐบาลไทยเรียกร้องนานาอารยประเทศ ประณามความโหดร้ายไร้มนุษยธรรมของ “กัมพูชา” กระหายสงคราม เปิดฉากยิงก่อนช่วงเช้า ระดมใช้อาวุธหนัก ไม่สนใจเป้าหมายทางพลเรือน กระสุนปืนใหญ่ตกใส่โรงพยาบาล บ้านเรือนชาวไทย ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) กล่าวว่าจากพยานหลักฐานชัดเจนว่า กัมพูชาเปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารไทยก่อน และยังใช้อาวุธหนักอย่างต่อเนื่องเข้าใส่เป้าหมายทางพลเรือน และขอเรียกร้องให้ทั่วโลกประณามความเลวร้ายของกัมพูชาโดยกัมพูชาเป็นผู้กระหายสงคราม โดยไม่สนหลักสิทธิมนุษยชนใด ๆ แม้แต่น้อย ทั้งนี้ โดยผู้แทนกองทัพบกรายงาน ต่อ ศก.ทก ว่า สถานการณ์ชายแดนนั้น ยืนยันชัดเจนจากข้อมูล และพยานหลักฐาน พบว่า ทหารกัมพูชาได้มีเจตนาพิเศษดำเนินการในลักษณะยั่วยุ และละเมิดข้อตกลงมาตั้งแต่ต้นปี และในเช้าวันนี้ ( 24 กค.) ได้เปิดฉากใช้อาวุธก่อนโดยมีการบินโดรน (อากาศยานไร้คนขับ) เข้ามาในพื้นที่ของประเทศไทยเพื่อยั่วยุจากนั้น ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารไทย ซึ่งกัมพูชามีการใช้อาวุธหนักอย่างต่อเนื่อง โดยมีการใช้จรวดหลายลำกล้องขนาด122 มม.( จลก. BM 21) และ จรวด RPG ยิงเข้าใส่พลเรือนไทยที่ชุมชนบริเวณชายแดนอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ และอีกหลายพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา […]

1 45 46 47 48 49
...