“แต้ว” ถึงเกาะสมุย ตั้งเป้าคว้าเหรียญต่อที่ปารีส

สุดาพร สีสอนดี และคณะนักชกไทย ถึงเกาะสมุย เมื่อค่ำวานนี้ (9 ส.ค.) เพื่อกักตัว 14 วัน พร้อมประกาศนำเหรียญโอลิมปิก 2024 มาให้ประเทศไทย อีกครั้ง

“ยกเหล็กพาราไทย” แอบลุ้น 1 ใน 3 มีเหรียญติดมือ ในพาราลิมปิก

10 ส.ค.64-  “ทีมยกน้ำหนักคนพิการทีมชาตืไทย” ที่สามารถคว้าสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน “พาราลิมปิกเกมส์ 2020” ได้ทั้งสิน 3 คน ประกอบด้วย ณรงค์​ แค​สนั่น (รุ่น 65 กก.ชาย), ทองสา มารศรี (รุ่น 72 กก.ชาย) และ สมควร​ อ​นนท์​ (รุ่น 61 กก. หญิง) ซึ่งเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ สนามราชมังคลากีฬา อยู่ในเวลานี้ เพื่อเตรียมความพร้อมล่าเหรียญรางวัล ด้าน “โค้ชวุฒิ” วุฒิชัย สุขเสวตร หัวหน้าผู้ฝึกสอนกีฬายกน้ำหนักคนพิการทีมชาติไทย เผยว่า ที่ผ่านมาเราได้มีการเตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาเกือบ 4 ปี และที่สำคัญกว่าเราจะควอลิฟายผ่านมาได้ต้องบอกมันเป็นอะไรที่ยากลำบากมาก ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดขอโควิด-19 ทั่วโลกส่วนเรื่องความพร้อมต้องบอกว่าทีมยกน้ำหนักเราค่อนข้างมีความพร้อมกว่า 90 เปอร์เซ็นแล้ว ส่วนอีก 10 เปอร์เซ็น จะเป็นการใส่เรื่องเทคนิคต่างๆให้กับนักกีฬาเท่านั้น และไปเต็มที่ในวันแข่งขันอย่างแน่นอน เป้าหมายของเราแน่นอน เราหวังว่าอยากทำผลงานออกมาให้ดีที่สุดโดยการก้าวขึ้นไปคว้าเหรียญรางวัลมาครองให้ได้” “ส่วนรุ่นความหวังต้องบอกว่าทั้ง 3 มีโอกาสติดเหรียญรางวัลทั้งหมด แต่อย่างไรก็ดีต้องไปดูกันที่น่างานอีกทีเพราะกีฬายกน้ำหนักมันต้องใช้การวางแผนรวมถึงการเรียกน้ำหนัก ทำให้เราคงบอกไม่ได้ว่าจะไปมีลุ้นที่รุ่นไหน” “อย่างไรก็ดีกว่าจะมีถึงวันนี้ต้องยอมรับว่าเราได้รับความอนุเคราะห์และสนับสนุนจากคณะกรรมการพาราลิมแห่งประเทศไทยในทุกด้าน ทำให้ที่ผ่านมาเราจึงสามารถฝึกซ้อมได้อย่างเต็มที่และต้องขอบคุณ คุณจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ที่ดูแลและห่วงใยเรามาโดยตลอด จนทำให้ทีมนักกีฬายกน้ำหนักคนพิการสามารถคว้าโควต้าไปพาราลิมปิกเกมส์ได้ถึง 3 คนเลยทีเดียว สุดท้ายขอให้แฟนกีฬาชาวไทยเป็นกำลังใจให้พวกเรานักกีฬายกน้ำหนักคนพิการทีมชาติไทย ในพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ด้วย” หัวหน้าผู้สอนทีมยกเหล็กพาราไทยกล่าวทิ้งท้าย สำหรับทีมนักกีฬายกน้ำหนักพาราไทย เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 19 สิงหาคม 2564 ตามเวลาประเทศไทย-สำนักข่าวไทย

“สายสุนีย์” วัย 47 ปี กร้าวขอหยิบเหรียญทองพาราลิมปิก อีกครั้ง

10 ส.ค.64-ความเคลื่อนไหวของ “ทัพนักกีฬาพาราทีมชาติไทย” ที่กำลังเตรียมความพร้อมเดินหน้า การแข่งขันมหกรรมกีฬา พาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จะแข่งขันกันระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม ถึง 5 กันยายน 3564 โดยมีนักกีฬาพาราไทย ได้สิทธิ์เข้าร่วมชิงชัยทั้งหมด 75 คน จาก 14 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย เทควันโด, ยิงธนู, แบดมินตัน, วีลแชร์ฟันดาบ, ยกน้ำหนัก, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส, กรีฑา (ลู่-ลาน,วีลแชร์เรซซิ่ง), จักรยาน, ยิงปืน, วีลแชร์เทนนิส, บอคเซีย, ฟุตบอลตาบอด และยูโด ซึ่งถือเป็นการแข่งขันพาราลิมปิกที่มีนักกีฬาไทยผ่านเข้าไปร่วมแข่งขันจำนวนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ขณะที่ “แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบหญิงทีมชาติ วัย 47 ปี ดีกรีเหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์ 2004 และ 2012 เปิดเผยถึงความพร้อมของตนเองก่อนเข้าร่วม พาราลิมปิกเกมส์ 2020 ว่า ต้องถือว่าในครั้งนี้เป็นการเก็บตัวฝึกซ้อมที่ยาวนานกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ฝึกซ้อมมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปีกว่าแล้ว ทำให้สภาพร่างกายหรือจิตใจต้องบอกว่าพร้อมเกินร้อยเปอร์เซ็นแล้ว ส่วนเรื่องความกังวลก็คงเป็นเรื่องประสบการณ์ที่แพ้ในโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่แล้วที่ บราซิล ซึ่งเกิดจากความตื่นเต้น ทำให้ต้องกลับมาแก้เรื่องการคุมอารมณ์ของตนเอง ว่าผ่านเข้าชิงแล้วเราจะนิ่งได้แค่ไหน แต่ก็คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรเมื่อการแข่งขัน” “ส่วนเป้าหมายในพาราลิมปิกเกมส์หนนี้ ต้องบอกว่าครั้งนี้คาดหวังเลยว่าเราจะต้องคว้าเหรียญทองมาครองให้ได้ส่วนพาราลิมปิกเกมส์หนนี้ยังไม่ใช่พาราลิมปิกหนสุดท้ายแน่นอน เพราะที่ผ่านมาตนเองตั้งเป้าหมายของตัวเองแล้วจะต้องไปแข่งพาราลิมปิกเกมส์ ปารีส ให้ได้อีกครั้ง ก็จะรีไทร์เลย เพราะด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น” “สายสุนีย์” กล่าวต่ออีกว่า “ที่ผ่านมาต้องบอกรับว่าคณะกรรมการพาลิมปิกแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะคุณจุตินันท์ภิรมย์ภักดี ให้การสนับสนุนพวกเรามาเป็นอย่างดีมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำดื่มสิงห์ หรือ อุปกรณ์การฝึกซ้อมหรืออุปกรณ์การแข่งขันหากเราขาดเหลืออะไรท่านพร้อมที่ซับพอร์ตพวกเราอย่างเต็มที่ อีกทั้งที่ผ่านมาท่านยังคอยผลักดันเรื่องเงินรางวัลและเรื่องอื่นๆ ก็ดูแลเรามีเป็นอย่างดีมาโดยตลอด” “สุดท้าย “แวว ก็อยากขอกำลังใจจากพี่น้องแฟนกีฬาชาวไทยทุกคนให้ช่วยเป็นกำลังใจให้พวกเราในครั้งนี้ เพราะด้วยสถานการณ์โควิด ทำให้ไม่มีผู้ชมและแฟนๆคงให้กำลังใจเราที่ข้างสนามไม่ได้ แต่ก็ยังสามารถส่งกำลังใจให้พวกเราทางออนไลน์ เพื่อติดตามเป็นกำลังให้พวกเราด้วยนะคะ” สำหรับ “สายสุนีย์ จ๊ะนะ” ถือเป็นหนึ่งนักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบความหวังเหรียญทองของ “ทัพพาราลิมปิกทีมชาติไทย” โดยผ่านประสบการณ์ผ่านการลงแข่งขันในพาราลิมปิกเกมส์มาอย่างต่อเนื่องถึง 5 สมัยติดต่อกัน และครั้งนี้จะเป็นสมัยที่ 6 พร้อมเคยคว้าเหรียญรางวัลในพาราลิมปิกเกมส์ มาแล้วถึง 2 เหรียญทอง ประเภท ดาบเอเป้ คลาส บี ในปี2004 และ 2012 และอีก 2 เหรียญทองแดง ในประเภท ดาบฟอยล์ คลาส บี ในปี 2004 และ ดาบเอเป้ คลาสบี ในปี2008 โดยครั้งล่าสุด ปี 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ก็คว้าเหรียญเงินมาครองได้ สำหรับ สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบสาวทีมชาติไทย จะออกเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 17 สิงหาคม2664-สำนักข่าวไทย

ทอ.ประดับเครื่องหมายยศเรืออากาศตรี “น้องเทนนิส”

กทม. 9 ส.ค.-กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินรับคณะโค้ชและนักกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย จัดพิธีประดับเครื่องหมายยศ “เรืออากาศตรี” ให้แก่ “น้องเทนนิส”

“สิงห์” ขอบคุณฮีโร่ สร้างรอยยิ้มให้คนไทยในโอลิมปิก 2020

กรุงเทพฯ 9 ส.ค.64-ตลอดระยะเวลาของการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่ผ่านมา สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนสมาคมกีฬาต่างๆมาอย่างยาวนาน จัดแคมเปญผ่านคอนเทนต์ออนไลน์ ภายใต้ Concept “ขอบคุณที่สร้างรอยยิ้มให้คนไทย” ซึ่งได้ร่วมกับ Stadium TH เพื่อเป็นตัวแทนในการขอบคุณเหล่านักกีฬาในการสร้างความสุขและรอยยิ้มจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 ให้คนไทย ซึ่งมีทัพนักกีฬาไทยตบเท้าเข้าร่วมการแข่งขันกันหลายคน อาทิเช่น  “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโด, “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี,  “สด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี นักกีฬามวยสากล , “เมย์” รัชนก อินทนนท์ นักกีฬาแบดมินตัน , “เหมียว” ปภังกร ธวัชธนกิจ นักกีฬากอล์ฟ และ “เอิน” ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ นักกีฬายิงปืน เป็นต้น   ทาง สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ได้เล็งเห็นถึงการเสียสละ และความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ของทัพนักกีฬาไทยที่เป็นตัวแทนในการต่อสู้ เพื่อสร้างรอยยิ้ม และความสุข ให้คนไทยได้ร่วมลุ้น ร่วมเชียร์ ซึ่งนับว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายเป็นอย่างมากในสถานการณ์ปัจจุบันเช่นนี้  สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จึงอยากที่จะขอบคุณเหล่านักกีฬาเหล่านี้ ในการสร้างความสุข และเป็นพลังบวกให้กับคนไทยทุกคน และสิงห์ คอร์เปอเรชั่น พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างและสนับสนุนเหล่านักกีฬาเหล่านี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการสร้างความสุขให้คนไทยตลอดไป  

จุตินันท์ ปธ.พาราลิมปิกไทย เชื่อนักกีฬาคนพิการไทย สร้างชื่อ “พาราลิมปิก 2020”

ไทย 9 ส.ค.64-นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าการแข่งขันพาราลิมปิก ที่กรุงโตเกียว ในครั้งนี้นักกีฬาพาราลิมปิกของไทยจะสามารถทำผลงานได้ดีกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาเนื่องจากนักกีฬาจากทุกสมาคม ทั้งสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาคนพิการทางสมองแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาคนพิการทางปัญญาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย ได้เก็บตัวฝึกซ้อมมาอย่างยาวนาน แทบจะกล่าวได้ว่าต่อเนื่องมาตั้งแต่จบพาราลิมปิกครั้งที่แล้วที่บราซิล ประกอบกับความพร้อมทั้งในเรื่องของอุปกรณ์การซ้อมก็ดีขึ้น และการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วยในการพัฒนาศักยภาพของตัวนักกีฬาเอง ทำให้นักกีฬาหลายๆคนทำผลงานได้ดี จะเห็นได้จากจำนวนนักกีฬาของเราที่ผ่านการคัดเลือกเข้าไปเล่นในพาราลิมปิกที่โตเกียวมีจำนวนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เชื่อว่าเหล่านักกีฬาพาราลิมปิกของไทยจะสามารถสร้างผลงานที่ดีได้ และเป็นไปได้ว่าจะดีกว่าพาราลิมปิกครั้งที่ผ่านมาที่ประเทศบราซิล ซึ่งในครั้งนั้น เราทำได้ 6 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน 6 เหรียญทองแดง พร้อมกับทำลายสถิติได้หลายรายการ “พาราลิมปิกครั้งนี้ ที่น่าสนใจคือ ไทยมีนักกีฬาดาวรุ่งหน้าใหม่ไปกันหลายชนิดกีฬา ซึ่งจากผลงานแข่งขันก่อนไปพาราลิมปิก และรายงานการฝึกซ้อมอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก สภาพร่างกายฟิตสมบูรณ์ แต่โค้ชไม่ได้กดดันนักกีฬา มุ่งเน้นให้นักกีฬาทำผลงานให้เต็มที่ และสนุกกับการแข่งไม่กดดันตัวเองมากเกินไป” นายจุตินันท์กล่าว นอกจากนั้นประธานพาราลิมปิกไทย กล่าวว่า พาราลิมปิกเกมส์ เป็นกีฬาระดับโลก เป็นเวทีแสดงความสามารถอันยอดเยี่ยมทางการกีฬาของผู้พิการ จึงนับเป็นพื้นที่สำหรับนักกีฬาคนพิการได้แสดงถึงศักยภาพที่มีอยู่ให้คนทั่วไปได้ประจักษ์ แน่นอนว่านักกีฬาทุกคนต้องการประสบความสำเร็จ แต่ที่สำคัญมากกว่าชัยชนะคือการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ในความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ของร่างการ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีของความไม่ยอมแพ้เป็นพลังส่งต่อให้กับคนทั่วไปรวมถึงเหล่าผู้พิการทั้งหลาย การแข่งขันมหกรรมกีฬา พาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จะแข่งขันกันระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม ถึง 5 กันยายน นี้  โดยมีนักกีฬาพาราไทยผ่านเข้าร่วมชิงชัยทั้งหมด 77 คน จาก 14 ชนิดกีฬา ดังนี้ เทควันโด, ยิงธนู, แบดมินตัน, วีลแชร์ฟันดาบ, ยกน้ำหนัก, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส, กรีฑา (ลู่-ลาน,วีล์แชร์เรซซิ่ง), จักรยาน, ยิงปืน, วีลแชร์เทนนิส, บอคเซีย, ฟุตบอลตาบอด และยูโด ซึ่งถือเป็นการแข่งขันพาราลิมปิกที่มีนักกีฬาไทยผ่านเข้าไปร่วมแข่งขันจำนวนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ในการแข่งขัน พาราลิมปิกเกมส์ 2016 ที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ทัพพาราลิมปิกไทย จบอันดับที่ 23 กวาดไป 6 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน และ 6 เหรียญทองแดง ทำลายสถิติเดิมในพาราลิมปิกที่นครซิดนีย์ เมื่อปี 2000 ซึ่งครั้งนั้นเคยทำได้มากที่สุด 5 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง โดยวีลแชร์เรซซิ่ง โกยเหรียญรางวัลได้มากที่สุด คือ 4 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง รองลงมาคือ บอคเซีย ได้ 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และอีก 2 เหรียญทองแดง ส่วนยิงธนู คว้าได้ 1 เหรียญเงิน ด้าน วีลแชร์ฟันดาบกับเทเบิลเทนนิส  แม้จะพลาดเหรียญทอง แต่ก็ทำเหรีญทองแดงให้ทัพนักกีฬาพิการไทย

โอลิมปิก โตเกียว 2020 ฝ่าวิกฤติโควิด ไอโอซี เชื่อสร้างความหวังให้คนทั้งโลก

ญี่ปุ่น-9 ส.ค.64 คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) กล่าวว่า คำกล่าวของ โธมัส บาค ประธานไอโอซี ในพิธีปิด มหกรรมกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 ที่สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อค่ำวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น ได้สื่อสารให้เห็นว่า โตเกียวเกมส์ ฝ่าวิกฤติโควิด-19 ไปได้แล้ว ทำให้ ไอโอซี เชื่อมั่นว่า นี่จะเป็นการสร้างความหวังให้คนทั้งโลก ในการเอาชนะไวรัสอันตรายนี้ไปด้วยกัน ทั้งนี้ ประธานไอโอซี ได้กล่าวถึงภาพรวมของ โอลิมปิก โตเกียว 2020 ไว้ว่า ตลอดช่วงเวลา 16 วันที่ผ่านมา เป็นที่น่าประหลาดใจกับความสำเร็จด้านกีฬา ด้วยความเป็นเลิศของทุกฝ่าย ด้วยความปีติยินดี น้ำตา ทุกคนได้สร้างเวทมนตร์ของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่โตเกียว 2020 เหล่านี้ ทุกคนเร็วขึ้น สูงขึ้น แข็งแกร่งขึ้น เพราะเราทุกคนยืนหยัดร่วมกันสามัคคีกัน ทุกคนแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อความรุ่งโรจน์ของโอลิมปิก ในเวลาเดียวกัน ทุกคนได้อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขภายใต้หลังคาเดียวกันในหมู่บ้านโอลิมปิก สิ่งนี้คือข้อความอันทรงพลังของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและสันติภาพ ทุกคนสร้างแรงบันดาลใจให้เราด้วยพลังแห่งกีฬาที่เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งสิ่งนี้น่าทึ่งยิ่งกว่าเดิม เมื่อพิจารณาถึงความท้าทายมากมายที่เราต้องเผชิญกับการระบาดใหญ่ ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ ทุกคนได้มอบของขวัญล้ำค่าที่สุดให้กับโลก นั่น คือความหวัง นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดโรคระบาด โลกทั้งใบมารวมกัน กีฬากลับสู่เวทีกลาง ผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลกเป็นหนึ่งเดียวกันทางอารมณ์ แบ่งปันช่วงเวลาแห่งความสุขและแรงบันดาลใจร่วมกัน สิ่งนี้ทำให้เรามีความหวัง มีศรัทธาในอนาคต การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียว 2020 เป็นการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกแห่งความหวัง ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและสันติภาพ ทุกคน คือ นักกีฬาที่เก่งที่สุดในโลก และสามารถสานฝันของตนเองให้เป็นจริงได้ เพราะญี่ปุ่น เจ้าภาพได้เตรียมเวทีให้ทุกคนได้เปล่งประกาย คนญี่ปุ่นเองสามารถภาคภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาทำสำเร็จเป็นอย่างมาก ในนามของนักกีฬาทุกคน ขอแสดงความขอบคุณต่อกรุงโตเกียว ขอบคุณญี่ปุ่น ขอขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับอาสาสมัครทุกคน รอยยิ้มในดวงตาของอาสาสมัคร ทำให้หัวใจของเราอบอุ่น ขอบคุณมาก ๆ สำหรับอาสาสมัครทุกคน นี่เป็นการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ไม่เคยมีมาก่อน พวกเรา ไอโอซี และพันธมิตร รวมทั้งเพื่อนชาวญี่ปุ่นของเราต้องใช้ความพยายามอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เพื่อจัดการแข่งขันครั้งนี้ นี่คือเหตุผลที่อยากจะขอบคุณทางการญี่ปุ่นทุกระดับ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี โยชิฮิเดะ ซูกะ และผู้ว่าการ ยูริโกะ โคอิเกะ สำหรับความมุ่งมั่น ทุ่มเท อย่างแน่วแน่ของพวกเขา ขอขอบคุณที่อยู่เคียงข้างนักกีฬา ที่เฝ้ารอโอลิมปิกเกมส์เหล่านี้มาโดยตลอด ขอขอบคุณอย่างสุดซึ้ง ขอแสดงความชื่นชมไปยังคณะกรรมการจัดงาน ไม่เคยมีใครมาก่อนที่สามารถจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่ต้องเลื่อนมาเช่นนี้ ขอขอบคุณประธาน ไซโกะ ฮาชิโมโตะ ผู้ร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่รัก และทุกคนที่ทุ่มเทในคณะกรรมการจัดงาน สำหรับความร่วมมือด้วยดียิ่ง และมิตรภาพที่ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกับทุกคนในประชาคมโอลิมปิกที่แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ขอขอบคุณ คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติ สหพันธ์กีฬานานาชาติพันธมิตรชั้นนำ ผู้สนับสนุน ผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด สำหรับการแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกัน และการสนับสนุนที่ยอดเยี่ยม ขอเชิญชวนทุกคน ให้ไปรวมตัวกันอีกครั้งกับเรา ในอีก 3 ปีข้างหน้า ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 33 โอลิมปิก ปารีส 2024   ไอโอซีเมมเบอร์หญิงไทย กล่าวด้วยว่า สำหรับผลการประชุมใหญ่ไอโอซี ครั้งล่าสุด ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่ประชุมไอโอซี ได้รับรองข้อเสนอให้ ไอโอซี มีอำนาจในการระงับกีฬาบางชนิด ออกจากการแข่งขันโอลิมปิก ได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านที่ประชุมใหญ่ หากเห็นว่ากีฬานั้น ๆ มีการละเมิดกฎ หรือฝ่าฝืนข้อบังคับของไอโอซี ไปจนถึงการทำให้ชื่อเสียงของกีฬาโอลิมปิก มัวหมอง

“เมสซี” หลั่งน้ำตาแถลงอำลาบาร์เซโลนา

ลิโอเนล เมสซี กองหน้ากัปตันทีมชาติอาร์เจนตินาและสโมสรบาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน หลั่งน้ำตาอำลาถิ่นคัมป์นู หลังจากค้าแข้งให้กับทีมมาอย่างยาวนานถึง 21 ปี

ปิดฉากโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 อีก 3 ปีกรุงปารีส เจ้าภาพ

ญี่ปุ่น 8 ส.ค.64 – การแข่งขันกีฬา โอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ปิดฉากอย่างเป็นทางการ ที่สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงโตเกียว  ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 8 ส.ค. โดย เจ้าชายฟูมิฮิโตะ อากิชิโนะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น เสด็จเป็นองค์ประธาน ร่วมด้วย โธมัค บาค ประธานกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี), คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการไอโอซีและ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เข้าร่วมพิธี ส่วนขบวนพาเหรดทัพนักกีฬาไทย นำโดย “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี นักมวยสากลเจ้าของเหรียญทองแดง รุ่น 60 กก.หญิง  เจ้าภาพจัดการแสดงด้วยแนวคิด “เวิลด์ส วี แชร์” หรือ “โลกที่เราร่วมกันแบ่งปัน” พร้อมด้วยการแสดงแสงสีเสียงการจุดพลุไฟตระการตา การขับร้องบทเพลงอมตะ และเพลงยอดนิยม เพื่อเฉลิมฉลองให้แก่นักกีฬา ขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายโดยเฉพาะอาสาสมัครและบุคลากรทางการแพทย์ ก่อนที่ไฟในกระถางคบเพลิงจะดับลงและส่งนักกีฬาจากทั่วโลกเดินทางกลับบ้าน สำหรับพิธีรับธงเจ้าภาพ โอลิมปิก ปารีส 2024 โอลิมปิก ครั้งที่ 33 ซึ่งกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จะเป็นรับเป็นเจ้าภาพนั้น มีการส่งมอบ ธงเจ้าภาพจาก ยูริโกะ โคอิเคะ ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียว ให้ โธมัส บาค ประธานไอโอซี และส่งต่อให้ อานน์ อิดัลโก นายกเทศมนตรีกรุงปารีส เพื่อเป็นสัญลักษณ์การเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 ซึ่งทีมงานจากกรุงปารีสได้นำการแสดงบทเพลงชาติ ด้วยวงออร์เคสตรานำเสนอสถานที่สำคัญของฝรั่งเศส และนำธงเจ้าภาพการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ไปประดับบนหอไอเฟล สัญลักษณ์แห่งกรุงปารีสอีกด้วย เพื่อรอต้อนรับนักกีฬาจากทั่วโลกไปสู่โอลิมปิกเกมส์ครั้งใหม่ในอีก 3 ปีข้างหน้า โอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 กำหนดแข่งขันระหว่างวันที่ 26 ก.ค.-11 ส.ค. 2567 บรรจุ 32 ชนิดกีฬา ได้แก่ กีฬาทางน้ำ(ระบำใต้น้ำ กระโดดน้ำ ว่ายน้ำ โปโลน้ำ), ยิงธนู, กรีฑา, แบดมินตัน, บาสเกตบอล, มวยสากล, เบรคแดนซ์, เรือแคนู, จักรยาน, ขี่ม้า, ฟันดาบ, ฮอกกี้, ฟุตบอล, กอล์ฟ, ยิมนาสติก, แฮนด์บอล, ยูโด, ปัญจกีฬาสมัยใหม่, เรือพาย, รักบี้ 7 คน, เรือใบ, ยิงปืน, สเก็ตบอร์ด, ปีนหน้าผา, เซิร์ฟบอร์ด, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, เทนนิส, ไตรกีฬา, วอลเลย์บอล, ยกน้ำหนัก และมวยปล้ำ ชิงชัย 329 เหรียญทอง กีฬา โอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ต้องเลื่อนออกไป 1 ปี แต่ยังต้องจัดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2021 โดยทัพนักกีฬาสหรัฐอเมริกา คว้าเจ้าเหรียญทอง ทำไป 39 เหรียญทอง 41 เหรียญเงิน 33 เหรียญทองแดง อันดับ 2 จีน  38 เหรียญทอง 32 เหรียญเงิน 18 เหรียญทองแดง อันดับ 3 ญี่ปุ่น 27 เหรียญทอง 14 เหรียญเงิน17 เหรียญทองแดง ส่วนทัพนักกีฬาไทย  ทำได้  1 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง อยู่อันดับที่ 59 โดย 1 เหรียญทอง ได้จาก “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง และ 1 เหรียญทองแดง จาก “แต้ว” สุดาพร สีสอนดีมวยสากล รุ่น 60 กก.หญิง-สำนักข่าวไทย

เชลซี คว้า “ลูกากู” ร่วมทีม 97.5 ล้านปอนด์

เชลซี บรรลุข้อตกลงคว้าตัว โรเมลู ลูกากู ดาวยิงทีมชาติเบลเยียม จากอินเตอร์ มิลาน กลับมาร่วมทีม ด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติใหม่ของสโมสรถึง 97.5 ล้านปอนด์

“ดร.ก้องศักด” เล็งช่วยเพิ่มค่าเดินทางนักกีฬา

ผู้ว่าการ กกท. เล็งช่วยเพิ่มค่าเดินทางนักกีฬา หลัง “โปรเม” เอรียา ที่ติดขัดปัญหาในหลายๆ ประเด็น โดยเรื่องค่าใช้จ่าย ตั๋วเดินทางนั้น โปรเมต้องควักกระเป๋าซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางจากสหรัฐกว่า 180,000 บาท

“โตโยซัง” คนญี่ปุ่นหัวใจไทย ส่งแรงใจเชียร์นักกีฬาในโตเกียวเกมส์

พาไปรู้จักกับอีกหนึ่งเเรงเชียร์จากแดนปลาดิบ “โตโยซัง” หนุ่มญี่ปุ่นหัวใจไทย ผู้ที่ตามให้กำลังใจนักกีฬาไทยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสนามต่างๆ แม้ว่าจะเข้าสนามไม่ได้ แต่ก็ไปโบกสะบัดหน้าสนาม และร้องเพลงเชียร์ให้กำลังใจนักกีฬาไทย วันไหนไม่ได้เดินทางไปเชียร์ที่หน้าสนามก็จะเชียร์ผ่านหน้าจออยู่ที่บ้าน

1 185 186 187 188 189 350
...