fbpx

“บิ๊กต้อม”ส่งเสบียงหนุน “พาณิภัค” ก่อนชิงทองเเรก

22 ก.ค.64- “บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยชุดสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวของทัพนักกีฬาไทยที่ได้ทยอยเดินทางเข้าสู่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่แล้วว่า ขณะนี้ยังไม่พบนักกีฬามีปัญหาอาการบาดเจ็บจากการฝึกซ้อมที่น่ากังวลใดๆ นักกีฬาทุกคนมีขวัญกำลังใจที่ดี ส่วนกรณีที่ขณะนี้มีนักกีฬาต่างชาติเริ่มเข้ามาพักในหมู่บ้านนักกีฬามากขึ้น และนักกีฬาต่างชาติบางคนอาจจะถอดหน้ากาก หรือ ไม่สวมหน้ากากบ้าง อย่างในหมู่บ้านนักกีฬาถ้ามีเจ้าหน้าที่พบเห็นก็จะเข้าไปเตือนให้สวมหน้ากาก แต่ที่สนามกีฬาบางแห่ง อย่างที่สนามยิงเป้าบินที่ตนได้รับรายงานว่า มีนักกีฬาต่างชาติไม่สวมหน้ากากนั้น เรื่องนี้ก็จะมีการนำเข้าไปแจ้งในที่ประชุมหัวหน้านักกีฬาซึ่งจะประชุมกันทุกวันเพื่อให้แต่ละประเทศได้มีความรอบคอบ ระมัดระวัง และเตือนนักกีฬาในด้านความปลอดภัยในจุดนี้อย่างเข้มงวดต่อไป “สำหรับนักกีฬาไทยเรามีการแจ้งและดูแลนักกีฬาในด้านนี้อย่างเคร่งครัดทุกวันรวมถึงนักกีฬาไทยเองก็มีความตื่นตัวและมีวินัยอย่างดีเยี่ยมมากๆ ทุกคนจะปฏิบัติตัวตามที่แพทย์ได้แนะนำอย่างดีทั้งในหมู่บ้านนักกีฬาและที่สนามแข่งขันโดยเฉพาะในหมู่บ้านนักกีฬา ทีมกองบัญชาการนักกีฬาไทยก็จะพยายามให้นักกีฬาลดความเสี่ยงโดยการเข้าไปรับประทานอาหารในโรงอาหารให้น้อยที่สุด  ด้วยการจัดอาหารเช้าให้นักกีฬาโดยจะจัดเตรียมไว้ที่กอง บก.นักกีฬา ทั้งแซนด์วิช แฮมเบอร์เกอร์ เครื่องดื่มต่าง ๆ ขณะที่มื้อกลางวันนักกีฬาจะไปรับประทานที่สนาม ส่วนมื้อค่ำก็ได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราช ทูต ณ กรุงโตเกียว ที่จัดส่งข้าวกล่องอย่างดีมีอาหารหลากหลายและในปริมาณที่มากพอให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกวัน” หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ยังได้กล่าวถึงการชิงชัยเหรียญทองของทัพนักกีฬาไทยในวันแรก คือวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ ที่”เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ความหวังของไทยที่จะลงแข่งขันในรุ่นน้ำหนัก 49 กก.หญิงว่า หลังจากที่ได้ทราบข่าวว่ามีสื่อต่างชาติเสนอข่าวในกรณีที่ว่า พาณิภัค อาจจะไม่ได้เหรียญทองในประเภทนี้ ตนมองว่าเป็นเพียงแค่การวิเคราะห์ของสื่อ ซึ่งก็แล้วแต่สื่อไหนจะมีข้อมูลอะไร ในเรื่องนี้ถือว่าไม่ได้สร้างความหนักใจหรือความกังวลให้ทีมไทยแต่อย่างใด และคิดว่า พาณิภัค เองก็ไม่ได้กังวลในจุดนี้ซึ่งจากการได้เจอ พาณิภัค น้องก็ยังมีความมุ่งมั่น โฟกัสอยู่ที่การแข่งขันอย่างเต็มที่ และ มีความมั่นใจในฟอร์มและความสามารถของตัวเองที่ได้มีการฝึกซ้อมและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี  “ผมไม่กังวลในเรื่องความพร้อมของพาณิภัคเพราะเท่าที่ได้คุยกัน ตัวน้องเทนนิสก็มีความมุ่งมั่นมาก ทีมงานต่างๆก็ไม่อยากไปสร้างความกดดัน หรือเพิ่มความเครียดให้น้อง เราอยากให้น้องลงแข่งขันด้วยความสบายใจที่สุด แต่สิ่งที่ทีมผมจะต้องเตรียมตัวคือการดูแลน้องที่สนามโดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินต่างๆ และ ทีมแพทย์ เพราะเทควันโดนักกีฬาจะไปแข่งขันที่สนามตลอดทั้งวันตั้งแต่ 9 โมงเช้าไปจนเกือบ 4 ทุ่ม ไม่สามารถออกไปไหนได้ เพราะฉะนั้นผมจึงได้วางแผนจัดเตรียมคนส่งอาหารและสิ่งจำเป็นในการแข่งขันไปให้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน” “เรื่องการเข้าไปชมในสนามเนื่องจากโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้มีข้อจำกัดหลายอย่างนอกจากไม่มีผู้เข้าชมแล้ว จำนวนคนที่จะเข้าไปดูก็จำกัดอยู่เฉพาะคนที่เกี่ยวข้อง และบุคคลที่ได้เอดีการ์ดในระดับหัวหน้าทีมและวีไอพี ซึ่งต้องแจ้งขอเข้าสนามล่วงหน้าด้วยอย่างวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ นอกจากผมแล้ว ก็จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคุณพิพัฒน์ รัชกิจประการ รวมถึงท่านเอกอัครราชทูตฯ และทีมงานอีก 2-3 คนเท่านั้น ส่วนนักกีฬาชนิดอื่นๆก็ไม่สามารถเข้าไปให้กำลังใจได้เลย ยกเว้นนักกีฬาเทควันโดเท่านั้น” “บิ๊กต้อม” ได้กล่าวเชิญชวนให้แฟนกีฬาชาวไทยช่วยส่งแรงใจเชียร์ และ ให้กำลังใจ พาณิภัค ในการลงสนามแข่งขันชิงเหรียญรางวัล จากกีฬาเทควันโดในวันที่24 กรกฎาคมนี้ให้สามารถคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ให้วงการกีฬาไทยไปพร้อมๆกันด้วย-สำนักข่าวไทย

รมต.กีฬา ร่วมพิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์ติดขอบสนามเชียร์

22 ก.ค.64 – นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะ ในนามตัวแทนรัฐบาลไทย ออกเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์โตเกียว 2020 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ ที่สนามกีฬาแห่งชาติ โตเกียว 2020 โอลิมปิกสเตเดียม   ทั้งนี้ หลังพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ก็จะเริ่มการชิงชัยเหรียญทองแรก ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมเป็นต้นไป ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาก็จะเดินทางไปเชียร์ 2 นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยได้แก่ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ รุ่น 49 กก.หญิง และ “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี รุ่น 58 กก.ชาย ถึงขอบสนาม เพื่อเป็นกำลังใจในการลุ้นเหรียญทองแรกของทัพนักกีฬาไทยด้วย และ มวยสากล ที่มีโปรแกรมการแข่งขันในวันเดียวกัน นายพิพัฒน์ กล่าวว่า อยากให้นักกีฬาทุกคนมีความมั่นใจจากการที่ได้เก็บตัวฝึกซ้อมเป็นระยะเวลานาน โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทยได้ให้การสนับสนุนนักกีฬาอย่างดีที่สุด เพื่อให้นักกีฬาได้เข้าเเข่งขันในมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจว่าโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ครั้งนี้ จะต้องมีนักกีฬาไทยได้รับเหรียญทองอย่างแน่นอน  “ผมในฐานะตัวแทนภาครัฐ และคนไทยทั้งประเทศจะร่วมเป็นกำลังใจให้นักกีฬาทีมชาติไทยทำผลงานให้ดีที่สุด คว้าเหรียญรางวัลเพื่อสร้างความสุขและเป็นความภาคภูมิใจของคนทั้งชาติ”  กีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 เป็นการแข่งขัน ครั้งที่ 32 จะมีขึ้นที่กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม – 8 สิงหาคม 2564 มีนักกีฬาไทยผ่านเข้าร่วมชิงชัย 41 คน รวม 15 สมาคม ใน 16 กีฬา ประกอบด้วย ยิงปืน, ยิงเป้าบิน, เรือใบ, เรือแคนู/คายัค, เรือกรรเชียง, วินด์เซิร์ฟ, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, แบดมินตัน, ขี่ม้า, จักรยาน, มวยสากลสมัครเล่น, ยูโด, กอล์ฟ, ว่ายน้ำ และกรีฑา-สำนักข่าวไทย

“ณภัสวรรณ” รับตื่นเต้น ถือธงไทยเปิดโอลิมปิกเกมส์

22 ก.ค.64– “เอิน” ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทยชุดโอลิมปิกเกมส์โตเกียว 2020 เปิดเผยความรู้สึกหลังได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ถือธงชาติไทยนำขบวนพาเหรดทัพนักกีฬาไทยเข้าสู่พิธีเปิดการแข่งขัน ร่วมกับ “แซม” เศวตเศรษฐาภรณ์ นักกีฬายิงเป้าบินชายทีมชาติไทย วัย 58 ปี ในช่วงค่ำวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ ว่า ทันทีที่ได้รับการแจ้งว่าหัวหน้านักกีฬา คุณธนา ไชยประสิทธิ์  ได้พิจารณาเห็นชอบให้ตนได้ทำหน้าที่ถือธงชาติไทยเข้าสู่พิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์โตเกียว 2020 ยอมรับว่าตกใจและอึ้งๆอยู่เหมือนกัน ไม่คิดฝันมาก่อนว่าตนจะได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่อันทรงเกียรตินี้ เพราะคิดว่ายังมีนักกีฬาที่มีความสามารถและมีคุณสมบัติที่ดีเหมาะสมกับหน้าที่นี้มากกว่า แต่เนื่องจากนักกีฬาหลายคนมีภารกิจในการแข่งขันในวันที่ 24 กรกฎาคมทำให้การเข้าร่วมพิธีเปิดอาจจะกระทบกับการแข่งขันในขณะที่ตนไม่มีโปรแกรมแข่งขันในวันที่ 24 กรกฎาคม จึงได้รับการพิจารณาให้ทำหน้าที่ดังกล่าว ณภัสวรรณ กล่าวว่า “ดีใจและภูมิใจมากที่ได้รับเลือกให้ทำหน้าที่ถือธงชาติเดินนำขบวนพาเหรดนักกีฬาไทยเข้าสู่พิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์ที่เป็นมหกรรมกีฬาที่ใหญ่ของโลกซึ่งจัดแข่งขัน 1 ครั้งใน 4 ปี ยอมรับว่าตอนนี้ยังไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่แต่พอในช่วงต้องทำหน้าที่คิดว่าคงจะตื่นเต้นไม่น้อยแน่ๆ และคงตื่นเต้นยิ่งกว่าลงสนามแข่งขันเสียอีก เพราะนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตนับตั้งแต่เป็นนักกีฬาก็เพิ่งจะเคยทำหน้าที่ถือธงเดินนำขบวนพาเหรด สมัยเด็กๆ กีฬาสีหรือกีฬาอะไรก็ไม่เคยทำหน้าที่นี้เลย ตอนโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ แค่ได้เข้าร่วมเดินในขบวนพาเหรดของนักกีฬาไทยยังรู้สึกตื่นเต้นกับความยิ่งใหญ่และบรรยากาศต่างๆ แต่ครั้งนี้ต้องถือธงนำหน้าขบวนก็ยิ่งตื่นเต้นมากแน่ๆแต่เอินก็จะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด เพื่อเกียรติยศศักดิ์ศรีของทีมนักกีฬาไทยและประเทศไทย และวันนั้นพ่อแม่และครอบครัวก็จะได้เห็นภาพพิธีเปิดการแข่งขันผ่านการถ่ายทอดสดด้วย”  ส่วนความพร้อมและเป้าหมายในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ณภัสวรรณ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้พยายามฝึกซ้อมและปรับแก้ไขเสริมจุดแข็งด้านเทคนิคต่างๆให้ตัวเองมากยิ่งขึ้น มาถึงวันนี้ก็ค่อนข้างพร้อมมากกับการแข่งขันไม่มีความกังวลอะไร โดยเป้าหมายอยู่ที่การพยายามเข้ารอบชิงชนะเลิศ 8 คนสุดท้ายให้ได้ในการยิงปืนสั้นสตรี ระยะ25 เมตร ซึ่งเป็นรายการที่ถนัด ส่วนการคว้าเหรียญรางวัลแน่นอนว่าลึกๆ ก็อยากได้แต่ก็ยอมรับว่านักกีฬายิงปืนในโอลิมปิกเกมส์มือระดับโลกเก่งๆมากันเยอะ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด สำหรับ ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ มีโปรแกรมจะลงแข่งขันยิงปืนสั้น 2 รายการ เริ่มจาก ปืนสั้นอัดลมหญิง ระยะ 10 เมตร  รอบคัดเลือกจะแข่งขันวันที่ 25 กรกฎาคม เริ่มเวลา 09.00 น. จากนั้นจะลงแข่งขันปืนสั้นสตรี ระยะ 25 เมตร ในวันที่ 29 กรกฎาคม ซึ่งจะเป็นรอบคัดเลือก เริ่มเวลา 09.00 น. และรอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นวันที่ 30 กรกฎาคมเวลา 14.00 น.-สำนักข่าวไทย

สิงห์ ชวนส่งใจเชียร์นักกีฬาไทย สู้ศึกโอลิมปิก-พาราลิมปิก

22 ก.ค.64-จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และในฐานะ ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ผมเชื่อว่านักกีฬาทุกคนต้องการกำลังใจจากคนไทยทุกคน ทั้งนักกีฬาปกติและนักกีฬาพาราฯ ทุกคนทุ่มเท ฝึกซ้อมกันมานาน ตั้งใจสร้างความสำเร็จให้กับตนเองและคว้าชัยชนะเป็นของขวัญให้กับพี่น้องคนไทยร่วมภาคภูมิใจ แรงเชียร์และกำลังใจจากพวกเราจึงมีความสำคัญกับเหล่านักกีฬามาก ประกอบกับการแข่งขันในครั้งนี้เป็นการแข่งขับแบบไม่มีผู้ชมในสนามเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จึงอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยร่วมส่งกำลังใจให้กับเหล่านักกีฬาและเจ้าหน้าที่ของทุกสมาคมกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อให้ทัพนักกีฬาไทยคว้าเหรียญจากการแข่งขันทั้ง 2 รายการให้กับประเทศไทย”  ทั้งนี้ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ได้ให้การสนับสนุนสมาคมกีฬามาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน อาทิ สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2545, สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยตั้งแต่ปี 2548, สมาคมกีฬายกน้ำหนักแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2552, สนับสนุนนักกีฬาคนพิการไทยทุกสมาคม ตั้งแต่ปี 2548 ให้การสนับสนุนสโมสรแบดมินตันบ้านทองหยอด ที่สร้าง “เมย์” รัชนก อินทนนท์ จนขึ้นมือ 1 โลกมาแล้ว “เราเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการสร้างคน สร้างนักกีฬาให้ประสบความสำเร็จในระดับโลกเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ เราสร้างนักกีฬาตั้งแต่ระดับยุวชนไปจนถึงระดับชาติ ทั้งนักกีฬาปกติและนักกีฬาคนพิการ โดยที่ผ่านมาได้ทำงานร่วมกับสมาคมกีฬาต่างๆอย่างใกล้ชิด ให้การสนับสนุนงบประมาณที่เน้นความต่อเนื่องเพื่อการวางแผนพัฒนาระยะยาว จนนักกีฬาไทยประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับโลก รวมทั้งการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกหลายครั้งที่ผ่านมา ซึ่งความสำเร็จของนักกีฬาเหล่านี้นอกจากจะสร้างความภูมิใจให้กับคนไทยแล้ว ที่สำคัญไปกว่านั้นคือสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นใหม่ๆที่จะก้าวขึ้นมาแทนนักกีฬารุ่นพี่เพื่อสานต่อการสร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ขึ้นให้กับประเทศไทย” นายจุตินันท์ กล่าว

14 สโมสรฟุตซอลไทยลีกลงมติ เลื่อนเปิดฤดูกาลไปเป็น 6 ต.ค.

22 ก.ค.64-ฝ่ายจัดการแข่งขันจัดการประชุมเตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขันฟุตซอลไทยลีก2021 ร่วมกับสโมสรสมาชิกทั้ง 14 สโมสร แบบออนไลน์ผ่านทางแอพพลิเคชั่นซูม โดยมี นายอนุสรณ์ พิมงา ประธานจัดการแข่งขันฟุตซอลไทยลีก2021 เป็นประธานในที่ประชุม พร้อมด้วย นายยศวัจน์ ดำรงกุลวิศิษฐ์ รองประธานจัดการแข่งขันฯ ซึ่งมีวาระสำคัญคือการวางแผนและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ต่อการแข่งขันฟุตซอลลีกในปีนี้ ภายหลังการประชุม ทางด้าน นายยศวัจน์ ดำรงกุลวิศิษฐ์ รองประธานจัดการแข่งขันฯ กล่าวว่า “ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังหนักหน่วงต่อเนื่อง ทำให้การจัดการแข่งขันเป็นไปอย่างอยากลำบาก รวมถึง สนามเหย้าของหลายๆสโมสรเองก็ถูกใช้เป็นโรงพยาบาลสนามหรือใช้เป็นที่ตรวจเชื้อและฉีดวัคซีนอีกทั้งยังอยู่ในพื้นที่สีแดงและสีแดงเข้ม” “นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการเตรียมทีมของทีมฟุตซอลทีมชาติไทยเพื่อไปแข่งขันฟุตซอลโลก2021 ทำให้สโมสรสมาชิกจึงร่วมลงมติเห็นพ้องร่วมกันว่าจะขยับวันแข่งออกไปเพื่อให้ทีมชาติไทยได้เตรียมทีมอย่างเต็มที่ในการแข่งขันฟุตซอลโลก จากเดิมฟุตซอลไทยลีกจะแข่งขันวันที่ 7 ส.ค.64 ไปเป็น 6 ต.ค.64 ในระบบเหย้า-เยือน” “และเพื่อให้สอดคล้องกับการขยับวันแข่งขันฝ่ายจัดการแข่งขันจึงได้ขยายกำหนดการส่งรายชื่อนักกีฬาจากเดิมวันที่22 ก.ค.นี้ ไปเป็นวันที่ 27 ส.ค. 2564” “โดยหลังจากนี้ฝ่ายจัดการแข่งขันก็จะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจัดประชุมออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชั่นซูมเป็นระยะ เพื่อร่วมอัพเดตสถานการณ์ร่วมกับสโมสรสมาชิก” ทั้งนี้ฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตซอลไทยลีก2021 จะทำการจับสลากประกบคู่แข่งขันในภายหลัง โดยจะมีการยืนยันวันและเวลาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง-สำนักข่าวไทย

ลุ้นทีมแบดมินตันไทย คว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์

ทีมแบดมินตันมีความพร้อมและมีโอกาสลุ้นเหรียญแค่ไหนในโตเกียวเกมส์ครั้งนี้ ไปติดตามได้ในช่วง “เชียร์ไทยสุดใจ โตเกียวเกมส์ 2020”

ดอร์นา สปอร์ต ประกาศยกเลิกโมโตจีพี สนามประเทศไทย

21 ก.ค.64- FIM, IRTA และ Dorna Sports ได้แสดงความเสียใจที่จะต้องประกาศการยกเลิกการแข่งขัน OR Thailand Grand Prix 2021 ซึ่งมีกำหนดจัดการแข่งขัน ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต, บุรีรัมย์ ในวันที่ 15 – 17 ตุลาคม 2564 เนื่องด้วยแม้จะมีความพยายามอย่างเต็มที่จากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่การระบาดของโรคโควิด-19 ณ ประเทศไทย ยังอยู่ในภาวะที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เป็นผลทำให้มีความจำเป็นที่ต้องยกเลิกการจัดงานในปี 2021  FIM MotoGP™ World Championship ยังคงหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้กลับมาแข่งขันต่อหน้าแฟนๆมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย ณ จังหวัดบุรีรัมย์อีกครั้ง ในปี 2022 ขณะเดียวกันสนามที่จะทดแทนสนามประเทศไทยนั้นอยู่ในระหว่างการพิจารณา ซึ่งรายละเอียดจะมีการแจ้งให้ทราบโดยเร็วที่สุด-สำนักข่าวไทย

ทัพนักกีฬาไทย พร้อมไล่ล่าเหรียญทองที่ 10 “โอลิมปิกเกมส์ 2020”

21 ก.ค.64 -การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ญี่ปุ่น ร่วมกับคณะกรรมการโอลิมปิคสากล (ไอโอซี) จัดการแข่งขันภายใต้มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 “โตเกียวเกมส์ 2020”ยังคงได้รับความสนใจจากชาติสมาชิกกว่า 200 ประเทศที่ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน โดยสหรัฐอเมริกาส่งนักกีฬาลงแข่งขันมากที่สุด 613 คน ตามด้วยเจ้าภาพญี่ปุ่น 552 คน, อันดับ 3 ออสเตรเลีย 476 คน ส่วน จีน อยู่อันดับ 4 ส่งนักกีฬาเข้าร่วมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศจำนวนทั้งสิ้น 431 คน และเยอรมนี อันดับ 5 ส่งแข่งทั้งสิ้น 425 คน  ส่วน นักกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้มีนักกีฬาที่ได้สิทธิ์เข้าร่วมทั้งสิ้น 41 คนจาก 15 ชนิดกีฬาประกอบด้วย กรีฑา, แบดมินตัน, มวยสากล, เรือพาย, จักรยาน, ขี่ม้า, กอล์ฟ, ยูโด, เรือใบ, วินด์เซิร์ฟ, ยิงปืน, ยิงเป้าบิน, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส และ เทควันโด  “บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย กล่าวถึงความหวังของนักกีฬาไทยว่า จากการประเมินความพร้อมและโอกาสแล้วเชื่อว่านักกีฬาไทยมีลุ้นอย่างน้อย 1 เหรียญทอง จาก 5 ชนิดกีฬาที่มีความหวังมากที่สุดคือ เทควันโด, มวยสากลสมัครเล่น, ยิงเป้าบิน, แบดมินตัน และกอล์ฟ เนื่องจากทั้ง 5 ชนิดกีฬานี้มีนักกีฬาที่มีดีกรีระดับโลกการันตีความสามารถและมีโอกาสมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง ซึ่งกวาดมาหมดแล้วทุกแชมป์ ขาดเพียงเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ โดยเธอเป็นนักกีฬาคนเดียวของไทยในชุดนี้ ที่เคยคว้าเหรียญทองแดงจาก โอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโร ขณะที่ มวยสากล ยังได้ “เจ้าสด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ที่พร้อมจะสั่งลาโอลิมปิกเกมส์ในวัย 36 ปีด้วยการคว้าเหรียญทอง เช่นเดียวกับ “ณี” สุธิยา จิวเฉลิมมิตร นักกีฬายิงปืนเป้าบินที่ผ่านโอลิมปิกเกมส์มาแล้ว 3 ครั้ง ที่ตั้งเป้าจะคว้าเหรียญรางวัลให้ตัวเองให้ได้สักครั้งในชีวิต แบดมินตัน ถือว่ามีลุ้นในหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นคู่ผสมอย่าง “บาส” เดชาพลพัววรานุเคราะห์ และ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ถูกจัดให้เป็นคู่มือวาง 3 ของรายการ รวมถึงมือ 1 ของไทยในประเภทหญิงเดี่ยว “เมย์” รัชนก อินทนนท์  กีฬากอล์ฟ โอลิมปิกเกมส์หนนี้มี 2 โปรสาวไทยดีกรีแชมป์เมเจอร์ลงแข่ง ทั้ง “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล อดีตมือ 1 ของโลก ปัจจุบันเป็น มือ 21 ของโลก จะลงแข่งเป็นครั้งที่ 2 ที่เธอพร้อมจะทำผลงานให้ดีที่สุด และ “โปรเหมียว” ปภังกร ธวัชธนกิจ มือ 12 ของโลก สำหรับประเทศไทย ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ เป็นครั้งแรกที่ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ตั้งแต่ปี 1952 (พ.ศ.2495)  ซึ่งเป็นมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ครั้งที่  12 จากนั้นก็เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์อย่างต่อเนื่อง(ยกเว้นปี 1980 ที่มอสโก) รวมทั้งสิ้น 16 ครั้ง ประสบความสำเร็จคว้าเหรียญรางวัลได้ทั้งหมด  9 เหรียญทอง 8 เหรียญเงิน 16 เหรียญทองแดง แบ่งเป็น ยกน้ำหนัก 5 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 7 เหรียญทองแดง, มวยสากล4  เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน  6 เหรียญทองแดง และเทควันโด 2 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง ทั้งนี้ คณะกรรมการเตรียมทัพนักกีฬาไทย ตั้งความหวังใน “โตเกียวเกมส์ 2020” ไว้ 1-3 เหรียญทอง ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญของนักกีฬาไทยในการไล่ล่าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ เหรียญที่ 10 หรืออาจจะมากกว่านั้น  

“บิ๊กป้อม” ส่งใจเชียร์ “พาณิภัค” ประเดิมเหรียญโอลิมปิกให้ได้

21 ก.ค.64 –พล.อ.รณชัย มัญชุสุนทรกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯเปิดเผยว่า “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของนักกีฬาไทย ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และฝากความชื่นชมด้วยว่า “บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ทำหน้าที่ได้ดี ดูแลนักกีฬาด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ทราบข่าวว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในประเทศญี่ปุ่นยังคงมีอย่างต่อเนื่องและพบว่ามีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ในหมู่บ้านนักกีฬาติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะไม่มีนักกีฬาไทยแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ประธานโอลิมปิคไทย จึงได้กำชับให้ทุกฝ่ายดูแลนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกคนอย่างดีที่สุด ในขณะที่ “บิ๊กแนต” นายกองเอกชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ กล่าวเสริมว่า ในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะติดตามเชียร์ 2 นักเทควันโดไทย “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ  และ “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี ที่จะลงชิงชัยเป็นวันแรก แม้ว่าอาจจะต้องลุ้นเหรียญตั้งแต่เช้าถึงค่ำแต่สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยค่อนข้างมีความมั่นใจ โดยเฉพาะเส้นทางของ พาณิภัค ที่อาจจะเริ่มหนักในรอบ 4 คนสุดท้าย แต่ถ้าสาวไทยจอมเตะเบอร์ 1 ของโลก ไม่พลาดหรือโชคร้ายจนเกินไป เราจะได้เหรียญโอลิมปิกเกมส์ ตั้งแต่วันแรก สร้างรอยยิ้มและความสุขให้คนไทยทั้งประเทศ ทั้งนี้ในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ จะมีพิธีเปิดการแข่งขัน “โอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020” อย่างเป็นทางการ เจ้าภาพได้มีข้อจำกัดจำนวนคนในการเข้าร่วมพิธีของแต่ละประเทศ  โดยนักกีฬาที่จะถือธงชาติไทยนำคณะนักกีฬาเข้าสู่สนามในพิธีเปิด ได้แก่ “เอิน” ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ นักกีฬายิงปืนหญิง และ “แซม” เศวต เศรษฐาภรณ์ นักกีฬายิงเป้าบินชายร่วมรับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้เป็นครั้งแรก ตามนโยบายของ ไอโอซี ที่ส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ-สำนักข่าวไทย

เรือใบสาวไทยลุยพายุญี่ปุ่น ลุ้นเข้ารอบสุดท้าย โตเกียว 2020

21 ก.ค.64-พลเรือเอก นริส ประทุมสุวรรณ นายกสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของนักกีฬาเรือใบไทยที่ปักหลักเตรียมพร้อมเพื่อการแข่งขัน “โอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020” อยู่ที่เอโนะชิมะ ยอชต์ ฮาร์เบอร์ จังหวัดคานางาวะ ประเทศญี่ปุ่น ที่ห่างจากกรุงโตเกียว 60 กม.ว่า นักกีฬาแล่นใบหญิงของไทย”แบม” กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม ที่จะลงแข่งประเภทเลเซอร์เรเดียล หญิง ระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม -1 สิงหาคมนี้ มีความพร้อมอย่างมาก สุขภาพร่างกายแข็งแรงและมีขวัญกำลังใจดีเยี่ยม หลังจากเดินทางไปถึงญี่ปุ่นก็ได้ลงฝึกซ้อมเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับสภาพลม สภาพคลื่นน้ำ และสภาพอากาศ จากการฝึกซ้อมผ่านมา 5 วันที่ผ่านมาพบว่าอุปสรรคที่สร้างความกังวล และจะต้องระมัดระวัง คือ กระแสลมที่ค่อนข้างแรงมาเป็นระยะๆ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีพายุเข้าญี่ปุ่นหลายครั้ง และยังจะต้องเผชิญพายุอีกในช่วงแข่งขันด้วย ซึ่งขณะนี้ฝ่ายจัดการแข่งขันฯได้ทำการประเมินความแรงของพายุแบบวันต่อวัน  “การเกิดพายุและการมีกระแสคลื่นลมที่แรงแน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อการแข่งขันของนักกีฬา โดยเฉพาะนักกีฬาไทยที่อาจจะไม่คุ้นชิน แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวันนักกีฬาต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ แต่ที่ต้องเตรียมพร้อมให้ดีในขณะนี้คือสภาพร่างกายของนักกีฬาที่ถือว่ามีความแข็งแรง พร้อมแข่งได้เต็มที่ โดยจากที่สมาคมประเมินและตัวนักกีฬาเองก็มีความหวังที่จะผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้” ในขณะที่  “แบม” กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม กล่าวว่า จากการลงซ้อมในทะเลพื้นที่จริงที่จะใช้แข่งขันยอมรับว่ากระแสคลื่นลมเป็นปัจจัยที่จะทำให้เกิดอุปสรรคต่อการแข่งขัน และที่ญี่ปุ่นก็อาจจะเกิดพายุหรือคลื่นลมแรงมาได้ทุกวัน ขึ้นอยู่กับว่าจะแรงระดับไหน เราก็ต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์นี้ให้ดีที่สุด และต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศที่คาดเดาได้ยากในแต่ละวันด้วย และด้วยขวัญกำลังใจที่ดีตัวเองก็พร้อมเสมอกับการแข่งขันที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ ทั้งนี้ ประเทศญี่ปุ่นมักจะเผชิญหน้ากับภัยธรรมชาติ ทั้งแผ่นดินไหว และ พายุพัดเข้าฝั่งช่วงฤดูมรสุมที่มักจะเกิดขึ้นประมาณเดือนสิงหาคม ถึง กันยายนของทุกปี-สำนักข่าวไทย

‘ไอโอซี’ เลือก ‘บริสเบน’ จัดกีฬาโอลิมปิก ปี 2032

21 ก.ค.64-คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) เปิดเผยว่า จากการประชุมใหญ่ไอโอซี ครั้งที่ 138 ที่โรงแรมโอกุระ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 ซึ่งมี โธมัส บาคประธานไอโอซี เป็นประธานการประชุมในรูปแบบนิวนอร์มอล ตั้งโต๊ะแยกอิสระ เป็นรายบุคคล มีวาระสำคัญในการเลือกเมืองเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 35 ปี 2032 โดยที่ประชุม ได้ให้ความเห็นชอบ เมืองบริสเบน ของออสเตรเลีย เป็นเจ้าภาพในครั้งดังกล่าว ตามระบบการคัดเลือกใหม่ของไอโอซี  สำหรับระบบใหม่ของไอโอซี ในการคัดเลือกเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก ปี 2032 นั้น ไอโอซี ต้องการลดกระบวนการเลือกเจ้าภาพ โดยให้ลดต้นทุนการเสนอตัวของเจ้าภาพ หลังจากครั้งก่อน ๆ ต้องแข่งขันกันอย่างดุเดือด ใช้งบประมาณในการเสนอตัวที่มากเกินไป บางครั้งก็มีการล็อบบี้กันเกิดขึ้น แต่ตอนนี้ ไอโอซี จะดูจากความพร้อมเป็นหลัก ใครมีทุกอย่างพร้อมตามความต้องการ ไอโอซี ก็จะได้พิจารณาเลือก ดังเช่นกรณีของเมืองบริสเบน ที่แสดงความพร้อมในทุก ๆด้านมาตั้งแต่แรก ไอโอซีเมมเบอร์หญิงชาวไทย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เมืองบริสเบน นับเป็นเมืองที่ 3 ของออสเตรเลีย ที่ได้จัดกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ ต่อจากเมืองเมลเบิร์น เมื่อปี 1956 และนครซิดนีย์ เมื่อปี 2000 โดยนอกจากกีฬาโอลิมปิกแล้วเมืองบริสเบน ยังจะได้จัดกีฬาพาราลิมปิก ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งกำหนดวันเบื้องต้นของ โอลิมปิก บริสเบน 2032 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม–8 สิงหาคม และ พาราลิมปิก บริสเบน 2032 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม–5 กันยายน2032 “การคัดเลือกเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโอลิมปิก บริสเบน 2032 ครั้งนี้ โธมัส บาค ประธานไอโอซี ได้ระบุว่า แผนวิสัยทัศน์ของ บริสเบน 2032 เหมาะสมกับกลยุทธ์ระดับภูมิภาค และระดับชาติในระยะยาวสำหรับการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจในรัฐควีนส์แลนด์ และยังช่วยส่งเสริมเป้าหมายสำหรับกระบวนการโอลิมปิก ที่ระบุไว้ในวาระโอลิมปิก 2020 และ 2020+5 ที่ต้องการมอบประสบการณ์กีฬาที่น่าจดจำให้แก่นักกีฬาทุกคน” คุณหญิงปัทมา กล่าวในตอนท้าย-สำนักข่าวไทย

1 180 181 182 183 184 336
...