สถานการณ์ชายแดนสุ่มเสี่ยงปะทะรอบ 2

สุรินทร์ 13 ส.ค. – กระแสข่าวจากหลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าระยะ 2 วันนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเพิ่มความตึงเครียด สุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะรอบ 2 ฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งเตือนไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน พบว่า หลายครอบครัวเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ 1-2 วัน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบในห้วงวันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้เตรียมความพร้อม เก็บสัมภาระไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงการปะทะ รอบ 2 ซึ่งอาจรุนแรงมากกว่ารอบแรก ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างตื่นตระหนก ต้องการอพยพไปอยู่นอกพื้นที่ แต่เมื่อผู้นำหมู่บ้านทำความเข้าใจ ก็คลายความกังวลลงบ้าง โดยสื่อสารข้อความจากนายอำเภอพนมดงรักว่า รอให้มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้นก่อน จึงให้อพยพ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อฟัง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน เพราะยังไม่มีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือนตลอดห้าวัน เพราะเป็นห่วงวัวที่เลี้ยงไว้ จึงอาศัยอยู่ในกระต๊อบพร้อมญาติรวมสี่คน และประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะปลอดภัย เพราะวิถีกระสุนไปตกไกลกว่า จึงได้ยินเสียงปะทะอย่างชัดเจน […]

สถานการณ์ชายแดน 7 จังหวัดคลี่คลายแล้ว เตือนอย่าเชื่อข่าวปลอม

ทำเนียบ 13 ส.ค.-สถานการณ์ชายแดน 7 จังหวัดคลี่คลายแล้ว เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม หลอกให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อ้างว่ากองทัพบกประกาศเตือนให้ประชาชนเร่งอพยพออกจากพื้นที่เนื่องจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ว่า เป็นข่าวปลอม และไม่มีมูลความจริง ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับเพจกองทัพภาคที่ 2 แล้ว ยืนยันว่า กองทัพบกไม่เคยออกประกาศดังกล่าว และสถานการณ์ชายแดนตลอดแนวกองกำลังสุรนารีอยู่ในภาวะปกติ มีเพียงการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตามปกติ ยังไม่มีการปะทะหรือสู้รบในพื้นที่ รัฐบาลขอให้ประชาชน อย่าได้หลงเชื่อหรือส่งต่อข้อมูลเท็จ และให้ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐหรือสื่อทางการเท่านั้น พร้อมย้ำว่ารัฐบาลและกองทัพบกให้ความสำคัญสูงสุดต่อความมั่นคงของประเทศ และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนทุกคน.-314.-สำนักข่าวไทย

“สุรเดช” แนะรัฐยกเลิกข้อตกลง GBC หลังกัมพูชาละเมิดทำทหารไทยขาขาด

กทม.13 ส.ค.-“สุรเดช” แนะรัฐบาลยกเลิกข้อตกลงเวที GBC หลังเขมรละเมิดข้อตกลง ทำทหารไทยต้องขาขาดอีก บอกจากนี้ต้อง ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’ ไล่บี้ ก.ต่างประเทศ ต้องแอ๊คชั่นฟ้องนานาประเทศให้เร็วกว่านี้ นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ให้สัมภาษณ์กรณีมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดซ้ำอีกนายขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสูญเสียขา 1 นายว่า ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำซาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความจริงใจของกัมพูชาไม่มีแล้ว เขาพยายามที่จะละเมิดข้อตกลงมาโดยตลอด ดังนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้สิ่งที่เราไปตกลงมาในการประชุม GBC ก็ควรจะยกเลิก เพราะคุยมาก็ไม่มีประโยชน์อะไร ไม่ได้มีผลอะไรเลย และเรื่องนี้กระทรวงการต่างประเทศควรจะมีแอ็คชั่น โดยเร็ว ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศดำเนินการช้ามาโดยตลอด ดังนั้นต้องรีบแจ้งไปยังนานาประเทศโดยเร็วถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่ากัมพูชาละเมิดข้อตกลงอีกแล้ว และถือว่าเรามีความชอบธรรมที่จะต้องปกป้องตัวเอง และปกป้องอธิปไตยของเรา ดังนั้นข้อตกลงต่างๆ ก็จะต้องยกเลิกไป เพราะกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ทางกองทัพประกาศรับบริจาคลวดหนามหีบเพลงผ่านเพจกองทัพ นายสุรเดช กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่ากรณีดังกล่าว เป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาล ล่าช้าและไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร ตนไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลต้องรอให้ทหารมาเปิดรับบริจาคเอง เพราะรัฐบาลมีงบฉุกเฉิน และสามารถอนุมัติได้อยู่แล้ว ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเพราะรัฐบาลล่าช้า ทางกองทัพก็เลยต้องมาขอรับบริจาค “ส่วนตัวคิดว่าการเจรจา เราต้องยกเลิกทั้งหมด ข้อตกลง 13 ข้อเราไม่ต้องคุยแล้ว ต่อไปนี้ต้องตาต่อตา […]

กต. จ่อเชิญทูต 50 ประเทศผู้บริจาคกรอบออตตาวาพิสูจน์ข้อเท็จจริงทุ่นระเบิด

กทม. 13 ส.ค.- ผู้ช่วย รมต.กต. เผยเตรียมเชิญทูต 50 ประเทศผู้บริจาคในกรอบอนุสัญญาออตตาวา ชี้แจง 15 ส.ค.นี้ ก่อนพาลงพื้นที่ 16 ส.ค. พิสูจน์ข้อเท็จจริง ชี้เหตุทุ่นระเบิดเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า สะท้อนกัมพูชาไม่จริงใจแก้ปัญหา ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ลั่น กต.จะดำเนินการทูตอย่างถึงที่สุด นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่พลกองร้อยทหารพรานรวม 7 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องจุบตะโมก ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประท้วงไปยังฝั่งกัมพูชา และเร่งดำเนินการประท้วงตามช่องทางทางการทูตที่เกี่ยวข้องแล้ว และในวันศุกร์ที่ 15 สิงหาคมนี้ กระทรวงการต่างประเทศ จะเชิญผู้แทนทางการทูตจากกว่า 50 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วยประเทศผู้บริจาคในกรอบอนุสัญญาออตตาวา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มารับฟังการบรรยายสรุปในเรื่องดังกล่าว จากนั้นในวันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2568 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะนำคณะผู้แทนทางการทูตดังกล่าว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้รับทราบข้อเท็จจริงจากผู้ปฏิบัติในพื้นที่โดยตรง ซึ่งที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ […]

“จิรายุ” เรียกร้องรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา เร่งสอบกัมพูชาละเมิดข้อตกลง

ทำเนียบ 13 ส.ค.-รัฐบาล ระบุ “เพ็ญโบนา” โทรโข่งเขมรหลังออกแถลงการณ์ปฏิเสธแถว่ากับระเบิดไม่ใช่ของกัมพูชา ด้าน “จิรายุ” ย้อนถามเมื่อบอกว่าไม่ใช่ แล้วทำไมจึงไม่ยอมรับข้อตกลงหยุดยิง 7 ส.ค. เรื่องข้อตกลงเก็บกวาดทุ่นระเบิด พร้อมเรียกร้องให้รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา เร่งสอบเส้นทางการเงินผู้ซื้อและผู้ขาย รู้แน่เขมรมีกี่หมื่นลูก นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) กล่าวถึงกรณีนายเพ็ญ โบนา โฆษกรัฐบาลกัมพูชา แถลงในวันนี้ (13 สิงหาคม 2568) ตอบโต้กรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยยังปฏิเสธหน้าตายว่า กัมพูชาไม่เคยมีและวางทุ่นระเบิดใหม่ และปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวาอย่างเคร่งครัด นั้น นายจิรายุ กล่าวว่า การที่รัฐบาลกัมพูชาออกมาโต้แย้งในประเด็นนี้ ก็ยิ่งทำให้เห็นถึงความไม่จริงใจและเป็นการโกหกรายวัน เพราะหากเป็นอย่างที่โฆษกรัฐบาลกัมพูชาพูดนั้น เหตุใดกัมพูชาจึงไม่รับข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่7สิงหาคม 2568 ประเทศมาเลเซีย ที่ไทยยื่นข้อเสนอสำคัญ 2 ข้อ คือ1.เรื่องการจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ค้ามนุษย์ และข้อที่2.ให้มีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เพราะข้อที่ 2 นี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าขัดแย้งกับสิ่งที่รัฐบาลกัมพูชาพูดในวันนี้ อย่างสิ้นเชิงเพราะถ้าตนเองไม่ได้เป็นผู้วางกับระเบิด เหตุใดจึงไม่รับข้อตกลงนี้ นายจิรายุ กล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยังรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ขอให้เปิดประชุมเร่งด่วนเพื่อพิจารณากรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลงสนธิสัญญาดังกล่าวในเรื่องของกับระเบิดบุคคล เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียใดๆอีก […]

กองทัพภาค 2 ปิดรับ “ลวดหนามหีบเพลง” หลังได้รับเพียงพอ

กทม. 13 ส.ค.-กองทัพภาคที่ 2 ปิดรับการสนับสนุน “ลวดหนามหีบเพลง” หลังได้รับเพียงพอ ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมเสริมความมั่นคงชายแดน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่เมื่อวานนี้ กองทัพภาคที่ 2 ได้มีการเปิดรับการสนับสนุนลวดหนามหีบเพลงจากทุกภาคส่วน เพื่อใช้ในการเสริมมาตรการป้องกันพื้นที่สำคัญ และเป็นอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัยให้กำลังพลแบบเร่งด่วน ปรากฏว่าได้รับการตอบรับและสนับสนุนจากรัฐบาล หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการสนับสนุนดังกล่าวถือเป็นกำลังใจสำคัญและมีส่วนอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างความพร้อมด้านการป้องกันพื้นที่ชายแดน โฆษกกองทัพบกกล่าวว่า ขณะนี้กองทัพภาคที่ 2 มีลวดหนามหีบเพลงเพียงพอต่อความต้องการใช้งานแล้ว เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เกิดการรับเกินความจำเป็น กองทัพภาคที่ 2 จึงขอปิดการรับการสนับสนุนลวดหนามหีบเพลงไว้แต่เพียงเท่านี้ พร้อมกันนี้ โฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า กองทัพภาคที่ 2 ขอขอบคุณทุกความร่วมมือและน้ำใจจากทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันสนับสนุนภารกิจปกป้องอธิปไตยของชาติ รวมถึงทางรัฐบาลและกระทรวงกลาโหมที่ได้ติดต่อให้การช่วยเหลือมาโดยตลอด ขอให้ทุกท่านมั่นใจว่าทรัพยากรที่ได้รับจะถูกนำไปใช้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศ.-313.-สำนักข่าวไทย

ทหารเหยียบทุ่นระเบิดขาซ้ายขาด อาการดีขึ้น

สุรินทร์ 13 ส.ค. – “สิบเอกธีรพล” ทหารเหยียบทุ่นระเบิดขาขาด อาการดีขึ้น คลังเลือด รพ.สุรินทร์ เผยมีเลือดเพียงพอแล้ว ขณะที่กองทัพภาค 2 ปิดรับลวดหนามหีบเพลง ได้เพียงพอแล้ว ขอบคุณทุกความร่วมมือ ความคืบหน้าอาการ สิบเอกธีรพล เพียขันที สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2610 ที่เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางไว้ จนได้รับบาดเจ็บขาขาด ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้วตามลำดับ และที่โรงพยาบาลสุรินทร์ มีประชาชน นักศึกษา และเจ้าหน้าที่ จำนวนมาก มาบริจาคเลือดกรุ๊ป AB ให้กับ สิบเอกธีรพล ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยขณะนี้เพียงพอแล้ว และคลังเลือด รพ.สุรินทร์ ยืนยันว่ามีเลือดเพียงพอสำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และล่าสุดกองทัพภาคที่ 2 แจ้งกรณีขอสนับสนุนลวดหนามหีบเพลง เสริมสร้างความพร้อมการป้องกันพื้นที่และรักษาความมั่นคงของประเทศว่า ได้รับลวดหนามหีบเพลงเพียงพอต่อความต้องการใช้งานแล้ว จึงขอปิดการรับ ลวดหนามหีบเพลงไว้แต่เพียงเท่านี้ พร้อมขอบคุณทุกความร่วมมือและน้ำใจจากทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมสนับสนุน.-สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงปมขอรับบริจาคลวดหนาม จำเป็นต้องใช้เร่งด่วน

กองทัพบก 13 ส.ค.- โฆษก ทบ. แจงกองทัพภาค 2 ขอรับบริจาค “ลวดหนามหีบเพลง” เหตุจำเป็นต้องใช้เร่งด่วน เพื่อความปลอดภัยกำลังพล สกัดการลักลอบเข้าพื้นที่ของทหารกัมพูชา ชี้หากรอกระบวนการจัดซื้อตามกฎหมาย ใช้เวลา 1 เดือน ย้ำรัฐบาล-กองทัพ มีงบประมาณเพียงพอ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ขอให้กองทัพภาคที่2 หยุดรับบริจาคลวดหนามหีบเพลงจากประชาชน และให้มาขอกับรัฐบาลว่า ยืนยันรัฐบาลและกองทัพมีงบประมาณเพียงพอ แต่ติดขัดในกระบวนการจัดซื้อตามกฎหมาย ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน และหากไม่ปฏิบัติตามระเบียบ อาจทำให้ผู้จัดซื้อมีความผิด ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน มีความจำเป็นต้องใช้ลวดหนามหีบเพลงทันที โดยเฉพาะ 4 จังหวัดชายแดน “อุบลฯ-ศรีสะเกษ-สุรินทร์-บุรีรัมย์” จึงต้องขอรับการสนับสนุนจากประชาชน “การจัดซื้อต้องเป็นไปตามระเบียบราชการ แต่วิธีจัดหาใช้แบบพิเศษได้ แต่ก็ใช้เวลาเป็นเดือน ที่สำคัญ กรณีลวดหีบเพลงสเปกที่ทหารใช้ ไม่มีในท้องตลาดต้องสั่งผลิตจึงใช้เวลานานขึ้นไปอีก ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องของงบประมาณ งบประมาณมีอย่างเพียงพอ มีแค่เรื่องเวลา” โฆษก ทบ. กล่าวและว่า […]

โรงเรียน-โรงพยาบาลในอุบลฯ เปิดวันแรก หลังเหตุปะทะไทย-กัมพูชา

13 ส.ค. – ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ เช้านี้ (13 ส.ค.) ยังปกติ ชาวบ้านติดชายแดนต่างวิตก หวั่นเกิดการปะทะ จึงเก็บสัมภาระเตรียมพร้อมหากต้องอพยพออกจากพื้นที่ ส่วนโรงเรียน-โรงพยาบาล ใน จ.อุบลราชธานี เปิดวันแรก ทำเอาชาวบ้านอยู่ไม่ได้ หลังมีกระแสข่าวว่าจะเกิดการยิงกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จนชาวบ้านต้องขนของอพยพออกจากบ้านกลางดึก เพื่อมาตั้งหลักในตัว อ.กันทรลักษ์ แต่หลังจากแน่ใจว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นจึงเดินทางกลับเข้าบ้านเรือน แต่ยังมีบางส่วนที่ยังไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ ออกไปพักบ้านญาติพี่น้องต่างอำเภอ สำหรับสถานที่ราชการในตัว อ.กันทรลักษ์ วันนี้ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ส่วนโรงเรียนบางแห่งประกาศให้เรียนทางออนไลน์แทน เพื่อความปลอดภัย โรงเรียนชายแดน จ.สุรินทร์ ปิดต่อ ให้เรียนออนไลน์เช่นเดียวกับ จ.สุรินทร์ โรงเรียนชายแดนยังปิดต่อ และให้เรียนออนไลน์แทน เพื่อรอดูสถานการณ์ ส่วนผู้ปกครองกังวลถ้ายังเปิดเรียนในช่วงสถานการณ์ยังไม่สงบและไม่ปลอดภัย 100% ส่วนในพื้นที่ อ.พนมดงรัก โรงเรียนประถมฯ บางโรงประกาศให้มีการเรียนการสอนในระบบออนไลน์ช่วงวันที่ 13-15 สิงหาคมนี้ และมีบางโรงเรียนที่กลับมาเปิดเรียนตามปกติแล้ว แต่ไม่บังคับว่านักเรียนต้องมาเรียนทุกคน โดยมีการแจ้งใน LINE กลุ่มผู้ปกครองว่าหากผู้ปกครองท่านใดยังมีความกังวลใจก็อนุญาตให้เด็กลาได้ ส่วนชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ เช้านี้ […]

“มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็น เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 13 ส.ค.- “มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็นอ้างไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้ เชื่อยูเอ็นเข้าใจ เผยคุยมิตรประเทศ บอก พฤติกรรมเขมรวางทุ่นระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เร่งประชุมร่วมรัฐภาคี-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเก็บหลักฐานให้คณะทำงานดูข้อมูลจริงจากพื้นที่ ขอช่วยผลักดันเขมรร่วมวงเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ทำตามอนุสัญญาออตตาวา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาส่งจดหมายร้องเลขาฯ UN และ UNSC อ้างไทยละเมิดอธิปไตยและข้อตกลงหยุดยิงว่า เป็นการกล่าวอ้าง ซึ่งตนยังไม่เห็นหลักฐานที่ชัดเจน ของกัมพูชาว่าเราละเมิดตรงไหน ในขณะที่ทางกัมพูชาเองใช้วิธีที่ไม่จริงใจต่อความพยายามในการแก้ไขปัญหา ตามกรอบข้อตกลงหยุดยิงที่ได้ทำร่วมกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการยั่วยุด้วยสงครามข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นการใช้ โอกาสในการมาฝังลูกระเบิดสังหารบุคคลในดินแดนของประเทศไทย ในขณะที่ประเทศไทยมีหลักฐานที่ชัดเจน ที่ชี้ให้เห็นว่ากัมพูชาไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามความตกลงหยุดยิงระหว่างกัน อย่างไรก็ตามการที่กัมพูชาส่งหนังสือไปถึงยูเอ็น ทางฝ่ายยูเอ็นก็ไม่ได้มีการเปิดประชุมเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ ในขณะเดียวกัน ไทยก็ได้มีหนังสือชี้แจง เลขาธิการสหประชาชาติไปในทุกโอกาส และทุกกรณีที่มีการขัดแย้งเกิดขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า ในเรื่องของอนุสัญญาออตตาวา ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือผลักดันในเรื่องนี้ไปถึง ทูต ญี่ปุ่น ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และเจนีวา ในฐานะที่เป็นประธานของรัฐภาคีอนุสัญญาออตาวา 3 ฉบับและอีกหนึ่งฉบับก็กำลังจะส่งตามไป เพื่อกดดันหรือผลักดันให้รัฐภาคี ดำเนินตามมาตรการ อนุสัญญาออตตาวาโดยเร็ว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบขอข้อมูลหลักฐาน ที่ชัดเจนซึ่งตรงนี้รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพได้ร่วมมือกันอย่างดี และสนับสนุน […]

“อนุดิษฐ์” จี้เร่งฟ้อง ICC เอาผิดกัมพูชาลอบวางระเบิด

กล้าธรรม 13 ส.ค.- “อนุดิษฐ์” จี้รัฐบาลเร่งฟ้อง ICC เอาผิด “กัมพูชา” ลอบวางระเบิดทำทหารไทยสูญเสียขาแล้ว 5 นาย มั่นใจละเมิดอนุสัญญาออตตาวาชัดเจน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม(กธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด ระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนบริเวณฐานจุ๊บตาโมก บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ทำให้ตั้งแต่เดือน ก.ค.68 จนถึงวันนี้ ทหารไทยสูญเสียขาไปแล้วถึง 5 นาย ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างที่จะระบุได้ชัดเจน ว่า ประเทศไทยเราไม่ได้เป็นคนวางกับระเบิดไว้แน่นอน เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เห็นจะมีทหารเขมรไปเหยียบเลยสักคน โดยกัมพูชาจะดูตามพื้นที่ที่เราลาดตระเวน และอาศัยช่วงเวลาที่ไม่มีทหารปฏิบัติภารกิจ แอบเข้ามาวางกับระเบิดไว้ เลยทําให้ทหารไทยหยียบกับระเบิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “รัฐบาลต้องเร่งดําเนินการนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฟ้องร้องต่อนานาชาติ เพราะเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนอนุสัญญาออตตาวาของฝ่ายกัมพูชาอย่างชัดเจน และสามารถที่จะเอาเรื่องดังกล่าวขึ้นสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC ผมเชื่อว่า รัฐบาลและกองทัพคงจะมองประเด็นนี้อยู่ และก็ไม่น่าจะละเลย อย่างไรก็ตามควรสื่อสารกับพี่น้องประชาชนว่าอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ากัมพูชาพยายามจะใช้โดรนมาเพื่อสกัดกั้นการวิ่งขึ้นของเครื่องบินเอฟ16 ในกรณีที่อาจจะมีการสู้รบกันในอนาคตนั้น น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ข้อมูลตรงนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะว่าความเร็วของเครื่องบินรบอย่างเอฟ 16 คงไม่มีใครสามารถบังคับให้โดรนมาเจอกันได้ทั้งตอนออกตัว หรือจะอยู่กลางอากาศก็ตาม […]

7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ตลอดคืน “ไม่มีการปะทะ”

ทำเนียบ 13 ส.ค.- สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จังหวัด ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึงเช้าวันนี้ “ไม่มีการปะทะ” วันนี้ (13 สิงหาคม 2568) เวลา 07.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันอังคารที่ 12 สิงหาคม 2568 จนถึงเช้าวันนี้ (วันพุธที่ 13 สิงหาคม 2568 เวลา07.00 น.) เหตุการณ์บริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา 7 จังหวัด ไม่มีการปะทะ      โดยกองทัพไทย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นอย่างแข็งขันใน 11 พื้นที่ใน 7 จังหวัด และพร้อมตอบโต้หากถูกรุกล้ำอธิปไตยทันที โดยฝ่ายไทย ยังยึดมั่นปฏิบัติตามข้อตกลงของการประชุม GBC ที่ผ่านมา […]

1 6 7 8 9 10 64
...