คณะทูตเตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบปมทุ่นระเบิด

ศรีสะเกษ 15 ส.ค. – บ้านหนองเม็ก ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นหนึ่งในจุดที่คณะทูตจะเดินทางมาตรวจสอบยืนยันการโจมตีเป้าหมายพลเรือนของฝ่ายกัมพูชา จุดนี้ทำให้ชาวบ้านเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย สภาพความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนติดกัน 2 หลัง ในหมู่บ้านหนองเม็ก ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 ตกใส่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 1 ราย โดยกระสุนพุ่งโดนเสา ทิศทางระเบิดขึ้นบนฟ้า หากตกดินและกระจายในแนวราบ สะเก็ดจะถูกญาติอีก 2 คนที่หมอบอยู่ไม่ไกล ได้รับความเสียหายเพิ่มเติม โดยเวลานั้นพากันออกมาจากหลุมหลบภัยเพื่อหุงหาอาหารค่ำ เพราะเห็นว่าเสียงปะทะเงียบแล้ว แต่จู่ๆ มีจรวด BM-21 ตกใส่แบบไม่ทันตั้งตัว เป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ชัดเจนว่ากัมพูชาตั้งใจโจมตีเป้าหมายพลเรือน ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งพรุ่งนี้ (16 ส.ค.) คณะทูตจากประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา จะเข้ามาตรวจสอบความเสียหายในจุดนี้ด้วย โดยชาวบ้านที่รอดจากสะเก็ดระเบิดหวุดหวิด ชี้ว่ากัมพูชาใช้วิธีการรบนอกแบบมาตลอด […]

“ภูมิธรรม” ย้ำจัดการตามขั้นตอน ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 15 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ย้ำ ไทยเดินหน้าจัดการปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชาตามขั้นตอน ขอรอผลการประชุม RBC และ GBC ก่อน เชื่อไทยได้รับการยอมรับจากประชาคมโลก นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเปิดด่านบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากที่เมื่อวานนี้แม่ทัพภาคที่ 2 จะไม่มีการเปิดด่านจนกว่าตนเองจะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ ว่า รัฐบาลมีแนวทางอย่างชัดเจนอยู่แล้ว ต้องรอให้การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC และ การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RCB ให้เกิดขึ้นก่อน ซึ่งต้องเป็นไปตามกระบวนการ สำหรับข้อเสนอจากประชาชนบางส่วนที่ต้องการให้สร้างรั้วชายแดนเป็นกำแพงถาวร นายภูมิธรรม ระบุว่า ขอรอการเจรจาก่อน ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ ได้ส่งหนังสือถึงผู้สนับสนุนกัมพูชาให้ยกเลิกการสนับสนุนนั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า ไทยพยายามเสนอข้อเท็จจริง และได้ยื่นประท้วงไปแล้ว ว่าฝ่ายกัมพูชาได้ละเมิดสนธิสัญญาออตตาวา ซึ่งจะเป็นประเด็นหนึ่งที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุม RBC และ GBC ด้วย ทั้งนี้ การยื่นฟ้องต่อองค์กรต่างๆของฝ่ายไทยนั้น รัฐบาลได้ติดตาม และบางองค์กรได้เรียกประชุมเพื่อพูดคุยกัน แม้จะมีกระบวนการทางการทูตอยู่แล้ว แต่ต้องมีการเก็บหลักฐานทั้งหมด และนำมาใช้ในเวลาที่เหมาะสม […]

มทภ.2 เสียใจปมทหารรัวปืน รอตรวจสอบสาเหตุ

15 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” เสียใจ ปมพลทหารทำร้ายชาวบ้าน อยู่ระหว่างเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว รอตรวจสอบสาเหตุ รับการสู้รบส่งผลสภาพจิต-เครียด สั่งผู้บังคับบัญชาดูแลให้ทั่วถึง พร้อมส่งทีมแพทย์ดูแลสภาพจิตใจทหารแนวหน้า 15 ส.ค.2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณี พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง ทำร้ายประชาชนบาดเจ็บ 2 ราย ที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ว่า ต้องขอแสดงความเสียใจกับประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ซึ่งทราบว่าตอนนี้ปลอดภัยแล้ว ตัวน้องทหารที่ก่อเหตุกำลังติดตาม ด้วยการประสานงานการระหว่างทหารตำรวจและฝ่ายปกครอง เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุเพิ่มเติม ตอนนี้กำลังประกบตัวอยู่และจะควบคุมตัวได้ ทราบว่าเบื้องต้นอยู่ระหว่างการเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุว่าน้องทหารคนดังกล่าวได้รับผลกระทบในเรื่องใดบ้าง ต้องดูเหตุผลและให้ความเป็นธรรม ในสภาวะสงคราม มีเรื่องความเครียด ในสนามรบอยู่แล้ว กองทัพจึงจำเป็นต้องเข้าไปดูแลเรื่องสุขภาพจิตของกำลังพลแนวหน้า โดยคณะแพทย์พยาบาลที่จะคอยประเมิน ว่าใครมีความสุ่มเสี่ยง ยอมรับว่าเหตุการณ์ปะทะที่ผ่านมา ส่งผลต่อสุขภาพจิต กองกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ได้เน้นย้ำผู้บังคับหน่วยลงไปดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ทั่วถึง “ได้ส่งทีมแพทย์ไปดูแลกำลังพล โดยเฉพาะคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุการสู้รบ ประเมินว่ากำลังพลใดที่มีเกณฑ์เสี่ยง […]

นบข.เคาะจ่าย “ไร่ละพัน” ทั้งนาปรัง-นาปี

15 ส.ค. – “พิชัย” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ประชุม นบข. เห็นชอบจ่าย “ไร่ละพัน” ทั้งนาปรังและนาปี ช่วยชาวนา เหตุราคาข้าวในตลาดโลกตกต่ำ นายพิชัย ชุณหวชิระ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (นบข.) เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีวาระสำคัญในการพิจารณาช่วยเหลือชาวนาที่ประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ภายหลังการประชุม นายพิชัย เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการช่วยเหลือชาวนาผู้ปลูกข้าวนาปรัง จ่ายเงินสนับสนุนไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ โดยเกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปรังได้ลงทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรแล้วประมาณ 850,000 ราย คาดใช้งบประมาณราว 7,200 ล้านบาท พร้อมวางเงื่อนไขชัดเจนว่าปีหน้ารัฐบาลจะไม่สนับสนุนการปลูกพันธุ์ข้าวที่ตลาดไม่ต้องการ และขอให้เกษตรกรลดพื้นที่ปลูกในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม โดยถือเป็นการช่วยเหลือ “ครั้งสุดท้าย” สำหรับข้าวนาปรัง ขณะที่มาตรการสนับสนุนชาวนาผู้ปลูกข้าวนาปีฤดูกาลผลิตปี 68/69 ก็จะช่วยสนับสนุนตามโครงการไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ เช่นกัน โดยคาดว่าจะมีเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 4.7 […]

เขมรเกณฑ์ชาวบ้านบีบน้ำตากดดันทหารไทยรื้อลวดหนามจุดผ่านแดน

สระแก้ว 15 ส.ค. – กัมพูชาเกณฑ์ชาวบ้านบีบน้ำตากดดันให้ทหารไทยรื้อยางรถยนต์และลวดหนามหีบเพลง บริเวณจุดผ่านแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว บ่ายวานนี้ (14 ส.ค.) บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเจ้าทหารไทยใช้ลวดหนามหีบเพลงและยางรถยนต์ปิดกั้นเส้นทางปยังฝั่งกัมพูชา ต่อมาทหารกัมพูชาเกณฑ์ชาวบ้านเขมรมาเป็นโล่กำบังและกดดันทหารไทยให้รื้อยางรถยนต์และรั้วลวดหนามหีบเพลงออก จุดเส้นทางระหว่างไทย-กัมพูชา ผ่านไปยังบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แต่ทหารไม่ยอม พร้อมยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนอธิปไตยของประเทศไทย สร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวบ้านเขมร จนเกือบเกิดความวุ่นวาย ทหารเขมรยังพยายามเอาคลิป 2 ชาวกัมพูชา ยกมือไหว้ร่ำไห้ขอความเห็นใจให้ทหารชาติอาเซียนดู ขณะสำรวจพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่จุดผ่อนปรนตาพระยา-บึงตะกวน จนมาถึงพื้นที่ อ.โคกสูง และบริเวณบ้านหนองจาน ชายแดน จ.สระแก้ว ที่เดิมทางการไทยเคยเปิดให้ค้าขายกันได้ชั่วคราวก่อนหน้านี้ โดยกัมพูชาระบุว่า ถูกทหารไทยกั้นรั้ว รุกรานที่ทำกิน มรดกเขมร ซึ่งมีเสียงบ่นของคนไทยในพื้นที่ว่าปล่อยปละจนชาวเขมรเหล่านี้เข้ามาหากินเคยตัว คิดว่าเป็นดินแดนตนเอง ทั้งนี้ การเดินทางลงพื้นที่ของคณะผู้ตรวจการณ์ชั่วคราว ซึ่งประกอบด้วยผู้แทน 7 ประเทศ เพื่อดูปัญหาที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าชาวบ้านเขมรเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะทหารไทยปิดกั้นทางข้ามหมู่บ้านและพยายามรุกลํ้าดินแดนกัมพูชา คณะผู้ตรวจการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ประกอบด้วยผู้แทน […]

รพ.พนมดงรักฯ เปิดวันแรก หลังเหตุปะทะ

สุรินทร์ 14 ส.ค. – รพ.พนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดสุรินทร์ เป็น 1 ในจุดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา จนกระทั่งปิดให้บริการมากว่า 20 วัน วันนี้ กลับมาเปิดวันแรก แต่เจ้าหน้าที่หลายคนยังหวาดผวากับเหตุการณ์หลบระเบิดในหลุมหลบภัย 5 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

จรวด BM-21 ที่เขมรยิงใส่บ้านกรวดรวม 252 ลูก

บุรีรัมย์ 14 ส.ค. – พบจรวด BM-21 ที่เขมรยิงเข้ามาในพื้นที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ถึง 252 ลูก ในจำนวนนี้ยังไม่ระเบิด 9 ลูก เจ้าหน้าที่เข้าเก็บกู้ เผยยังขาดแคลนชุดอุปกรณ์ทำลาย บางลูกฝังดินลึก 1-7 เมตร เหตุปะทะไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา อำเภอที่ได้รับผลกระทบมากสุด คือ อ.บ้านกรวด มีจรวดตกในพื้นที่ถึง 252 ลูก ในจำนวนนี้ไม่ระเบิด 9 ลูก เจ้าหน้าที่จึงเข้าเก็บกู้ทำลาย ทั้งนี้พบว่าหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD ยังขาดแคลนและต้องการชุดอุปกรณ์ลากวัตถุต้องสงสัยระยะไกล เพื่อนำมาใช้เก็บกู้ เนื่องจากกระสุนปืนใหญ่และจรวด BM-21 ที่ตกลงมาในพื้นที่ ฝังลึกอยู่ในชั้นผิวดินมากกว่า 1-7 เมตร ยากต่อการเก็บกู้ทำลาย ฝากแจ้งเตือนประชาชน หากพบความผิดปกติบนที่ดิน แจ้งผ่านศูนย์ 191 ทันที ตลอด 24 ชม. เร่งซ่อมบ้าน และวัด […]

ไทยโต้กัมพูชา เรียกร้องหยุดละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-หยุดใช้ทุ่นระเบิด

กทม. 14 ส.ค.-ไทยโต้กัมพูชา เรียกร้องหยุดละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และหยุดใช้ทุ่นระเบิด พร้อมย้ำปฏิบัติต่อเชลยศึกตามหลักสากล จากกรณีมื่อวันที่ 14 สิงหาคม เว็บไซต์ Fresh News รายงานว่า พลโท มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้ออกมาแถลง เรียกร้องให้ไทยเคารพข้อตกลง 13 ข้อ และปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 คน ที่ถูกไทยควบคุมตัวอยู่นั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ฝ่ายไทยขอเรียกร้องกลับไปยังกัมพูชาให้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดด้วย โดยเฉพาะหยุดการใช้อาวุธทุ่นระเบิดสังหารบุคคลต่อฝ่ายไทย และหยุดการเผยแพร่ข่าวสารที่บิดเบือน รวมถึงหยุดการเพิ่มเติมกำลังทหารบริเวณแนวชายแดน ซึ่งขณะนี้ผ่านไปแล้ว 15 วันเช่นกัน ส่วนกรณีเรื่องการควบคุมเชลยศึก ฝ่ายกัมพูชาอาจไม่เข้าใจหลักปฏิบัติในระบบสากล ยืนยันว่าการปฏิบัติของฝ่ายไทยเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นไปตามหลักกฎหมายและหลักมนุษยธรรมสากล อีกทั้งก่อนหน้านี้คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ได้เข้าเยี่ยมเชลยศึกทหารกัมพูชา 18 นาย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีความน่ากังวลใด ๆ จึงขอเรียกร้องให้กัมพูชาเคารพข้อตกลงหยุดยิง และปฏิบัติตามแนวทางทั้ง 13 ข้อให้ครบถ้วน รวมทั้งยึดมั่นในหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา […]

ผอ.สำนักกิจการพลเรือน ยันกำลังพลไม่มีถอย ไม่ยอมเสียพื้นที่ให้กัมพูชา

กรุงเทพฯ 14 ส.ค.-สำนักกิจกรรม ผอ.สำนักกิจการพลเรือน ขอบคุณกำลังใจคนไทยเติมเต็มทหารแนวหน้า ยันกำลังพลไม่มีลดไม่มีถอย พร้อมดูแลแผ่นดินไทย ไม่ยอมเสียพื้นที่ให้กัมพูชาแน่นอน หน่วยงานภาคเอกชน กลุ่มศิลปิน ร้านอาหารชั้นนำ และโรงแรมห้าดาว ร่วมกันแถลงจัดโครงการ “รักแผ่นดิน (Cherish Our Nation)” ภายใต้ความตั้งใจระดมทุนช่วยเหลือครอบครัวของทหารไทยผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมจัดหาอุปกรณ์จำเป็นให้แก่กองทัพไทย โดยงานจะจัดขึ้นในวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 18.00 น. ณ สเฟียร์ ฮอลล์ ชั้น 5ศูนย์การค้า เอ็มสเฟียร์ ร้านอาหารชั้นนำและโรงแรมห้าดาวจะร่วมสร้างสรรค์เมนูพิเศษ รายได้ทั้งหมดจะมอบให้ มูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยไม่หักค่าใช้จ่าย พลตรี พิพัฒน์ จงวัฒนาไพศาล ผู้อำนวยการสำนักกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือนทหารบก กล่าวขอบคุณผู้จัดทำโครงการรักแผ่นดิน ถือเป็นกำลังใจที่ดีให้กับกำลังพลในกองทัพ สิ่งที่เราทำได้ก็คือ เราจะทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นตัวแทนของคนไทย ตั้งใจทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ในฐานะตัวแทนของกำลังพลของกองทัพบก ตัวแทนของผู้ที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ในการดูแลเอกราชอธิปไตยของชาติให้ได้ดีที่สุด ทำหน้าที่นี้ให้เต็มที่และรักษาของประเทศไทยไม่ให้ตกไปเป็นของใครแม้แต่ตารางนิ้วเดียว เป็นพื้นที่ที่บรรพบุรุษของเราได้ดูแลให้กับพวกเราทุกวันนี้ ยืนยันว่ากำลังพลทุกจุดที่ปฎิบัติหน้าที่ดูแลอยู่ในพื้นที่ต่างๆ […]

กัมพูชาพาคณะผู้ตรวจการณ์ลงพื้นที่สระแก้ว กล่าวหาไทยปิดเส้นทาง

สระแก้ว 14 ส.ค.-กัมพูชาพาคณะผู้ตรวจการณ์ 7 ประเทศ ลงพื้นที่ชายแดนสระแก้ว กล่าวหาฝ่ายไทยปิดเส้นทางหมู่บ้านในเขตแดนไทย ฝ่าฝืนข้อตกลงหยุดยิง วันที่ 14 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อช่วงเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา กองทัพกัมพูชาได้จัดคณะลงพื้นที่พร้อมคณะผู้ตรวจการณ์ชั่วคราว (Initial Observation Team-IOT) ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจาก 7 ประเทศสมาชิก ได้แก่ บรูไน, อินโดนีเซีย, ลาว, เมียนมา, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม เดินทางไปยังพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในจังหวัดสระแก้ว เพื่อทำการตรวจสอบและประเมินสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในระยะหลัง เส้นทางการตรวจสอบ คณะได้ลงพื้นที่ 2 จุดหลัก คือ1.จุดผ่านแดนบ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว2.จุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านตาพระยา อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ทั้งสองจุดเป็นพื้นที่ติดแนวเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชา และมีหลักเขตแดนปรากฏชัดเจน สิ่งที่ฝ่ายกัมพูชาชี้ให้ดูกองทัพกัมพูชาได้นำคณะผู้ตรวจการณ์ไปดูยางรถยนต์เก่าและลวดหนามหีบเพลงที่ฝ่ายไทยติดตั้งไว้บริเวณแนวชายแดน โดยอ้างว่าเป็นการปิดกั้นเส้นทางเข้า-ออกของหมู่บ้านชาวกัมพูชาฝั่งตน ซึ่งพวกเขากล่าวหาว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสองประเทศ ข้อเท็จจริงจากฝ่ายไทยแหล่งข่าวฝ่ายไทยยืนยันว่า พื้นที่ที่กัมพูชากล่าวถึงนั้นอยู่ในเขตแผ่นดินไทยตามหลักเขตแดนอย่างชัดเจน การวางยางรถยนต์และลวดหนามเป็นการปฏิบัติภายในอธิปไตยของไทย เพื่อรักษาความมั่นคงและควบคุมการเข้าออกพื้นที่ชายแดน ไม่ได้เป็นการละเมิดข้อตกลงใด […]

“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]

เตือนสติอินฟลูเอนเซอร์ ยึดข้อเท็จจริง-ไม่โพสต์สร้างแตกแยก

สาธิตเกษตร 14 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 เตือนสติ อินฟลูเอนเซอร์ ให้ยึดข้อเท็จจริง ไม่สร้างความแตกแยก หากโพสต์สิ่งที่ไม่ดี ก็อาจมีปัญหาได้ในอนาคต พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีอินฟลูเอนเซอร์ในสื่อสังคมออนไลน์ ใช้ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา รวมถึงการใช้ความแตกแยก มาสร้างกระแสและสร้างรายได้ ควรมีการเตือนให้ปฏิบัติอย่างถูกต้องหรือไม่ ว่าฝากถึงอินฟลูเอนเซอร์ทุกท่าน ให้ทำหน้าที่อยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องของข้อมูลข้อเท็จจริง ไม่สร้างความแตกแยก กระทบต่อความสามัคคีของคนในชาติ ผมคิดว่าพี่น้องประชาชนก็กำลังดูท่านอยู่ หากท่านโพสต์อะไรที่มันเป็นสิ่งที่ไม่ดี ตัวท่านเองก็อาจจะมีปัญหาต่อไปในเรื่องอาชีพของท่าน เพราะฉะนั้นขอให้ดูส่วนรวม การโพสต์ในสิ่งที่ถูกต้องและเพื่อส่วนรวม ผมว่าจะมีความยั่งยืนมากกว่า-313 -สำนักข่าวไทย

1 4 5 6 7 8 64
...