ทั่วไทย

จันทบุรี 14 มิ.ย. – กัมพูชาปิดด่านบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ส่งผลรถบรรทุกสินค้าฝั่งไทย ตกค้างกว่า 100 คัน ขณะผู้ประกอบการค้าชายแดนวอนทั้งสองฝ่ายเร่งเจรจาหาทางออกโดยเร็ว บรรยากาศจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ช่วงเช้า (14 มิ.ย.) ประตูเหล็กฝั่งหน้าด่านกัมพูชา ถูกปิด ไม่ได้เปิดตามเวลา ขณะประตูหน้าด่านฝั่งไทย เปิดปกติตั้งแต่ 08.00 น. มีชาวกัมพูชาประมาณ 500 คน ทยอยเดินทางกลับไปยังฝั่งกัมพูชา โดยมีเจ้าหน้าที่ร่วมสังเกตการณ์และอำนวยความสะดวก ส่วนบริเวณลานจอดรถด่านชั่งน้ำหนัก ตลาดบ้านแหลม รถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถผ่านพรมแดนทางหน้าด่าน จอดตกค้างกว่า 100 คัน พนักงานขับรถบอกว่าขณะนี้รอคำสั่งจากบริษัทว่าจะให้เปลี่ยนเส้นทางเดินรถไปผ่านด่านที่จุดใด แม้จะไม่ได้รับผลกระทบ แต่หากสถานการณ์เป็นแบบนี้ต่อไปอาจจะสร้างความเสียหายที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ อยากให้ทั้งสองฝ่ายเร่งเจรจาหาทางออกโดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย

อ่างทอง 14 มิ.ย.- เยาวชนขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อก ซิ่งด้วยความเร็วสูงบนถนนหลัก ชาวบ้านหวั่นเกิดเหตุไม่คาดคิด ผู้ใช้รถใช้ถนนบันทึกคลิปเหตุการณ์ บนถนนเลี่ยงเมืองใกล้จวนผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พบวัยรุ่นสวมชุดนักเรียนขี่รถจักรยานยนต์ผ่านสี่แยกโพสะ และเลี้ยวเข้าถนน 309 อ่างทอง – อยุธยาผ่านทางเข้ากองบังคับการตำ รวจภูธรจังหวัดอ่างทอง เมื่อช่วงเย็นวานนี้ 13 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวบอกว่าบนถนนเส้นนี้เกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง เนื่องจากมีจุดกลับรถเยอะ และภาพแบบนี้ก็ไม่ได้เห็นกันเป็นครั้งแรก แม้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะจัดโครงการ “โครงการถนนปลอดภัย” ตำรวจภูธรจังหวัดในทุกพื้นที่จะพิจารณาเลือกถนนสายสำคัญรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎหมายจราจรทุกมิติ แต่ก็ยังมีการทำผิดกฎอยู่ทุกวัน อันดับ 1 ที่ผิดเลยคือการไม่สวมหมวกกันน็อก และการซิ่งรถอย่างที่เห็นในคลิป ชาวบ้าน บอกกับสื่อว่า การรณรงค์ด้วยการตั้งด่านจับผู้ไม่สวมหมวกกันน็อกเป็นการแก้ไขปัญหาที่ไม่ถูกจุด จริงๆ แล้วน่าจะแก้ที่ต้นเหตุด้วยการสร้างจิตสำนึกกับเยาวชนและผู้ใช้รถ ส่วนค่าปรับที่สูงก็ทำให้ประชาชนที่หาเช้ากินค่ำเดือดร้อน .-สำนักข่าวไทย

สมุทรปราการ 14 มิ.ย.- รวบคาห้องเช่า หญิงวัย 55 ตระเวนฉกเงินทอนร้านสะดวกซื้อ พบก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง เจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ คือ น.ส.น้ำผึ้ง อายุ 55 ปี และติดตามจับกุมได้คาห้องเช่าแห่งหนึ่ง ในซอยสุขุมวิท 76 ตำบล สำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ โดยพฤติการณ์ จะแต่งตัวปิดหน้าใส่หน้ากาก ทำให้จดจำหน้าได้ยาก และใช้กลอุบายหลอกลวงพนักงานร้านสะดวกซื้อ ที่อายุน้อยเป็นเหยื่อ ทำทีเลือกซื้อสินค้าราคาถูก จากนั้นจะจ่ายเงินด้วยธนบัตร 1,000 บาท เพื่อให้พนักงานทอนเงิน เมื่อผู้ต้องหาได้รับเงินทอน จะแอบเก็บเงินทอนบางส่วน จากนั้นออกอุบายโวยวายว่าได้เงินทอนไม่ครบ และอ้างว่าสินค้าราคาสูงขึ้นจากที่เคยซื้อ จากนั้นจะขอยกเลิกไม่ซื้อ และให้พนักงานคืนเงินทั้งหมด ตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาก่อเหตุกับร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ พระนครอยุธยา ปทุมธานี และกรุงเทพฯ มาแล้วหลายครั้ง .-สำนักข่าวไทย