18 หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้แถลงผลสรุปการตรวจสอบคดีที่อัยการไม่สั่งฟ้อง “วรยุทธ อยู่วิทยา”
17 “สิระ”โชว์แฟลชไดรฟ์ตบทรัพย์
23 ทำเนียบฯ 1 ก.ย. – น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ย้ำจุดยืนยังชัดเจน สารพาราควอตและคลอไพรีฟอสผิดกฎหมาย ขณะนี้คณะกรรมการวัตถุอันตรายยังไม่มีมติเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ถ้ายังมีการฝ่าฝืนก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับการร้องเรียน ว่าประชาชนได้รับผลกระทบ และเดือดร้อนจากการยกเลิกการใช้สารดังกล่าว “คำกล่าวอ้างที่ว่าไม่สามารถเลิกใช้สารดังกล่าวได้ ขอให้ชี้แจงเหตุผลให้ชัดเจน อย่ากล่าวอ้างเลื่อนลอย และหากต้องการความช่วยเหลือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมเข้าไปดูแล สนับสนุน ทดแทนในส่วนที่ขาดหาย เพื่อบรรเทาผลกระทบของเกษตรกร” น.ส.มนัญญา กล่าว ส่วนการเคลื่อนไหวเพื่อผลักดันให้ยกเลิกแบน 3 สารวัตถุอันตราย จะเกี่ยวโยงกับผลประโยชน์และเรื่องทางการเมืองหรือไม่นั้น น.ส.มนัญญา กล่าวว่า ไม่ขอให้ความเห็น เพราะไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เพียงแต่กล่าวว่าเรื่องนี้มีความซับซ้อน .- สำนักข่าวไทย
17 อิสราเอลประกาศคนไทยไม่ต้องกักตัว 14 วัน
27 ทร.เสียสละตัดงบ 2 ปีซ้อน
16 นายกฯ ให้นโยบายกองทัพเรือไปคุยจีน ขอชะลอซื้อเรือดำน้ำออกไปก่อน ระบุงบที่ตัดไปต้องส่งคืนคลัง ไปใช้อย่างอื่นไม่ได้ วอนเข้าใจมี 2 บทบาททั้งนายกฯ-รมว.กห. หลังพรรคเพื่อไทยกล่าวหาครอบงำฝ่ายนิติบัญญัติ
26 เตรียมนำโผทหารขึ้นทูลเกล้าฯ
27 นายกรัฐมนตรี ตอกกลับเพื่อไทย ปมเหมืองทองอัครา ชี้ รัฐบาลก่อนไม่เคยแก้ไข ตนเป็นคนเข้ามาแก้ปัญหา เผยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนอนุญาโตตุลาการ ลั่นไม่เคยได้อะไรจากการเป็นนายกรัฐมนตรี ย้ำ ทำทุกอย่างเพื่อประชาชน
110 ทร.ถอยแล้ว ยังไม่ซื้อเรือดำน้ำ
41 กลาโหม 31 ส.ค.-นายกรัฐมนตรีเชื่อเอาอยู่กลุ่มประชาชนปลดเเอกชุมนุมใหญ่ 19 ก.ย.นี้ ย้ำทุกอย่างมีกฎหมายดูแล วอนฟังความ 2 ฝ่าย ขออย่าทำประเทศเสียหาย เชื่อหลายคนไม่อยากให้เกิดความรุนแรง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มประชาชนปลดแอกที่ประกาศจะยกระดับและมีการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 กันยายนนี้ ว่า ตนยังไม่เห็นว่าจะมีความรุนแรงอย่างไร ทุกอย่างมีกฎหมายดูแลอยู่แล้ว และเชื่อว่าหลายคนไม่อยากให้เกิดความรุนแรง ดังนั้นจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างสงบเรียบร้อยอยู่ในกรอบ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็แล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ไม่ได้มีการเตรียมทางออกอะไรไว้ ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมตั้งเป้าว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมนั้น ต้องดูตามความเหมาะสมว่าควรหรือไม่ “คนไทยมี 67 ล้านคน และคนเหล่านี้เป็นใครบ้าง แม้หลายคนออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง แต่ทุกอย่างต้องว่าไปตามหลักฐานที่ปรากฏ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการตรวจสอบต่อ ที่พูดไม่ได้ต้องการข่มขู่ใคร และยืนยันว่ารัฐบาลยินดีรับฟังความคิดเห็นทุกฝ่าย เพราะที่ผ่านมาได้รับฟังความคิดเห็นจากนักศึกษาทั่วประเทศ เพื่อต้องการเดินหน้า แต่ในเมื่ออีกฝ่ายต้องการให้ประเทศหยุดอยู่กับที่แล้วจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร” นายกรัฐมนตรี กล่าว ส่วนการชุมนุมที่ผ่านมาถือว่ายังอยู่ในกรอบที่รัฐบาลควบคุมได้หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาก็ดำเนินการแบบนั้น ตนไม่จำเป็นต้องสั่งใคร เพราะทุกเรื่องมีหน่วยงานดูแลอยู่แล้ว เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับภาพที่ผู้ชุมนุมมีการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าตำรวจที่ สน.สำราญราษฎร์ นายกรัฐมนตรี ถามกลับผู้สื่อข่าวว่า สมควรหรือไม่ […]
22 รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หารือนโยบายกับราชบัณฑิตยสภา กำหนดทิศทางและรับฟังการทำงาน พร้อมนำความเห็นด้านต่าง ๆ จากราชบัณฑิตฯ นำไปสู่การพัฒนาประเทศต่อไป
26 เตรียมตั้งคณะกรรมการดำเนินการต่อ ขออย่ามองว่าระบบล้มเหลว เป็นเรื่องบกพร่องของบุคคล
