
ปรีดี ยื่นหนังสือลาออกกับนายกฯ แล้ว
“วิษณุ” ยังไม่ทราบข่าว “ปรีดี” ลาออกจากตำแหน่ง แต่ทราบว่า มีปัญหาสุขภาพ ระบุ หากลาออกจริง ไม่น่ามาจากความขัดแย้งการแต่งตั้งข้าราชการในกระทรวง “ปรีดี” ยื่นหนังสือลาออกกับนายกฯ แล้ว
“วิษณุ” ยังไม่ทราบข่าว “ปรีดี” ลาออกจากตำแหน่ง แต่ทราบว่า มีปัญหาสุขภาพ ระบุ หากลาออกจริง ไม่น่ามาจากความขัดแย้งการแต่งตั้งข้าราชการในกระทรวง “ปรีดี” ยื่นหนังสือลาออกกับนายกฯ แล้ว
ทำเนียบฯ 1 ก.ย.-นายกรัฐมนตรีเตรียมเดินทางลงพื้นที่ จ.สุโขทัย พรุ่งนี้ (2 ก.ย.) มอบถุงยังชีพและให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย พร้อมตรวจเยี่ยมพื้นที่น้ำกัดเซาะเสียหาย นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ ครม.วันนี้ (1 ก.ย.) กระทรวงมหาดไทยรายงานสถานการณ์สาธารณภัย เมื่อวันที่ 20-31 สิงหาคม 2563 ว่าเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินโคลนถล่ม 17 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก มีประชาชนได้รับผลกระทบประมาณ 20,000 ครัวเรือน ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วและอยู่ระหว่างการฟื้นฟู ทั้งนี้แจ้งเตือนประชาชน โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ในวันที่ 5-6 กันยายนนี้ นายอนุชา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยผู้ประสบอุทกภัย จึงจะลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัยในวันพรุ่งนี้ (2 ก.ย.) เพื่อให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย พร้อมติดตามการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผลกระทบที่เกิดขึ้น […]
รัฐสภา 1 ก.ย.- นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง ปัญหาท่อรับน้ำแตก ส่งผลน้ำทะลักท่วมในอาคารรัฐสภา เช้าวันนี้ (1 ก.ย.) ว่าได้รับรายงานจากนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แล้ว และขอชี้แจงว่าการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งนี้ มีมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ไม่ใช่ 1 แสนล้านตามที่เป็นข่าว และขณะนี้ยังก่อสร้างไม่เสร็จ ล่าสุดวานนี้ (31ส.ค.) ได้ไปตรวจสอบการก่อสร้าง ซึ่งมีความก้าวหน้าไปพอสมควร และที่ค่อนข้างเรียบร้อยแล้ว คือห้องทำงานของคณะกรรมาธิการ เมื่อครบสัญญาในสิ้นปีนี้ จะไม่มีการต่อสัญญาอีก ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาเกิดขึ้นอีก ขณะนี้ ทราบมาว่าผู้รับเหมาระดมคนงานกว่า 4,000 คน มาเร่งก่อสร้างให้เสร็จ ซึ่งก็จะทำงานได้เร็วขึ้น “ยังมีเวลาตั้งแต่เดือนนี้จนถึงเดือนธันวาคม งานหลักๆ ก็ผ่านไปแล้ว แต่ยอมรับว่าอาคารรัฐสภายังมีจุดอ่อน และข้อบกพร่องอยู่มาก แต่คงต้องรอให้การก่อสร้างแล้วเสร็จก่อน ขณะนี้ยังไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เพราะเป็นเรื่องของสัญญา แต่เมื่อครบสัญญา จะต้องเข้าไปตรวจดูว่ามีจุดใดต้องแก้ไขบ้าง เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงผู้รับเหมาดูแลรับผิดชอบ ไม่เกี่ยวกับรัฐสภา” นายชวน กล่าว .- สำนักข่าวไทย
นายกฯ เหน็บอย่าเอาแต่พูดน้ำรอระบาย
รัฐสภา 1 ก.ย.-ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล 206 คน ลงชื่อยื่นญัตติร่างแก้ไข รธน.แล้ว “วิรัช” ยอมรับสัญญาณจาก ส.ว.ยังไม่ค่อยดี ต้องรอฟังการอภิปราย 23-24 ก.ย.นี้ พรรคร่วมรัฐบาลนำโดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ( วิปรัฐบาล) พร้อมตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาล ยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พร้อมรายชื่อ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลที่สนับสนุนจำนวน 206 รายชื่อต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ซึ่งนายชวน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเข้ามาแล้ว และจะนำบรรจุเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมร่วมของรัฐสภาพร้อมกัน นายวิรัช กล่าวว่า การยื่นแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญเพียงร่างเดียวในนามพรรคร่วมรัฐบาล สะท้อนว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังเหนียวแน่น และหากที่ประชุมรัฐสภารับหลักการจะตั้งกรรมาธิการร่วมทั้งคณะรัฐมนตรี ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ว.มาร่วมกันปรับแก้ในวาระที่ 2 ซึ่งเบื้องต้นประสานงานกับทาง ส.ว.เป็นการภายในเป็นระยะๆ แล้ว แต่ยอมรับว่าสัญญาณยังไม่ค่อยชัดเจนว่าจะได้รับการสนับสนุนมากน้อยเพียงใด จึงต้องรอการอภิปรายของส.ส.และ ส.ว.ในการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 23-24 กันยายนนี้ก่อน เพราะไม่อยากไปเร่งรัดขอความชัดเจนจาก ส.ว. “ตามร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากมีประเด็นใดที่สามารถปรับแก้ได้ก็พร้อมดำเนินการ เนื่องจากหากรัฐบาลไม่ฟังเสียง ส.ว.จะไม่สามารถเดินหน้าแก้ไขได้ จึงต้องดำเนินการอย่างเป็นกลาง […]
ทำเนียบฯ 1 ก.ย.-นายกฯ ยอมรับกังวลโควิด-19 ระบาดรอบ 2 สั่งเพิ่มความเข้มงวดตามแนวชายแดน ป้องกันการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างด้าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีการลักลอบเดินทางเข้าประเทศไทยของแรงงานต่างด้าวที่อาจจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบ 2 โดยยอมรับว่า ตนวิตกกังวลและได้กำชับให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราตามแนวชายแดน มีการตั้งจุดตรวจสกัดกั้นการลักลอบเข้ามาในประเทศไทย พร้อมทั้งให้มีการเพิ่มกำลังตามแนวลำน้ำในกรณีอาจมีการว่ายน้ำข้ามแดนเข้ามายังไทยด้วย ส่วนกรณีที่โรงเรียนตามแนวชายแดน ทั้งจังหวัดกาญจนบุรีและประจวบคีรีขันธ์ สั่งปิดโรงเรียน เนื่องพบว่ามีเด็กนักเรียนหลายคนมีไข้สูงนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บางโรงเรียนจำเป็นต้องปิดโรงเรียนไว้ก่อน เพื่อดำเนินการตรวจสอบ ส่วนกรณีพบมีชาวเมียนมาหนีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เข้ามาในไทยนั้น ทางโรงพยาบาลได้รับไปรักษาตัวแล้ว ซึ่งการลักลอบเข้ามาในไทยต้องมีการติดตามจับกุมและดำเนินคดีตามกฏหมาย “ได้ติดตามข้อมูลการแพร่ระบาดของประเทศเพื่อนบ้านอยู่ตลอด ผ่านทาง ศบค. และได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มงวดในทุกช่องทาง ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ พร้อมกับฝากให้คนไทยทุกคนช่วยกันเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น แม้ไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศนานกว่า 3 เดือน แต่อาจมีโอกาสเกิดขึ้นได้ เพราะในต่างประเทศที่ไม่พบเชื้อมานานกว่า 100 วันก็ยังกลับมาพบผู้ติดเชื้อในประเทศได้ แต่ทางรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมไว้รองรับ ทั้งสถานพยาบาลและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงการเตรียมงบประมาณสำหรับการพัฒนาวัคซีนร่วมกับต่างประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย
ทำเนียบฯ 1 ส.ค. – น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2563 เพิ่มเติมงบกลาง รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น วงเงิน 883 ล้านบาท ให้กับสํานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดําเนินการจัดทําพื้นที่กักกันโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) ในส่วนของสถานที่เอกชน สําหรับแก้ปัญหาการแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19) ระยะที่ 3 ซึ่งเป็นไปตามมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กำหนดให้คนไทยทุกคนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศจะต้องเข้าพัก ณ พื้นที่ กักกันโรคแห่งรัฐทันทีเป็นเวลา 14 วัน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายจัดทำพื้นที่กักกันโรคแห่งรัฐ จำนวน 41,514 คน สำหรับรายละเอียดค่าใช้จ่ายแยกเป็น ดังนี้ ค่าตอบแทนบุคลากร 32 ล้านบาท ค่าเช่าที่พักและค่าอาหารของเจ้าหน้าที่ 91 ล้านบาท ค่าเช่าที่พักและค่าอาหารของผู้ถูกกักกันโรค 747 ล้านบาท ค่าวัสดุการแพทย์ 621,000 บาท ค่าจ้างเหมา 8 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายยานพาหนะในภารกิจโควิด-19 […]
ป.ป.ช. เปิดบัญชี “ฐากร” หลังพ้นตำแหน่ง เลขาฯ กสทช. รวย 76 ล้าน มีนาฬิกาหรู-กระเป๋าแบรนด์เนมเพียบ ฟันเงินเดือน 3 ปีครึ่ง 13 ล้าน แจ้งรายได้ขายบ้าน-รับเงินกู้
ทำเนียบฯ 1 ก.ย.- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงนามให้ทบทวนการแบน 3 สารพิษ พาราควอต คลอไพรีฟอส และไกลโฟเซต ขณะที่ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินหน้าประกาศแบน 3 สารพิษ ว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบต่อพรรคร่วมรัฐบาล เพราะการทำงานมีความคิดเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น ต้องพยายามเข้าใจซึ่งกันและกัน ถ้าคิดต่างกันก็ต้องฟังเหตุผล เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้อง “ยืนยัน รัฐบาลจะต้องเลือกวิธีที่ดีที่สุด เพื่อชีวิตของเกษตรกร และความปลอดภัยของผู้บริโภค ผู้รับผิดชอบแต่ละส่วนจะต้องจัดการให้ชัดเจน ไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ยึดสวัสดิภาพของประชาชนเป็นที่ตั้ง และต้องดูว่าการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนผ่านทำได้ทันที หรือต้องเป็นขั้นตอน ต้องรับฟังหลายส่วนให้เกิดความปลอดภัย และปฎิบัติหน้าที่ด้วยความจริงจัง ตามมติต่างๆ ที่ออกมา ถ้าขัดแย้งทั้งหมด ก็จะทำอะไรไม่ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว .- สำนักข่าวไทย
“อนุทิน” ย้ำจุดยืนสธ.ไม่เอาสารอันตราย
“วิชา” แถลงผลสอบคดีบอส พบการทำสำนวนไม่สุจริต มีการสมยอม ควรสอบสวนใหม่ทั้งหมด พร้อมแก้กฎหมายให้สามารถเอาผิดในคดีที่หมดอายุความ พบเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องถูกดำเนินการทางวินัยและอาญากว่า 10 คน
ตั้งข้อสังเกต หลายคนทำหน้าที่มีสิ่งแอบแฝง ขอยึดหลักความรับผิดชอบ จริยธรรม