สธ.แนะร่วมงานบุญออกพรรษาอย่างปลอดภัย

กรมอนามัย 20 ต.ค.-กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะออกพรรษาปีนี้ขอให้ประชาชนคุมเข้มระยะห่าง ลดความแออัด กลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงอาจเลี่ยงด้วยการอยู่บ้านทำบุญ ฟังเทศน์ ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาผ่านช่องทางออนไลน์แทน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า วันทำบุญออกพรรษาในแต่ละปีประชาชนยังคงนิยมไปวัดทำบุญตักบาตรเพื่อความเป็นสิริมงคล แต่สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงต้องระมัดระวังตนเองเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นกลุ่มเปราะบางและมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย จึงอาจจะต้องปรับเปลี่ยนมาเป็นให้ลูกหลานใช้สื่อออนไลน์ในการเข้าร่วมกิจกรรมให้กับผู้สูงอายุแทนการเข้าวัด เช่น การฟังเทศน์ ปฏิบัติธรรมและพิธีกรรมทางศาสนาแบบออนไลน์ หรือการบริจาคปัจจัยผ่านคิวอาร์โค้ด เพื่อลดการสัมผัสกับธนบัตร เหรียญ หรือสิ่งของบริจาคต่าง ๆ และลดจำนวนผู้เข้าร่วมในพิธีกรรมทางศาสนา สำหรับวัดและกลุ่มประชาชนทั่วไปยังขอความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting อย่างเคร่องครัดทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 COVID Free Environment สิ่งแวดล้อมปลอดภัย ควบคุมการเข้า–ออก มีจุดคัดกรอง และจุดบริการล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล พร้อมจัดให้มีหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ใช้ระยะเวลาในการจัดงานให้สั้นที่สุด ด้านที่ 2 COVID Free Personnel ผู้จัดงานหรือเจ้าภาพ ผู้ประกอบพิธี หรือผู้นำพิธีและพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาการจัดงาน ควรได้รับการฉีดวัคซีนครบ […]

ส่งมอบไฟเซอร์ให้สถาบันการศึกษาแล้ว 4.5 ล้านโดส

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยข้อมูลการส่งมอบวัคซีนไฟเซอร์สำหรับนักเรียน ให้กับสถาบันการศึกษาแล้ว 4.5 ล้านโดส ซึ่งจำนวนดังกล่าวเพียงพอต่อการฉีดเข็มที่ 1 ให้ทันก่อนเปิดเรียนในวันที่ 1 พ.ย. 64 อย่างแน่นอน และจะเร่งดำเนินการจัดสรรวัคซีนเข็มที่ 2 เพื่อให้ทันภายใน 3-4 สัปดาห์หลังจากฉีดเข็มแรก

เผยอินเดียจะเลื่อนส่งมอบวัคซีนโควิดให้โครงการโคแวกซ์

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เผยนามสองรายที่ระบุวันนี้ว่า อินเดียจะเลื่อนการส่งมอบวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้โครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลก หลังจากที่เมื่อวานนี้องค์การอนามัยโลกเผยว่าไม่สามารถลดขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อประกาศรับรองวัคซีนโควาซินที่อินเดียผลิตขึ้นเองในประเทศได้

อังกฤษพบนักเรียนติดโควิดเพิ่มขึ้นหลังฉีดวัคซีนล่าช้า

ลอนดอน 19 ต.ค. – อังกฤษพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในกลุ่มเด็กนักเรียนมากขึ้น เป็นเหตุให้ยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศเพิ่มสูงขึ้น และทำให้นักวิทยาศาสตร์บางคนรู้สึกเป็นกังวลกับการฉีดวัคซีนที่ล่าช้าเกินไปในโรงเรียนและอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสวัสดิภาพของเด็กและผู้ใหญ่ นายลอว์เรนซ์ ยัง นักไวรัสวิทยาของมหาวิทยาลัยวอริกของอังกฤษเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงในตอนนี้เริ่มชัดเจนขึ้นแล้วว่า แผนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดให้เด็กอายุ 12-15 ปีไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดกลายพันธุ์อื่น ๆ อาจทำให้ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ หรือเอ็นเอชเอส ต้องรับมือกับสถานการณ์ระบาดรุนแรงในช่วงฤดูหนาวนี้ หากเชื้อโควิดแพร่กระจายไปสู่กลุ่มผู้สูงวัยและผู้ที่มีโรคประจำตัว สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ของอังกฤษกำลังพุ่งสูงขึ้นมากกว่าประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรป ขณะที่ผลสำรวจเมื่อวันศุกร์ชี้ว่า ความชุกของโรคโควิด-19 ในอังกฤษแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้ และมีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษามากถึงร้อยละ 8 ที่ติดเชื้อโควิด นอกจากนี้ อังกฤษยังมีอัตราฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กอายุ 12-15 ปีต่ำกว่าหลายประเทศในทวีปยุโรปเช่นกัน และยังน้อยกว่าสกอตแลนด์อีกด้วย. -สำนักข่าวไทย

เปิด รพ.สนามเลิดสิน รองรับโควิดช่วงเปิดประเทศ

รมว.สธ. เปิด รพ.สนามเลิดสิน รองรับโควิดช่วงเปิดประเทศ เชื่อสถานการณ์โควิดระบบสาธารณสุขไม่หวนเลวร้าย เพราะมีระบบ HI และ CI ส่วนยา “โมลนูพิราเวียร์” คาดเสนอ ครม.จัดซื้อสัปดาห์หน้า ส่วน ผอ.เลิดสิน เผยตั้งแต่มีโควิด เกิดผู้ป่วยตกค้างรอรักษามากถึง 3,000 คน

หญิงมีครรภ์ไทยเสียชีวิตจากโควิดอันดับ 1 รอบปีที่ผ่านมา

สธ.19 ต.ค.-ครั้งแรกสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของสตรีมีครรภ์ไทย คือโควิด-19 ช่วงปีที่ผ่านมามากถึง 192 ราย นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย แถลงว่า สถานการณ์ทั่วโลกในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่าสตรีมีครรภ์ติดเชื้อโควิด เพิ่มมากขึ้น ร้อยละ 50-60 จากภาวะปกติทำให้โควิด-19 เป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของสตรีมีครรภ์ในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย โดยในยุโรปและอเมริกาพบว่าโควิดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของสตรีมีครรภ์หรือ1 ใน 4 เสียชีวิตจากโควิด เช่นเดียวกับในประเทศไทยตั้งแต่ ตุลาคม2563 ถึงกันยายน 2564 ในช่วงโควิดระบาดระลอก 2-4 พบว่าสตรีมีครรภ์เสียชีวิตทั้งหมด 192 คนในจำนวนนี้เสียชีวิตจากโควิดถึง 78 คน หรือคิดเป็นอัตราการเสียชีวิตจากโควิดถึงร้อยละ 40 ที่เหลือเป็นการเสียชีวิตจากสาเหตุอื่นเช่นตกเลือด ขณะที่ตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงปัจจุบันมีสตรีมีครรภ์ติดเชื้อโควิดถึง 4,778 ราย มีทารกติดเชื้อจากแม่ 226 ราย ในจำนวนนี้แม่เสียชีวิต 95 รายทำให้มีลูกเสียชีวิตด้วยกันกับแม่ถึงครึ่งหนึ่งหรือ 46 ราย […]

WHO หวังซื้อยารักษาโควิดคอร์สละ 10 USD

บรัสเซลส์ 19 ต.ค.- รอยเตอร์อ้างร่างเอกสารว่า โครงการนำโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ต้องการให้ประเทศยากจนเข้าถึงวัคซีน การตรวจและยารักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ต้องการได้ยารักษาในราคาคอร์สละ 10 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 330 บาท) รอยเตอร์รายงานว่า ร่างเอกสารลงวันที่ 13 ตุลาคมได้กำหนดเป้าหมายของโครงการตัวเร่งในการเข้าถึงเครื่องมือโควิด-19 (ACT-A) จนถึงเดือนกันยายน 2565 ว่า ต้องการส่งมอบชุดตรวจให้แก่ประเทศยากจนประมาณ 1,000 ล้านชุด และจัดหายารักษาให้แก่ผู้ติดเชื้อสูงสุด 120 ล้านคนจากทั้งหมด 200 ล้านคนที่คาดว่าจะเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ร่างเอกสารไม่ได้ระบุชื่อ โมลนูพิราเวียร์ ซึ่งเป็นยารักษาโควิดที่อยู่ระหว่างการทดลองของเมอร์ค บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ แต่คาดหวังไว้ว่า จะสามารถซื้อยาต้านไวรัสชนิดรับประทานแบบใหม่ให้แก่ผู้ป่วยอาการปานกลางได้ในราคาคอร์สละ 10 ดอลลาร์สหรัฐ ตั้งเป้าบรรลุข้อตกลงซื้อยาภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน และหวังว่าจะมียาให้จัดสรรตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2565 รอยเตอร์ระบุว่า โครงการนี้กำลังเจรจาซื้อยารักษากับเมอร์คและบริษัทผู้ผลิตยาสามัญ หากซื้อได้ในราคาคอร์สละ 10 ดอลลาร์สหรัฐจะถือว่าถูกมาก เพราะสหรัฐตกลงจะซื้อในราคาคอร์สละ 700 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 23,320 […]

หมอเตือนนักเที่ยวการ์ดอย่าตก หวั่นซ้ำรอยผับทองหล่อ

แพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เตือนนักเที่ยว อย่าการ์ดตก ทำให้ส่วนรวมเดือดร้อน ซ้ำรอยเหตุที่ “ผับทองหล่อ” ต้นตอโควิดระบาดใหญ่ พร้อมย้ำเหตุจำเป็นที่ต้องเร่งเปิดประเทศ

CNN วิจารณ์บางสื่อบิดเบือนข่าวโคลิน พาวเวลล์

สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น (CNN) ของสหรัฐวิจารณ์สื่อสายอนุรักษ์นิยมบางแห่งว่า นำข่าวการเสียชีวิตของพลเอกโคลิน พาวเวลล์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ มาบิดเบือนให้คนสงสัยในประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19

สหรัฐเพิ่ม “สิงคโปร์” อยู่ในระดับเสี่ยงโควิดสูงสุด

สหรัฐปรับขึ้นระดับคำแนะนำการเดินทางไปยังสิงคโปร์เป็นระดับ 4 ซึ่งมีความเสี่ยงของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สูงสุด และเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปสิงคโปร์ ขณะที่ไทยยังคงอยู่ในระดับ 4 เช่นกัน

คาดสหรัฐจะอนุมัติให้ฉีดวัคซีนโควิดต่างชนิดเป็นเข็มสาม

วอชิงตัน 19 ต.ค. – สื่อสหรัฐรายงานว่า สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ หรือเอฟดีเอ เตรียมอนุมัติให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ต่างชนิดเป็นเข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้แพทย์และเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้ฉีดวัคซีน หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เผยนามของเอฟดีเอว่า รัฐบาลสหรัฐจะไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนสูตรไขว้ และอาจตั้งข้อสังเกตว่าการใช้วัคซีนชนิดเดียวกันเป็นเข็มกระตุ้นจะดีกว่าการฉีดวัคซีนแบบผสม แต่จะให้ผู้ให้บริการฉีดวัคซีนใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจฉีดวัคซีนต่างชนิดได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐได้เรียกร้องมาตลอดหลายสัปดาห์ ข่าวเรื่องนี้มีขึ้นหลังจากคณะนักวิจัยได้นำเสนอผลการศึกษาการฉีดวัคซีนแบบผสมที่ได้รับทุนจากรัฐบาลกลางต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่เป็นที่ปรึกษาของเอฟดีเอเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผลการศึกษาดังกล่าวพบว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ซึ่งเป็นวัคซีนโดสเดียว และได้รับวัคซีนของโมเดอร์นาเป็นเข็มกระตุ้น มีระดับภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นถึง 76 เท่าในเวลา 15 วัน เมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีนของจอห์สันแอนด์จอห์สันเป็นเข็มกระตุ้นที่ทำให้มีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นเพียง 4 เท่า นิวยอร์กไทมส์ยังรายงานเพิ่มเติมว่า หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐตั้งเป้าที่จะขยายสิทธิเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่สามให้ประชาชนเป็นจำนวนมากในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าเอฟดีเอจะอนุมัติให้ใช้วัคซีนของโมเดอร์นาและจอห์นสันแอนด์จอห์นสันเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นภายในช่วงค่ำวันพุธตามเวลาท้องถิ่น และอาจอนุญาตให้ฉีดวัคซีนแบบผสมหลังจากนั้น ทั้งนี้ คณะกรรมการที่ปรึกษาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี จะประชุมเรื่องการฉีดวัคซีนเข็มที่สามในวันพฤหัสบดีเพื่อประกาศคำแนะนำในการฉีดวัคซีน ซึ่งจะทำให้ชาวอเมริกันหลายสิบล้านคนมีสิทธิเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภายในสุดสัปดาห์นี้. -สำนักข่าวไทย

สิงคโปร์จะไม่กักตัวคนจากอีก 8 ประเทศถ้าฉีดวัคซีนครบ

สิงคโปร์จะอนุญาตให้นักเดินทางต่างชาติจากอีก 8 ประเทศ ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ครบสองโดส เข้าสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันอังคารเป็นต้นไป ตามนโยบายผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ และเดินหน้าสู่ยุทธศาสตร์ใช้ชีวิตร่วมกับเชื้อโควิด

1 126 127 128 129 130 1,427
...