ส่งมอบไฟเซอร์ให้สถาบันการศึกษาแล้ว 4.5 ล้านโดส

สธ. 19 ต.ค.-กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยข้อมูลการส่งมอบวัคซีนไฟเซอร์สำหรับนักเรียน ให้กับสถาบันการศึกษาแล้ว 4.5 ล้านโดส ซึ่งจำนวนดังกล่าวเพียงพอต่อการฉีดเข็มที่ 1 ให้ทันก่อนเปิดเรียนในวันที่ 1 พ.ย. 64 อย่างแน่นอน และจะเร่งดำเนินการจัดสรรวัคซีนเข็มที่ 2 เพื่อให้ทันภายใน 3-4 สัปดาห์หลังจากฉีดเข็มแรก

วันนี้ (19 ตุลาคม 2564) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า การฉีดวัคซีน เป็นอีกเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด ซึ่งกรมควบคุมโรคพร้อมให้การสนับสนุนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ในกลุ่มนักเรียน ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ขึ้นทะเบียน และอนุมัติให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์ในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปได้ โดยกำหนดให้บริการฉีดวัคซีนผ่านสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ได้แก่ โรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดรัฐบาลและเอกชน สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โรงเรียนพระปริยัติธรรม สถาบันการศึกษาปอเนาะ เป็นต้น


จากข้อมูลการสำรวจของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศในวันที่ 14 ตุลาคม 2564 มีนักเรียนแสดงความประสงค์ต้องการฉีดวัคซีน จำนวน 4.07 ล้านคน กรมควบคุมโรคได้ส่งมอบวัคซีนไฟเซอร์สำหรับฉีดเข็มที่ 1 ในนักเรียน นักศึกษาที่มีอายุ 12-17 ปี ให้กับสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ครบตามแผนการจัดสรร รวมถึงสนับสนุนวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ระบาดจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 3 ลอต รวม 4.5 ล้านโดส โดยลอตที่ 1 จำนวน 1.9 ล้านโดส (ส่งถึงพื้นที่แล้ว) ลอตที่ 2 จำนวน 1.5 ล้านโดส (ส่งถึงพื้นที่แล้ว) และลอตที่ 3 จำนวน 1.1 ล้านโดส (อยู่ระหว่างการจัดส่ง)
นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้สถานศึกษาและโรงพยาบาลที่จะนัดนักเรียนมาฉีดวัคซีน ให้กำหนดวันนัดหลังจากที่จุดบริการฉีดได้รับวัคซีนแล้ว เพื่อป้องการคลาดเคลื่อน ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ให้กับนักเรียนทั่วประเทศนั้น กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งดำเนินการในระยะต่อไป โดยจะฉีดห่างจากเข็มแรกประมาณ 3-4 สัปดาห์ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนทุกคนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคลขั้นสูงสุดแบบครอบจักรวาลควบคู่กันไปด้วย เช่น ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง เป็นต้น จะส่งผลให้การป้องกันควบคุมโรคเกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.เพื่อไทย

“อนุสรณ์” ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.พรรคเพื่อไทย เชื่อมนต์ขลัง “ทักษิณ”-ผลงานรัฐบาลแพทองธาร เป็นปัจจัยความสำเร็จ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม