เกาะติดสถานการณ์ไวรัสโคโรนา

แคนเบอร์รา 1 พ.ย.- ออสเตรเลียเปิดพรมแดนประเทศแล้วในวันนี้ หลังจากปิดมานาน 20 เดือน หลังจากมั่นใจว่าอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศสูงมากพอที่จะลดความเสี่ยงติดเชื้อจากผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ชาวออสเตรเลียหลายคนร่ำไห้ดีใจที่ได้พบหน้าครอบครัวอีกครั้ง และได้กลับบ้านโดยไม่ต้องกักโรคที่โรงแรมเป็นเวลา 2 สัปดาห์หากฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ขณะที่พลเมืองออสเตรเลียและผู้มีสิทธิพำนักถาวรในออสเตรเลียที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตจากรัฐบาลเป็นกรณีพิเศษ หลังจากออสเตรเลียปิดพรมแดนมาตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2563 นครซิดนีย์ เมืองเอกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ เป็นแห่งแรกของประเทศที่ประกาศว่า จะเปิดท่าอากาศยานให้คนเดินทางเข้าออกประเทศได้ตั้งแต่วันนี้ เพราะเป็นรัฐแรกของประเทศที่ประชากรวัย 16 ปีขึ้นไป ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วร้อยละ 80 ตามด้วยนครเมลเบิร์น เมืองเอกของรัฐวิกตอเรีย และกรุงแคนเบอร์รา ที่ประกาศเปิดท่าอากาศยานในวันนี้เช่นเดียวกัน เพราะมีอัตราฉีดวัคซีนครบร้อยละ 80 แล้วเช่นกัน ท่าอากาศยานซิดนีย์มีตารางเที่ยวบินขาเข้า 16 เที่ยว ขาออก 14 เที่ยวในวันนี้ ท่าอากาศยานเมลเบิร์นมีตารางเที่ยวบินขาเข้าและขาออกอย่างละ 5 เที่ยว ส่วนกรุงแคนเบอร์รายังไม่มีตารางเที่ยวบินเข้าออก เที่ยวบินระหว่างประเทศที่ลงจอดในออสเตรเลียเที่ยวแรกเป็นของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เดินทางมาจากสิงคโปร์ ลงจอดก่อน 06:00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 1 พ.ย.-สหรัฐกำลังจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้แก่ไต้หวันอีก 1 ล้าน 5 แสนโดส รวมเป็น 4 ล้านโดสแล้วจนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐเผยว่า วัคซีนโมเดอร์นาลอตใหม่จะถูกส่งจากเมืองลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกี โดยเครื่องบินสายการบินไชนาแอร์ไลน์ของไต้หวันในวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐ เป็นการบริจาคโดยไม่มีเงื่อนไข ไม่ต้องการการชื่นชมหรือการยอมให้ พร้อมกับเสริมว่าไต้หวันเป็นหุ้นส่วนสำคัญด้านสาธารณสุขโลก ด้านประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินของไต้หวันโพสต์เฟซบุ๊กเมื่อค่ำวันอาทิตย์ ขอบคุณสหรัฐและระบุว่า การบริจาควัคซีนครั้งนี้สะท้อนว่าแรงสนับสนุนที่สหรัฐมีต่อไต้หวันมีความแข็งแกร่ง และด้วยมิตรภาพที่แน่นแฟ้นนี้ ไต้หวันจะเดินหน้ากระชับความเป็นหุ้นส่วนกับสหรัฐในทุกด้าน ก่อนหน้านี้สหรัฐบริจาควัคซีนโควิดให้ไต้หวันแล้ว 2 ล้าน 5 แสนโดสในเดือนมิถุนายน เป็นช่วงที่สหรัฐกล่าวหาจีนว่าพยายามขัดขวางไม่ให้ไต้หวันได้ซื้อวัคซีน โดยอ้างเหตุผลทางการเมือง แต่จีนปฏิเสธ นอกจากสหรัฐแล้ว ยังมีญี่ปุ่น สาธารณรัฐเช็ก สโลวาเกีย โปแลนด์และลิทัวเนียที่บริจาควัคซีนโควิดให้ไต้หวันเช่นกัน สื่อไต้หวันรายงานว่า ชาวไต้หวัน 24 ล้านคนฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้วร้อยละ 70 แต่ฉีดครบ 2 เข็มแล้วเพียงร้อยละ 30 ไต้หวันมียอดติดเชื้อสะสมกว่า 16,400 คน เสียชีวิต 847 คน.-สำนักข่าวไทย

เซี่ยงไฮ้ 1 พ.ย. – จีนระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ว่า รายงานอย่างเป็นทางการของหน่วยข่าวกรองสหรัฐที่ว่าเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อาจหลุดมาจากห้องปฏิบัติการนั้นไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์และขาดความน่าเชื่อถือ รายงานล่าสุดของหน่วยข่าวกรองสหรัฐที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นระบุว่า การตั้งสมมติฐานที่ว่าเชื้อโควิดอาจมีที่มาจากการระบาดตามธรรมชาติหรือหลุดออกมาจากห้องปฏิบัติการนั้นมีความเป็นไปได้ทั้งคู่ แต่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนระบุในแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์กระทรวงฯ ว่า รายงานดังกล่าวเป็นเรื่องโกหก หน่วยข่าวกรองสหรัฐมีชื่อเสียงด้านการหลอกลวงและการตบตา การค้นหาที่มาของโรคโควิด-19 เป็นเรื่องที่จริงจังและซับซ้อน ซึ่งควรได้รับการศึกษาวิจัยผ่านความร่วมมือของนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้สหรัฐเปิดห้องปฏิบัติการด้านชีวภาพฟอร์ต เดทริก ในรัฐแมริแลนด์เพื่อให้คณะผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติเข้าตรวจสอบเช่นกัน ก่อนหน้านี้ จีนและองค์การอนามัยโลกได้ร่วมกันเปิดเผยผลการศึกษาที่มาของโรคโควิด-19 ร่วมกันในปีนี้ แต่ไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าโรคดังกล่าวมีที่มาจากห้องปฏิบัติการ และระบุว่า สมมติฐานที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ มนุษย์ติดเชื้อโควิดจากการระบาดตามธรรมชาติที่อาจเป็นผลมาจากการค้าสัตว์ป่า ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายรายให้ความเห็นว่า การศึกษาดังกล่าวล้มเหลวในการตรวจสอบห้องปฏิบัติการที่เมืองอู่ฮั่นของจีน และไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลดิบที่จำเป็นเพื่อทำความเข้าใจเส้นทางการระบาดในระยะแรกเริ่มของเชื้อโควิด อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลกได้จัดตั้งกลุ่มที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ด้านต้นกำเนิดโรคระบาด (SAGO) เมื่อเดือนตุลาคม และเรียกร้องให้จีนมอบข้อมูลดิบเพื่อช่วยในการสืบสวนที่มาโควิดครั้งใหม่ แต่จีนกลับปฏิเสธโดยอ้างกฎหมายเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย.-สำนักข่าวไทย

กระทรวงท่องเที่ยวของออสเตรเลียกล่าววันนี้ว่า การเดินทางจากนิวซีแลนด์ไปยังออสเตรเลียโดยไม่ต้องกักตัวจะเริ่มอีกครั้งตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป ขณะที่ออสเตรเลียเตรียมความพร้อมในการเปิดพรมแดนระหว่างประเทศบางส่วน เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 เป็นต้นมา

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือ ซีดีซี ของสหรัฐ กล่าวในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า นักเดินทางที่เป็นชาวต่างชาติอายุต่ำกว่า 18 ปี และยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 สามารถเดินทางเข้าสหรัฐได้ โดยไม่จำเป็นต้องกักตัวเองเพื่อดูอาการ

นูกูอะโลฟา 30 ต.ค.- ชาวตองการีบรุดไปยังศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในวันนี้ หลังจากทางการเตือนว่า อาจต้องล็อกดาวน์เกาะหลัก เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อรายแรกของประเทศ ผู้ติดเชื้อรายนี้อยู่ในกลุ่มคน 215 คนที่ถูกส่งขึ้นเครื่องบินกลับมาจากเมืองไครสต์เชิร์ชของนิวซีแลนด์ และถูกตรวจหาเชื้อระหว่างกักโรคเมื่อวันพฤหัสบดี ได้ผลเป็นบวกในวันรุ่งขึ้น ถือเป็นรายแรกของประเทศ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ผู้ติดเชื้อรายนี้เพิ่งฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ไปเมื่อกลางเดือนตุลาคม แม้ต้องรอให้ครบ 2 สัปดาห์จึงจะมีภูมิคุ้มกันเต็มที่ แต่ก็เชื่อว่าจะไม่ป่วยหนัก นายกรัฐมนตรีตองกาเตือนในวันนี้ให้ประชาชนเตรียมพร้อม เพราะอาจต้องล็อกดาวน์หากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่จำเป็นต้องรีบดำเนินการเพราะกว่าผู้ติดเชื้อจะสามารถแพร่โรคได้ ต้องใช้เวลานานกว่า 3 วัน ส่วนเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยาน ตำรวจ และบุคลากรทางแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ในขณะที่เที่ยวบินของผู้ติดเชื้อมาถึง ถูกกักโรคเพื่อป้องกันล่วงหน้าแล้ว ราชอาณาจักรตองกาตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากนิวซีแลนด์ขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 1,800 กิโลเมตร มีประชากรประมาณ 106,000 คน ส่วนใหญ่อยู่บนเกาะตองกาตาปู ซึ่งเป็นเกาะหลัก มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วเพียง 1 ใน 3 แต่หลังจากมีข่าวพบผู้ติดเชื้อรายแรกของประเทศ เจ้าหน้าที่เผยว่า มีคนไปฉีดวัคซีนเฉพาะเมื่อคืนที่ผ่านมาเกือบ 2,000 คน ด้านกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ยืนยันว่า […]