เกษตรฯ

รมว.ธรรมนัส เผยสั่งปลัดกระทรวงเกษตรฯ ตรวจสอบเอกสารที่มีข่าวว่าเป็นหลักฐานที่หน่วยราชการตรวจยึดได้จากคดี “หมูเถื่อน” โดยอ้างว่าเป็นใบปิดบัญชีที่แสดงการจ่ายเงินสินบนให้เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ หากมีมูลความจริง

กรุงเทพฯ 19 พ.ย.- ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นรองอธิบดีกรมปศุสัตว์แจงผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อเล่น อ๊อด แต่ไม่ใช่ “หมออ๊อด” ที่มีข่าวรับสินบนจากบริษัทนำเข้าหมูเถื่อน โดยขณะเป็นรองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ทุกคนเรียก “รองฯ อ๊อด” ตอนนี้เรียก “ผู้ตรวจฯ อ๊อด” แหล่งข่าวกรมปศุสัตว์เผย ขณะ “รองฯ อ๊อด” รักษาราชการแทนอธิบดีกรมปศุสัตว์ลงนามย้ายหัวหน้าด่านกักกันสัตว์ชลบุรี (แหลมฉบัง) ซึ่งชื่อเล่น “อ๊อด” ไปเป็นหัวหน้าด่านกักกันสัตว์ภูเก็ต นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งก่อนหน้าที่ดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมปศุสัตว์ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า “หลายวันมานี้ได้รับโทรศัพท์จากกัลยาณมิตรที่หวังดีหลายสาย โทร. มาแจ้งข่าวว่า มีคนพูดถึงประเด็นหมูเถื่อน อ้างชื่อ “หมออ๊อด” รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ทำให้เกิดการเข้าใจผิดกัน ขอยืนยัน!!! ว่า “ไม่ใช่ตัวผมแน่นอนครับ” ตอนนี้ทุกคนเรียกผมว่า ‘ผู้ตรวจฯ อ๊อด’ ตอนเป็นรองอธิบดีที่กรมปศุสัตว์ ทุกคนเรียกผมว่า ‘รองฯ อ๊อด’ ไม่มีใครเรียกผมว่า ‘หมออ๊อด’ ย้อนไปก็ตั้งแต่ปี 2559 สมัยเป็นปศุสัตว์จังหวัดแล้ว คงเป็นการให้เกียรติ หรือไม่ก็คงเห็นผมหมดสภาพความเป็นหมอ (ฉีดยาน้องหมา […]

อธิบดีกรมปศุสัตว์ เผยผลการเข้าตรวจสอบห้องเย็นทั่วประเทศตามมาตรการยกระดับการปราบปรามสินค้าปศุสัตว์เถื่อนของ รมว.ธรรมนัส ตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค. เข้าตรวจแล้ว 2,117 แห่ง ตรวจยึดได้กว่า 2 ล้านกิโลกรัม มูลค่ากว่า 250 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นคดีเกี่ยวกับการลักลอบเคลื่อนย้ายภายในประเทศ พร้อมดำเนินยุทธการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าราชอาณาจักรอย่างเข้มงวด

กรุงเทพฯ 17 พ.ย. – รมช. ไชยาเผย มีความพยายามของบุคคลบางกลุ่มที่ต้องการลักลอบนำ “หมูเถื่อน” ของกลางในคดีพิเศษที่ตรวจยึดไว้ ออกสู่ตลาด สั่งกรมปศุสัตว์ประสานกรมศุลกากรและดีเอสไอร่วมรักษาอย่างดีที่สุด ระหว่างเร่งหาสถานที่ทำลาย ชี้ได้รับรายงานว่า ขบวนการลักลอบนำเข้าและค้า “หมูเถื่อน” มีหลายฝ่ายเกี่ยวข้องทั้งนายทุน ข้าราชการ และนักการเมืองซึ่งต้องรอผลการคลี่คลายคดีของดีเอสไอตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งกำกับดูแลกรมปศุสัตว์กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ เตรียมประสานกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อขอนำ “หมูเถื่อน” ของกลางในคดีพิเศษที่ 59/2566 จำนวน 140 ตู้คอนเทนเนอร์ไปเผาทำลายในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม โดยใช้เตาเผาขยะอุตสาหกรรม อย่างที่มีการเผายาเสพติดเนื่องจากยังไม่สามารถหาสถานที่ฝังทำลายได้ สิ่งที่น่ากังวลคือ มีความพยายามของบุคคลบางกลุ่มที่ขัดขวางการทำลาย “หมูเถื่อน” ของกลางเพื่อจะลักลอบนำออกสู่ตลาด ดังนั้นจึงสั่งการกรมปศุสัตว์ให้ประสานกับกรมศุลกากรและกรมสอบสวนคดีพิเศษในการรักษาของกลางอย่างเข้มงวด โดยกระบวนการทำลายของกลางในคดีพิเศษนี้รับผิดชอบโดยคณะทำงานร่วมระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนได้แก่ กรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สภาเกษตรกรแห่งชาติ และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ หลังจากที่กรมปศุสัตว์ได้รับมอบของกลางจากกรมศุลกากร 161 ตู้คอนเทนเนอร์แล้วเมื่อวันที่ 29-30 กันยายน 2566 กรมปศุสัตว์ได้เผาทำลาย 1 ตู้ ณ สำนักงานชลประทานที่ 9 จังหวัดชลบุรีและนำไปฝังทำลาย […]

กรุงเทพฯ 16 พ.ย. – ผู้ว่ากยท. เผยเร่งปรับสมดุลปริมาณยางในประเทศเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางตามนโยบายรัฐมนตรีเกษตรฯ พร้อมบูรณาการหลายหน่วยงานปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย เตรียมหารือกับภาคเอกชนถึงแนวทางลงทุนร่วมในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา เพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศ นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า เร่งขับเคลื่อนนโยบายการบริหารยางพาราของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งเน้นให้เกิดเสถียรภาพ โดยกำหนดแนวทางสำคัญ 3 แนวทาง ดังนี้ 1.         ปรับสมดุลปริมาณยางในประเทศ 2.         เร่งปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย (ยางพารา) 3.         ดึงภาคเอกชนร่วมลงทุนกับ กยท. แปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา สำหรับการปรับสมดุลปริมาณยางในประเทศ ได้ประสานกรมวิชาการเกษตร เสนอตั้งพนักงาน กยท. เป็นเจ้าหน้าที่ร่วมตรวจสอบสตอกยาง โดย กยท. พร้อมเข้าตรวจสอบทันทีหลังมีคำสั่งแต่งตั้งให้อำนาจในการเข้าปฏิบัติงานร่วมกับกรมวิชาการเกษตร คาดว่า จะดำเนินการได้ภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเร่งปูพรมลงตรวจพร้อมกันทุกจังหวัด เข้าตรวจสอบเอกสารและบัญชียาง เปรียบเทียบกับยางจริงในสต๊อก และให้ กยท.ทุกจังหวัดเร่งดำเนินการตรวจให้เสร็จสิ้น พร้อมรายงานผลภายใน 30 วัน นอกจากนี้ให้กยท. ทุกจังหวัดตรวจสอบข้อมูลเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน พื้นที่สวนยาง และปริมาณผลผลิตยาง เพื่อจัดทำฐานข้อมูลยางที่ครอบคลุมทั้งประเทศ (Big […]

กรุงเทพฯ 16 พ.ย. – “ธรรมนัส” ยืนยัน หากมีหลักฐานการกระทำผิดของข้าราชการสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เกี่ยวข้องกับขบวนการ “หมูเถื่อน” จะดำเนินการทั้งทางวินัยร้ายแรงและอาญา ชี้การมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เหมือนเป็นการมาอยู่บ้านที่คนอื่นเคยอยู่มาก่อน จึงต้องทำความสะอาด ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบนำเข้า “หมูเถื่อน” แล้ว รวมถึงข่าวที่มีการพาดพิงว่า บริษัทที่ลักลอบนำเข้า “หมูเถื่อน” จ่ายสินบนให้แก่ข้าราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อเบิกทางในการเคลื่อนย้าย โดยระบุว่า ยังไม่เห็นหลักฐานการกระทำผิด แต่หากมีหลักฐาน ได้กำหนดมาตรการดำเนินการอย่างเฉียบขาด ทั้งลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรงและดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร้อยเอกธรรมนัสระบุว่า การเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของตนเองนั้น เป็นเข้ามาอยู่ในบ้านใหม่ซึ่งเป็นบ้านที่คนอื่นเคยอยู่มาก่อน ต้องทำความสะอาด ดังนั้นจึงออกคำสั่งถึงอธิบดีกรมปศุสัตว์ กรมประมง และกรมวิชาการเกษตรให้กำชับหน่วยงานปฏิบัติทุกระดับ ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ และด่านนำเข้าทุกด่านให้เข้มงวดในการตรวจสอบ กักกัน และดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะ “หมูเถื่อน” ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีมีความห่วงกังวลและเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินคดีและปราบปราม สำหรับหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่จับกุมและดำเนินคดีผู้ลักลอบนำเข้า “หมูเถื่อน” สู่ราชอาณาจักรไทยคือ กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ส่วนหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นหน่วยงานร่วมตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบพบการกระทำผิด ต้องแจ้งดีเอสไอจับกุมและดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย