กรุงเทพฯ 20 ก.พ. – “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” เผยไม่กลัวอะไรแล้ว หลังจากถูกป.ป.ช. ชี้มูลความผิดการก่อสร้างหน่วยหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยคมกฤตในอุทยานแก่งกระจานเมื่อปี 2556 ตามมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติและผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้กระทรวงทส. ลงโทษใน 30 วัน ชี้หากความถูกต้องในสังคมไม่มีและสำนึกไม่เกิด ก็พร้อมจะต่อสู้เพื่อความถูกต้อง
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวถึงการที่มีรายงานข่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งผลการพิจารณาไต่สวนข้อกล่าวหาที่มีต่อนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี กับพวกดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยาน (ห้วยคมกฤต) ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยมิชอบด้วยกฎหมาย มาที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แล้วเมื่อปลายเดือนมกราคม 2567 โดยนายชัยวัฒน์ระบุว่า ไม่รู้สึกกลัวอะไรแล้วเพราะผ่านเหตุการณ์มามากมายในชีวิตราชการ
ทั้งนี้ยืนยันว่า มุ่งมั่นพิทักษ์ป่าและสัตว์ป่ามาโดยตลอด แต่ขบวนการของผู้เสียประโยชน์ที่ตนเข้าไปขัดขวางพยายามกำจัดให้พ้นทาง โดยไม่สามารถใช้เรื่องทุจริตมาจัดการได้เนื่องจากตนไม่เคยทุจริต จึงนำประเด็นอื่นๆ มาร้องเรียน
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า การก่อสร้างหน่วยพิทักษ์อุทยานห้วยคมกฤตเกิดขึ้นในช่วงที่เป็นหัวหน้าแก่งกระจาน ในปีงบประมาณ 2556 ขณะนั้นมีปัญหาขบวนการลักลอบค้าช้างป่าเพื่อเอางา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าและเป็นที่พักของเจ้าหน้าที่ลาดตระเวน ภายในโครงการมีสิ่งปลูกสร้าง 7 รายการได้แก่ อาคารที่ทำการชั้นเดียว บ้านพัก 2 ห้องนอน บ้านพัก คนงานขนาด 4 ครอบครัว 4 หลัง ป้อมยาม เสาธงเหล็ก เสาอากาศวิทยุ และหอพักน้ำ-ส่งน้ำ
ทั้งนี้เป็นโครงการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โดยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) แต่งตั้งคณะกรรมการ 3 ชุดได้แก่ 1. คณะกรรมการร่างขอบเขตงานและร่างเอกสารการประกวดราคาจ้างก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างของทางราชการ 2. คณะกรรมการประกวดราคาจ้างก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างของทางราชการด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ และ 3. คณะกรรมการตรวจงานจ้างและผู้ควบคุมงานจ้างก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างของทางราชการซึ่งนายชัยวัฒน์อยู่ในกรรมการชุดนี้ จากนั้นเมื่อก่อสร้างเสร็จในพ.ศ. 2557 ได้ลงนามรับมอบเนื่องจากเป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยทั้งอาคารและทุ่งหญ้าอาหารสัตว์ยังใช้ประโยชน์จนถึงทุกวันนี้
นายชัยวัฒน์กล่าวถึงข่าวที่ระบุว่า คณะกรรมการป.ป.ช. พิจารณาไต่สวนเบื้องต้น แล้วมีมติว่า การกระทำของตนมีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จและรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) ฐานตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมหรือโดยการกีดกันมีให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานของรัฐนั้น ตนไม่ได้เป็นคณะกรรมการจัดทำ TOR และคณะกรรมการประกวดราคา ส่วนที่ลงนามในใบตรวจการจ้างและรับรองผลการปฏิบัติงานของผู้รับจ้าง เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2557 เนื่องจากอาคารสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงลงนามรับในฐานะที่เป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
ส่วนที่คณะกรรมการป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงด้วย โดยให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโทษตามฐานความผิดป.ป.ช. มีมติ ไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยอีกและสั่งลงโทษผู้ถูกกล่าวหาภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องนั้น หากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้ออกจากราชการอีกครั้ง ก็จะอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 รวมถึงจะฟ้องต่อศาลปกครองเช่นเดียวกับที่ถูกกระทรวงปลดจากราชการเมื่อพ.ศ. 2564 โดยตนได้ฟ้องคดี มีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 ปลัดกระทรวงทส. เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 2 และคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 3 ซึ่งศาลปกครองเพชรบุรีมีคำพิพากษาเกี่ยวกับคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ลงโทษปลดนายชัยวัฒน์ออกจากราชการ หลังถูกป.ป.ท. ชี้มูลความผิดดคีเผาทรัพย์สินชาวบ้านบางกลอย โดยกระทรวงไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้อยแรงก่อนออกคำสั่ง ศาลปกครองจึงมีคำสั่งทุเลาบังคับคดีให้กลับเข้ารับราชการไว้ก่อน
นายชัยวัฒน์รับราชการมา 33 ปีและจะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายน 2567 ล่าสุดมีบทบาทในการตรวจสอบการปักหุมดส.ป.ก. และออกเอกสารส.ป.ก. 4-01 ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติฯ ระบุว่า อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยนายชัยวัฒน์ได้เข้าไปถอนหมุดและร้องป.ป.ช. ให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา
นายชัยวัฒน์กล่าวย้ำว่า ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ป่าและปกป้องทรัพยากรของชาติมาโดยตลอด หากความถูกต้องไม่มีในสังคมและสำนึกไม่เกิด ก็พร้อมจะต่อสู้เพื่อความถูกต้อง.- 512 – สำนักข่าวไทย