กสทช.ประชาพิจารณ์หลักเกณฑ์ใช้สิทธิดาวเทียมเป็นครั้งแรก

กรุงเทพฯ 2 ธ.ค. กสทช. เผยหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมครั้งแรกของประเทศไทย  พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รองเลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า วันนี้ (2 ธันวาคม 2563) สำนักงาน กสทช. ได้จัดการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในลักษณะจัดชุด (Package) เพื่อรับฟังความคิดเห็นตามมาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม กสทช. เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563  พล.อ.ท.ธนพันธุ์ กล่าวว่า สาระสำคัญของร่างประกาศฉบับนี้ คือ การนำสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมหรือที่เรียกว่าเอกสารข่ายงานดาวเทียม (Satellite Network Filing) ทั้งหมดที่ประเทศไทยมีอยู่ ทั้งในขั้นสมบูรณ์และขั้นต้นมาจัดเป็นชุด (Package) ตามวงโคจร (Slot) ทั้งหมด 4 ชุด พร้อมกำหนดราคาขั้นต่ำ เพื่อจะนำสิทธิดังกล่าวมาอนุญาตตามหลักเกณฑ์และวิธีการ โดยชุดข่ายงานดาวเทียมทั้ง 4 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 1 ประกอบด้วย วงโคจร 50.5E (ข่ายงาน C1, N1 และ P1R) และ วงโคจร 51E (ข่ายงาน 51) ราคาขั้นต่ำ 728.199 ล้านบาท ชุดที่ 2 ประกอบด้วย วงโคจร 78.5E (ข่ายงาน A2B และ LSX2R) ราคาขั้นต่ำ 366.488 ล้านบาท  ชุดที่ 3 ประกอบด้วย วงโคจร 119.5E (ข่ายงาน IP1, P3 และ LSX3R) และ วงโคจร 120E (ข่ายงาน 120E) ราคาขั้นต่ำ748.565 ล้านบาท ชุดที่ 4 ประกอบด้วย วงโคจร 126E (ข่ายงาน 126E) และ วงโคจร 142E (ข่ายงาน G3K และ N5) ราคาขั้นต่ำ 364.687 ล้านบาท  ทั้งนี้การประเมินราคาขั้นต่ำนั้น คำนวณตามต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงในการให้ได้มาซึ่งเอกสารข่ายงานดาวเทียมในแต่ละข่ายงาน เช่น มูลค่าเริ่มต้นในการขอข่ายงาน หรือ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับ ITU เป็นต้น รวมกับมูลค่าโอกาสในการเข้าสู่ธุรกิจ ทำให้ข่ายงานที่อยู่ในขั้นสมบูรณ์มีมูลค่ามากกว่าขั้นต้น เนื่องจากสามารถสร้างและส่งดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรเพื่อประกอบการได้ทันที อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากผู้ที่ได้รับการคัดเลือกต้องชำระค่าธรรมเนียมตามราคาที่เสนอสูงสุดแล้ว ยังต้องชำระค่าธรรมเนียมการอนุญาตให้ใช้สิทธิการใช้วงโคจรดาวเทียมรายปีในอัตราร้อยละ 0.25 ของรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่าย รวมทั้งค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ในอัตราไม่เกินร้อยละ1.5 และ ค่าธรรมเนียม USO ในอัตราร้อยละ 2.5 ของรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่าย ตลอดจนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงที่เกี่ยวกับการประสานงานคลื่นความถี่ และตามที่ ITU เรียกเก็บอีกด้วย พล.อ.ท.ธนพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับวิธีการคัดเลือกนั้นแม้ตามกฎหมายไม่ได้กำหนดว่าต้องใช้วิธีการประมูล อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดความโปร่งใส และสร้างสมดุลในเรื่องการรักษาสิทธิและประโยชน์ที่ประเทศชาติ และประชาชนจะได้รับ จึงได้กำหนดวิธีการคัดเลือกเป็น 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การพิจารณาข้อเสนอด้านประสบการณ์และความสามารถในการดำเนินการ โดยมีเกณฑ์ เช่น ประสบการณ์การดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับกิจการดาวเทียม แผนการใช้งานข่ายงานดาวเทียม ข้อเสนอช่องสัญญาณสำหรับบริการสาธารณะ หรือข้อเสนอการลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนาเป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีการวางหลักประกัน ร้อยละ 10 ของราคาขั้นต่ำในแต่ละชุด โดยผู้เข้าร่วมการคัดเลือกจะต้องได้รับคะแนนในแต่ละเกณฑ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 และได้คะแนนประเมินรวมเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 จึงจะผ่านเข้าสู่ขั้นตอนที่สอง  ขั้นตอนที่ 2 การพิจารณาข้อเสนอด้านราคา โดยเลือกผู้ชนะจากการยื่นข้อเสนอด้านราคาสูงสุง โดยผู้ชนะในแต่ละชุดจะได้รับการอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม มีอายุการอนุญาต 20 ปี โดยมีเงื่อนไขที่สำคัญ เช่น ต้องมีดาวเทียมใช้งานจริงกับข่ายงานขั้นสมบูรณ์เพื่อเป็นการรักษาไว้ซึ่งสิทธิตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ และจะได้รับการคุ้มครองสิทธิโดย กสทช.จะไม่อนุญาตให้มีการมาขอส่งเอกสารข่ายงานใหม่สำหรับวงโคจรนั้นอีกเป็นระยะเวลา 5 ปี อย่างไรก็ตามต้องมีแผนปฏิบัติการเพื่อรองรับเหตุฉุกเฉินและประกันการใช้งานต่อเนื่อง รวมทั้งการจัดให้มีช่องสัญญาณเพื่อบริการสาธารณะและประโยชน์ของรัฐไม่ต่ำกว่าร้อยบะ 10 ของความจุของดาวเทียมรวมทั้งต้องรับผิดชอบแทนภาครัฐกรณีที่ก่อให้เกิดความเสียหายตามข้อตกลงระหว่างประเทศ เป็นต้น สำหรับข้อคิดเห็นที่ได้รับจากการรับฟังความคิดเห็นในเบื้องต้นโดยสรุปนั้น ผู้ประกอบการยังมีความกังวลในเรื่องราคาขั้นต่ำและค่าธรรมเนียมที่เกรงว่าจะเป็นภาระทำให้ไม่สามารถแข่งขันกับดาวเทียมต่างชาติได้ เนื่องจากการเปลี่ยนมาสู่ระบบการอนุญาตครั้งนี้ไม่ใช่ในลักษณะให้สิทธิแบบระบบสัมปทานและในอนาคตยังมีการเข้ามาแข่งขันจากดาวเทียมต่างชาติที่ กสทช. กำหนดค่าธรรมเนียมไว้เพียงร้อยละ 3.2 เท่านั้น ในขณะเดียวกันกับภาครัฐที่กังวลกับรายได้ที่จะได้ว่าน้อยเกินไปหรือไม่จากราคาขั้นต่ำทั้ง 4 ชุดรวมกัน 2,207.939 ล้านบาท แต่เมื่อเปรียบเทียบกับสัญญาสัมปทานเดิมที่รัฐได้รับประกันรายได้ขั้นต่ำเพียง 1,415 ล้านบาท กับระยะเวลาผูกขาด 30 ปี รวมทั้งในประเด็นข้อจำกัดด้านเวลาของบางข่ายงานที่ต้องรีบดำเนินการสร้างและส่งดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรทำให้ต้องมั่นใจได้ว่าผู้ชนะและได้รับการอนุญาตต้องมีความพร้อมจริงในการดำเนินการไม่มีการทิ้งงานเพราะจะส่งผลเสียหายต่อสิทธิวงโคจรของประเทศไทยจึงควรมีบทลงโทษที่ชัดเจนหรือป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว พล.อ.ท.ธนพันธุ์ฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า กิจการดาวเทียมไทยจะเปลี่ยนจากระบบสัมปทานมาสู่ระบบใบอนุญาตอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นการแก้ไขปัญหาการเกิดสุญญากาศหลังดาวเทียมไทยคม 8 นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 ที่ไม่สามารถนำดาวเทียมไทยขึ้นสู่วงโคจรได้ อย่างไรก็ตาม สำนักงาน กสทช.พร้อมที่จะนำข้อคิดเห็นต่างๆ มาพิจารณาและปรับปรุงให้มีความเหมาะสม เนื่องจากต้องยอมรับว่า กสทช.แม้มีประสบการณ์ในการประมูลคลื่นความถี่ แต่คลื่นความถี่และสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมนั้นมีความแตกต่าง ดังนั้น ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่จะเกิดการอนุญาตหรือเปิดตลาดเสรีดาวเทียมไทย และส่งผลให้กิจการดาวเทียมไทยมีการเดินหน้าต่อยอดต่อไปได้อย่างโปร่งใสและเป็นธรรม เพื่อที่จะให้พี่ประชาชนได้รับบริการจากเทคโนโลยีใหม่ที่มีความก้าวกระโดดของดาวเทียมทั้งในส่วนของ Broadcast และBroadband ต่อไป-สำนักข่าวไทย.

ทนายความแวะมาบ้านอุทัยธานีพบน้องชายดับปริศนา

อุทัยธานี 1 ธ.ค.- ผงะ! ทนายความเดินทางจาก กทม.มาแวะบ้านพักอุทัยธานีก่อนไปธุระต่างจังหวัดเจอเรื่องเศร้า น้องชายวัย 56 ปี เสียชีวิตยังไม่ทราบสาเหตุ เผยน้องไม่เคยขัดแย้งกับใคร และดื่มสุราบ่อย เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. (1 ธ.ค.) ร.ต.อ.ยศธน หนุนพงษ์ ร้อยเวร สภ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพักหมู่ 5 ต.หนองฉาง จึงประสานแพทย์และกู้ภัยร่วมเข้าที่เกิดเหตุพบร่างชายอายุ 56 ปี เป็นน้องชายทนายความชื่อดัง สภาพศพไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้น คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3 วัน และจะนำศพส่งไปให้แพทย์ชันสูตรอีกครั้ง ด้านพี่ชาย อายุ 62 ปี ให้การว่า มีอาชีพทนายความส่วนใหญ่จะพักอยู่ที่กรุงเทพฯ นานครั้งจะกลับบ้านที่อุทัยธานี จึงให้น้องชายเฝ้าดูแล และวันนี้จะเดินทางไปต่างจังหวัด จึงแวะมาที่บ้านก่อน เพื่อนบ้านบอกว่าไม่เห็นหน้าน้องชายมาหลายวันแล้ว ประตูปิดใส่กลอน ด้วยความเป็นห่วงได้ขอให้เพื่อนบ้านช่วยปีนรั้วเข้าไปดูและพบว่าน้องชายเสียชีวิตแล้ว พร้อมรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุ ซึ่งปกติน้องชายดื่มสุราเป็นประจำ และไม่มีปัญหากับใคร.-สำนักข่าวไทย

มิดคัน! GPS นำทางรถขายเต็นท์ผ้าใบพุ่งตกน้ำนครศรีฯ

นครศรีธรรมราช 1 ธ.ค.- ช่วยทัน! คนขับรถกระบะขายเต็นท์ผ้าใบมาจากขอนแก่นจะไปใต้ แต่ไม่รู้เส้นทางเปิดระบบจีพีเอสนำทางมาถึงนครศรีฯ แล่นตกน้ำจมทั้งคัน เมื่อเวลา 12.30 น. (1 ธ.ค.) นายภาณุพงศ์ อบอุ่น เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ประสานกู้ภัยท่าศาลา และมูลนิธิสยามรวมใจท่าศาลา ช่วยเหลือชายคนขับติดอยู่ภายในรถกระบะ สีขาว หลังเกิดอุบัติเหตุพลัดตกตกร่องน้ำถนนหมู่บ้านในพื้นที่หมู่ 8 ต.ท่าขึ้น เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย และนำรถแทร็กเตอร์ลากรถขึ้นมาจากน้ำ สภาพมีเต็นท์ผ้าใบอยู่เต็มท้ายกระบะ คนขับให้การว่า มีอาชีพเร่ขายเต็นท์ผ้าใบและมาจากขอนแก่นจะไปขายในพื้นที่ภาคใต้ ขณะขับรถมุ่งหน้าสู่ อ.ระโนด จ.สงขลา แต่ไม่รู้เส้นทาง จึงอาศัยจีพีเอสนำทางเลี้ยวเข้าไปตามถนนในหมู่บ้าน ท่ามกลางสองฝั่งถนนมีน้ำหลาก เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้ขับรถแล่นตรงไปแล้วก็ตกร่องน้ำจมมิดทั้งคัน เคราะห์ดีที่เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือได้ทัน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า อ.ท่าศาลา เป็น 1 ใน 3 อำเภอ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชประกาศเป็นเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ (วาตภัย) และช่วงนี้มีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้บางจุดมีน้ำท่วมขัง และวันเดียวกันนี้ นายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้นำเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเข้าสำรวจพื้นที่ ต.โพธิ์ทอง […]

ประเมินเสียหายนับล้าน ไฟไหม้กุฏิวัดดังอุบลฯ

อุบลราชธานี 1 ธ.ค.- ตำรวจคาดสาเหตุไฟลัดวงจรไหม้กุฏิวัดดังเมืองอุบลฯ เสียหาย 3 หลัง ขณะพระออกไปบิณฑบาต ประเมินเสียหายเกือบ 10 ล้านบาท พ.ต.ท.ฉลอง อุคะ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองอุบลราชธานี พร้อมชุดเจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนหาสาเหตุเพลิงไหม้กุฏิวัดปากน้ำ บุ่งสระพัง ต.กุดลาด อ.เมือง จ.อุบลราชธานี หลังรถดับเพลิงจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และอีกหลายหน่วยงานระดมรถน้ำกว่า 10 คัน เข้าระงับเหตุตั้งแต่เวลา 06.30 น. วันนี้ (1 ธ.ค.) ซึ่งเป็นกุฏิแบบครึ่งตึกครึ่งไม้ ด้านล่างเป็นโรงครัวและถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหลัง ขณะเกิดเหตุพระและสามเณรส่วนใหญ่ออกไปบิณฑบาต นอกจากนี้ เพลิงยังลามไปติดหอฉันท์เป็นอาคารปูน 2 ชั้น เสียหายอีก 2 หลัง ซึ่งภายในหอฉันท์ยังเป็นที่เก็บวัตถุโบราณและพระพุทธรูป รวมทั้งหนังสือเรียนปริยัติธรรม เจ้าหน้าที่ใช้เวลาดับเพลิงกว่า 2 ชั่วโมง จึงสงบ ความเสียหายทั้งหมดประเมินไว้เกือบ 10 ล้านบาท ส่วนสาเหตุสันนิษฐานไฟฟ้าลัดวงจร และต้องรอผลการตรวจสอบจากชุดพิสูจน์ ทั้งนี้ วัดปากน้ำ บุ่งสระพัง […]

สั่งปรับ! แม่ค้าอุบลฯ ทำผิดเงื่อนไขคนละครึ่ง

อุบลราชธานี 1 ธ.ค.- พาณิชย์จังหวัดอุบลฯ สั่งปรับแม่ค้าจุ๊เนื้อ โครงการคนละครึ่งทำผิดระเบียบเรียกเก็บเงินเพิ่มจากลูกค้า พร้อมทำหนังสือแจ้งถอดออกจากโครงการ เตือนผู้ค้ารายอื่นอย่าทำผิด จะเสียโอกาสเข้าร่วมโครงการของรัฐที่ทยอยออกมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ กรณีแม่ค้า วัย 46 ปี ขายจุ๊เนื้อ เมนูละ 100 บาท ย่านเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี และเข้าโครงการคนละครึ่ง ถูกลูกค้าโพสต์ร้องเรียนหากมีการสแกนจ่ายผ่านโครงการคนละครึ่งจะต้องจ่ายค่าอินเตอร์เน็ตด้วย 10 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้แม่ค้าดังกล่าวได้ออกมาขอโทษ อ้างว่าเป็นความเข้าใจผิดนั้น ล่าสุดนายชาญยุทธ วันดี พาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี ได้เรียกแม่ค้ามาชี้แจงทำความเข้าใจ ก่อนเปรียบเทียบปรับฐานจำหน่ายสินค้าเกินราคาป้ายที่ติดแสดงไว้ ซึ่งกรณีนี้เป็นรถเร่แผงลอยมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท จากนั้นนายชาญยุทธ พร้อม น.ส.ปานจิตต์ ตะเพียนทอง คลังจังหวัด นำตัวแม่ค้ารายนี้มาพบ พ.ต.ท.เสด็จ แก้วสิงห์ทอง สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมือง เพื่อทำการเปรียบเทียบปรับ ฐานฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฉบับที่ 71 พ.ศ.2563 ลงวันที่ 1 ก.ค.2563 ข้อ 9 กรณีเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งผู้จำหน่าย จะต้องแสดงค่าใช้จ่ายให้ชัดเจนและครบถ้วน […]

เผยกลุ่มผู้สนใจผลิตภัณฑ์ความงามร้อยละ72ค้นหาข้อมูลผ่านทวิตเตอร์

กรุงเทพฯ 1 ธ.ค. ทวิตเตอร์ เจาะลึกบิวตี้คอมมูนิตี้ร้อยละ 72 ใช้ทวิตเตอร์ค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ความงาม รายงานของ Euromonitor International บริษัทวิจัยการตลาดเรื่องเทรนด์ความงามและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวของชาวเอเชียระบุว่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นหนึ่งในตลาดที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดของโลกในด้านของความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล คิดเป็นร้อยละ 32 ของตลาดโลก และประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดของภูมิภาคนี้ที่เติบโตเร็วที่สุด โดย ร้อยละ 77 ของผู้ใช้งานทวิตเตอร์ในประเทศไทย มีความสนใจในเรื่องของการดูแลผิวพรรณและร่างกายของตัวเอง และ 1 ใน 3 ของคนกลุ่มนี้มีความสนใจในเรื่องเครื่องสำอางเป็นอย่างมาก ผู้คนบนทวิตเตอร์ที่สนใจด้านความงามจะมีแพสชั่นในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และอยากเป็นคนแรกที่ค้นพบ ต้องการซื้อและทดลองเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ความงามใหม่ ร้อยละ 72ได้เข้ามาที่ทวิตเตอร์เพื่อค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ความงามใหม่ๆ และ มากกว่า ร้อยละ 50 อยากจะเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้ซื้อและได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้น กลุ่มผู้หญิงมีสัดส่วนถึงร้อยละ 62 ที่สนทนาและแสดงความเห็นในเรื่องของความงามบนทวิตเตอร์ประเทศไทย ในขณะที่การพูดคุยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลนั้นเริ่มขยายถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ชายมากขึ้นเช่นกัน สำหรับแบรนด์ที่ปรับตัวได้ทันกับยุคสมัยจึงมักจะเลือกใช้ทวิตเตอร์เป็นช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้จากข้อมูลที่มีอยู่ด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ ผู้คนบนทวิตเตอร์ที่มีความสนใจในเรื่องของความงามเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีความหลากหลาย และสนใจในเรื่องอื่นๆนอกเหนือจากเรื่องของความงามอีกด้วย เช่น เรื่องของอาหารเพื่อสุขภาพ, ดนตรี, การดูแลสุขภาพ, อาหารและเครื่องดื่ม และการทำอาหาร ซึ่งจากความสนใจในเรื่องต่างๆ เหล่านี้ ยังถือเป็นโอกาสที่เปิดกว้างให้กับนักการตลาดทั้งหลายได้สามารถสร้างบทสนทนาที่หลากหลายในการเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย ร้อยละ  74 ของผู้ที่สนใจเรื่องเครื่องสำอางจะหาข้อมูลของผลิตภัณฑ์ทางออนไลน์ก่อนตัดสินใจซื้อ โดยจะมีการตั้งคำถามบนทวิตเตอร์และมองหาคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้นๆ เพราะพวกเขาอยากเป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่ได้ซื้อสินค้าและให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของคนอื่นๆ บนทวิตเตอร์เป็นอย่างมาก ผู้ที่มีความสนใจในเรื่องความงามจะมีการใช้แฮชแท็กต่างๆ ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในการทวีตข้อความ แฮชแท็กความงามที่นิยมใช้กันในประเทศไทย ได้แก่ #ไว้รีวิวห้ามขายของโว้ยยย, #HowToPerfect, #ใช้ดีบอกต่อ, #ของดีบอกต่อ, #ของมันต้องมี โดยแบรนด์ใช้คำค้นหาด้วยแฮชแท็กเหล่านี้ก็จะทราบถึงเทรนด์ที่กำลังเป็นที่ต้องการของกลุ่มเป้าหมายในเชิงลึกได้ นอกจากนี้การใช้แฮชแท็กยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่แบรนด์สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาได้อีกด้วย พลังของการบอกต่อนับเป็นเครื่องมืออันทรงพลังอย่างหนึ่ง คนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้เรื่องของความสวยงามมักจะชอบทวีต, รีทวีตและโควททวีตเพื่อแสดงความคิดเห็น โดยร้อยละ 46 มักจะแสดงความคิดเห็นต่อผลิตภัณฑ์ที่เคยใช้ในขณะที่ ร้อยละ53 แฟนด้านความงามในประเทศไทยมักจะบอกต่อถึง ผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ รวมทั้งการรีวิวพร้อมติดแฮชแท็ก #ไว้รีวิวห้ามขายของโว้ยยย กับ #ใช้ดีบอกต่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ชื่นชอบความงามบนทวิตเตอร์มักจะใช้ในการรีวิวผลิตภัณฑ์ แม้ว่าชื่อเสียงของแบรนด์จะมีความสำคัญ แต่ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ก็ยังคงมองหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เสมอ แบรนด์ความงามสัญชาติไทยจึงได้เริ่มพยายามลองทำอะไรใหม่ๆ มากขึ้น มีการติดอาวุธด้านความรู้ใหม่ๆ ในเรื่องของเทรนด์ความนิยมของผู้บริโภคในประเทศ และเริ่มมีการใช้งานทวิตเตอร์เพิ่มมากขึ้นเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค-สำนักข่าวไทย.

อีริคสันคาดสิ้นปีคนใช้5Gแตะ220 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ธ.ค. อีริคสันเผยสิ้นปี 2563 จะมีผู้ใช้เข้าถึงเครือข่าย 5G ทั่วโลก มากกว่าหนึ่งพันล้านราย นางนาดีน อัลเลน ประธานบริษัท อีริคสัน (ประเทศ ไทย) จำกัด กล่าวว่า ภายในสิ้นปีนี้ จะมีจำนวนผู้สมัครใช้ 5G ทั่วโลก เพิ่มเป็น 220 ล้านราย  ปี 2569 ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียจะมีผู้ใช้ 5G เพิ่มขึ้นเป็น 380 ล้านราย หรือคิดเป็นร้อยละ  32 ของจำนวนผู้ใช้มือถือทั้งหมด  ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โอเชียเนีย และอินเดีย จะมีรายได้จากการให้บริการ 5G แก่ผู้บริโภค รวมกันถึง 297 พันล้านดอลลาห์สหรัฐฯ ในปี 2569  รายงาน Ericsson  Mobility  Report ฉบับล่าสุด ระบุว่า 4 ใน 10 ของจำนวนผู้ใช้มือถือในปี 2569 จะใช้ระบบเครือข่าย 5G เป็นหลัก จากปัจจุบันที่มีผู้สมัครใช้ 5G และเครือข่ายมีสัญญาณครอบคลุมมากขึ้น ตอกย้ำให้เห็นว่าเทคโนโลยี  5G คือปัจจัยสำคัญเชื่อมต่ออุปกรณ์มือถือที่ให้ความรวดเร็วที่สุด ตามรายงานยังระบุว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีจำนวนผู้คนทั่วโลกมากกว่า 1 พันล้านรายอยู่ในพื้นที่ที่เครือข่าย 5G  ครอบคลุม หรือคิดเป็นร้อยละ 15 ของจำนวนประชากรทั่วโลก และจะมีผู้ใช้ 5G ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 220 ล้านราย ในปี 2569 คาดว่าร้อยละ  60 ของประชากรทั่วโลกจะสามารถเข้าถึงระบบเครือข่าย 5G โดยมีผู้ใช้ 5G สูงถึง 3.5 พันล้านราย  และมีปริมาณดาต้อินเตอร์เน็ต 5G เกินกว่าร้อยละ 50 ของปริมาณดาต้าทั้งหมดในเวลานั้น สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย เทคโนโลยี  5G  จะกลายเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสองรองจาก LTE โดยมียอดผู้ใช้งานกว่า  380  ล้านราย หรือคิดเป็นร้อยละ 32  ของจำนวนผู้ใช้มือถือทั้งหมด   “5G จะเพิ่มศักยภาพบริการดิจิทัลและการใช้งานรูปแบบต่าง ๆ ที่มีอยู่ เช่น การสตรีมวิดีโอ สตรีมมิ่งกีฬา เกมบนมือถือและบริการสมาร์ทโฮมหรือบ้านอัจฉริยะ เฉพาะ Augmented Reality (AR) เพียงอย่างเดียวก็มีแนวโน้มที่เป็นตัวสร้างรายได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้จากสื่อต่าง ๆ ทั้งหมดของผู้ให้บริการเมื่อเทียบกับบริการอื่น ๆ เช่น เกมบนคลาวด์ คอนเทนท์แบบเสมือนจริงหรือ VR และบริการดิจิทัลในสถานที่ การเล่นเกมแบบ AR จะเป็นตัวขับเคลื่อนเริ่มต้นหลักให้กับ AR  โดยที่การใช้งานแอปพลิเคชันอื่น ๆ สำหรับ AR เช่น การรับชมโทรทัศน์และวิดีโอ การใช้งานในบ้าน โรงเรียนและเพื่อการศึกษาจะตามมา” ปริมาณการใช้งานอินเตอร์เน็ตบนมือถือในภาพรวมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ในช่วงคาดการณ์มีอัตราการเติบโตต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 33 และคาดว่าในปี 2569 จะเพิ่มสูงขึ้นถึง 32 เอกซะไบต์ (Exabyte) ต่อเดือน หรือราว 33 กิกะไบต์ (Gigabyte) ต่อเดือนต่อสมาร์ทโฟน โดยการเติบโตของปริมาณการใช้ดาต้าอินเตอร์เน็ตบนมือถือได้ถูกแปลงเป็นแผนข้อมูลที่มีความหลากหลายและกว้างมากขึ้น โดยผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในพื้นที่แตกต่างกันทางด้านภูมิศาสตร์ มีการเปิดตัวบริการ 5G เชิงพาณิชย์จำนวนมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียในช่วงครึ่งหลังของปีนี้อาทิ ออสเตรเลีย  นิวซีแลนด์และประเทศไทย และการเปิดประมูลคลื่นความถี่ที่กำลังจะมีขึ้นในปีหน้าที่เวียดนามและมาเลเซีย ซึ่งจะทำให้ระบบเครือข่าย 5G มีการเปิดใช้งานมากขึ้นเพิ่มเติม  “ผู้บริโภคในประเทศไทยได้เริ่มสัมผัสกับประโยชน์เด่น ๆ ที่สำคัญของ 5G เป็นชาติแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ในขณะเดียวกันอีริคสันประเทศไทยกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลไทยตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดของระบบนิเวศในประเทศไทยเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัลของประเทศที่มีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม  4.0  และ  5G สำหรับผู้ใช้ระดับองค์กร  ความสำเร็จของ 5G ในตลาดผู้บริโภคจะมีความสำคัญต่อผู้ให้บริการ เพราะจะสนับสนุนการขยายเครือข่ายเพื่อให้สามารถกำหนดเป้าหมายการใช้งานรูปแบบใหม่สำหรับอุตสาหกรรมและองค์กรต่าง ๆ ได้”  ในรายงาน Ericsson Mobility Report ระบุถึงความสำเร็จของ 5G ที่ไม่ได้ลิมิตแค่จำนวนตัวเลขของผู้ใช้งานและความครอบคลุมของสัญญาณที่เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการนำ 5G ไปเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจและแอปพลิเคชันใหม่ ๆ ซึ่งได้เริ่มปรากฎให้เห็นแล้ว อย่างเช่น การนำ 5G ไปใช้ในอุปกรณ์  Critical IoT เพื่อรองรับการทำงานของแอปพลิเคชันที่ต้องการการรับ-ส่งข้อมูลอย่างฉับไวภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภค  องค์กรและหน่วยงานของรัฐในหลายภาคส่วนสามารถพัฒนาระบบ 5G เป็นเครือข่ายสาธารณะหรือเครือข่ายที่ใช้เฉพาะ เพื่อสนับสนุนบริการสำคัญที่ต้องการความรวดเร็วสูง  การเล่นเกมบนคลาวด์ (Cloud Gaming) เป็นอีกหนึ่งหมวดหมู่ของแอปพลิเคชันเกิดใหม่ ด้วยความสามารถของระบบเครือข่าย 5G และเทคโนโลยีเอดจ์คอมพิวติ้งทำให้บริการสตรีมเกมบนสมาร์ทโฟนเข้าถึงประสบการณ์ที่มีคุณภาพ (QoE) เทียบเท่ากับการเล่นบนเครื่องพีซีหรือคอนโซลเปิดโอกาสให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมเกมที่มีความล้ำสมัย สมจริงในแบบโมบิลิตี้ รายงานอีกฉบับ “Harnessing the  5G  Consumer  Potential” จากอีริคสัน คอนซูเมอร์ แลป ที่คาดการณ์ว่าในปี 2573 ตลาด 5G ของผู้บริโภคทั่วโลกจะมีมูลค่าราว 31 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  และผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร (CSPs) ทั่วโลกจะสร้างรายได้จากการให้บริการ 5G สูง 3.7 ล้านล้านดอลลาห์สหรัฐฯ ซึ่งมีแนวโน้มสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีกหากมีบริการดิจิทัลใหม่ ๆ เกิดขึ้นตามมา  จากรายงานมีการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2573 ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โอเชียเนียและอินเดียจะสร้างรายได้จากกลุ่มผู้บริโภคที่ใช้ระบบเครือข่าย 5G รวมอยู่ที่ 297 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดว่าร้อยละ  79 ของรายได้ที่เกิดจากบริการดิจิทัล 5G ของผู้ให้บริการทั้งหมด (ประมาณ 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) จะมาจากบริการทางด้านวิดีโอและเพลงที่มีความคมชัดและคุณภาพเสียงระดับไฮไฟ (Hi-Fi)  บริการดิจิทัล 5G อื่น ๆ ได้แก่ วิดีโอ เพลง เกม AR และ VR รวมถึงบริการ IoT สำหรับผู้บริโภค-สำนักข่าวไทย.

โรงเรียนมัธยมดังระยองปกติ ไม่พบเด็กแต่งไปรเวท

ผอ.โรงเรียนมัธยมตากสินระยอง เผยเปิดเรียนวันแรกเช้านี้ปกติเรียบร้อย นักเรียนแต่งเครื่องแบบตามระเบียบ ไม่พบชุดไปรเวท ส่วนโคราชพบบางคนแต่งไปรเวท อาจารย์พูดคุยทำความเข้าใจ

แคทจับมือพันธมิตรติดฟรีไวไฟ200จุดรอบกทม.

กรุงเทพฯ 1 ธ.ค. แคท จับมือพันธมิตรให้บริการ Free WiFi รอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประเดิม 200 จุดทั่วกทม ต้นปี64 พันเอก สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ลงนามร่วมกับ นายรัตนพล วงศ์นภาจันทร์ ประธานกรรมการฝ่ายบริหาร บริษัท โอบีโอเอ็น คอร์เปอเรชั่น จำกัด (OBON) ในบันทึกความร่วมมือการให้บริการ Free WiFi Service  ความร่วมมือระหว่าง CAT และ OBON จะเป็นการนำทรัพยากรที่มีของทั้งสองหน่วยงานมาใช้ประโยชน์ร่วมกันเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตในรูปแบบ Free WiFi ซึ่งนับเป็นการขยายโอกาสการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประชาชนในกรุงเทพมหานครให้มีมากขึ้น ทั้งนี้ เบื้องต้น CAT จะนำโครงข่ายอินเทอร์เน็ต ตลอดจนอุปกรณ์โทรคมนาคมที่เกี่ยวข้องมาให้บริการในพื้นที่กว่า 200 จุด ในระยะเวลา 5 ปี ภายใต้ชื่อ@NT fre wifi โดยมุ่งเน้นติดตั้งในสถานที่ที่มีความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มีความเสถียรและการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพสูง  ซึ่งประชาชนจะสามารถใช้บริการ Free WiFi นี้ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเกตเวย์รายใหญ่ที่มีโครงข่ายไฟเบอร์ออปติกครอบคลุมทั่วประเทศไทย และเชื่อมตรงสู่ทั่วโลกมีความมั่นใจที่จะนำโครงข่ายของเรามาให้บริการ Free WiFi  ให้กับผู้ใช้บริการในทุกพื้นที่ ได้มีโอกาสในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศสู่ดิจิทัลไทยแลนด์ 4.0 “การใช้งานจะล็อกอินผ่านแพลตฟอร์มเฟสบุ๊ก โดย กสท จะหารือกับเฟสบุ๊กเพื่อเลือกพื้นที่ที่จะให้บริการคาดว่าจะเริ่มให้บริการในระยะแรกในไตรมาสที่1 ของปี 2564 ประมาณ 200 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยจะใช้งานได้ที่ความเร็วที่ 30 เมกกะบิตต์ต่อวินาที ด้วยการ ล็อกอินครั้งละ 3 ชั่วโมงหน้าที่ของบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ หนือ NT เป็นส่วนหนึ่งของการเข้าถึงประชาชน ที่มีสิทธิในการเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตที่เป็นบริการสาธารณูปโภคที่ประชาชนควรได้จากรัฐ รายได้ที่เกิดขึ้นจึงมุ่งไปที่การทำให้บริการอยู่ต้อไปได้ ” พันเอกสรรพชัย กล่าว  นายรัตนพล วงศ์นภาจันทร์ ประธานกรรมการฝ่ายบริหาร บริษัท โอบีโอเอ็น คอร์เปอเรชั่น จำกัด (OBON) เปิดเผยว่าในปัจจุบัน ทุกคนมีความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้นเรื่อย ๆ และทุกอย่างในชีวิตปัจจุบันมีอินเทอร์เน็ตเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่ง OBON เล็งเห็นว่ายังมีคนไทยอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่สามารถเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ในทุกพื้นที่ “วิสัยทัศน์ของเราคือการเข้าถึง Free WiFi ได้ในทุกพื้นที่ บริการ Free WiFi ที่ใช้งานได้จริง ความพร้อมของ Free WiFi ที่มีกำลังส่งดาต้า และการให้บริการ Free WiFi ที่ง่ายต่อการเข้าใช้งานโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ทั้งนี้ OBON คาดหวังว่า @nt Free WiFi – CAT จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่ยุค“ดิจิทัลไทยแลนด์ 4.0” โดยเราจะมีกิจกรรมมากมายเกี่ยวกับโครงการ @nt Free WiFi ให้ผู้เข้าใช้งานได้ร่วมสนุกจากกลุ่มผู้สนับสนุนในทุกภาคส่วน” -สำนักข่าวไทย.

คุมได้แล้วไฟลุกถังเก็บเม็ดพลาสติก HMC มาบตาพุด

ระยอง 30 พ.ย.- บริษัท HMC นิคมฯ มาบตาพุด ระยอง คุมสถานการณ์ไฟลุกถังเก็บเม็ดพลาสติก ช่วงเย็นวันนี้เรียบร้อยแล้ว ไม่มีผู้บาดเจ็บ เร่งตรวจสอบสาเหตุ เมื่อเวลา 16.00 น. (30 พ.ย.) เกิดเหตุไฟลุกขึ้นบริเวณถังเก็บผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกของบริษัทเอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์ จำกัด เขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ทีมระงับเหตุฉุกเฉินเร่งตัดแยกระบบ พร้อมประสานขอรถดับเพลิงของบริษัทใกล้เคียง รวมทั้งรายงานเหตุไปยังสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เทศบาลเมืองมาบตาพุด สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดระยอง และชุมชนรอบข้าง น.ส.บุปผาพรรณ พานทอง ผู้จัดการฝ่ายกิจการสัมพันธ์ของบริษัทฯ กล่าวว่า ตามที่บริษัท เอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์ จำกัด เกิดเหตุไฟลุกที่ถังเก็บผลิตภัณฑ์นั้น ล่าสุด 17.16 น. สามารถควบคุมและดับไฟได้เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับอันตรายหรือบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุต้องรอการตรวจสอบให้ชัดเจน.-สำนักข่าวไทย

สดช.ร่วม22องค์กรรัฐทำดิจิทัลเอาท์ลุก2020

กรุงเทพฯ 30 พ.ย. สดช. ประกาศแสดงเจตนารมณ์ร่วม 22 หน่วยงาน จัด Thailand Digital Outlook 2020 ระยะ 2 ขับเคลื่อนการพัฒนาดิจิทัลให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ นางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวในโอกาสเป็นประธานเปิดเผยผลการสำรวจและจัดทำดัชนีตัวชี้วัดด้านดิจิทัลของประเทศ ปี 2563 (Thailand Digital Outlook 2020) โครงการศึกษาวิจัย Thailand Digital Outlook ระยะที่ 2 ที่ สดช. ได้ร่วมมือกับทีมที่ปรึกษา ในการศึกษาแนวทางการจัดเก็บตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ว่า การสำรวจยึดหลักเกณฑ์และกรอบการดำเนินงานในระดับสากลที่องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OECD ได้กำหนดไว้  และมีเป้าหมายสำคัญเพื่อสำรวจและศึกษาสถานภาพปัจจุบันด้านการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศไทย หรือThailand Digital Outlook อันจะนำไปสู่การจัดเตรียมการและข้อเสนอแนะเพื่อปฏิรูประบบดิจิทัลและการดำเนินนโยบายและมาตรการการพัฒนาด้านดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศต่อไป โดยมีผู้บริหารจากทั้งรัฐและเอกชนจำนวน 22 หน่วยงาน เข้าร่วม  นางวรรณพร กล่าวอีกว่า กระทรวงดิจิทัลฯ ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกในคณะนโยบายขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) เมื่อปี พ.ศ. 2561 ตามแนวทางการปฏิบัติที่เป็นเลิศในระดับสากลตามกรอบที่ OECD กำหนดเช่น กรอบ OECD Measuring the Digital Transformation และกรอบ OECD Going Digital Toolkit ซึ่งประกอบด้วยการประเมินสภาพเศรษฐกิจดิจิทัล ผ่านตัวชี้วัดใน 8 ด้าน มิติ คือ การเข้าถึง (Access) การใช้งาน (Use) นวัตกรรม (Innovation)  อาชีพ (Jobs) สังคม (Society) ความน่าเชื่อถือ (Trust) การเปิดเสรีของตลาด (Market Openness) และการเติบโตและสภาพความเป็นอยู่ (Growth & Well-being) และมีตัวชี้วัดมากกว่า 130 ตัวชี้วัด นำไปสู่การดำเนินโครงการศึกษาวิจัย Thailand Digital Outlook ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินสถานภาพการพัฒนาด้านดิจิทัลของประเทศ ซึ่งดำเนินการโดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) และสอดคล้องกับภารกิจหนึ่งของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่จะต้องรับทราบ ทำความเข้าใจ การเปลี่ยนผ่านในยุคดิจิทัลที่เกิดขึ้นภายในประเทศ วิเคราะห์ประเด็นทางเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล รวมถึงแนวโน้มการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อันจะช่วยให้กระทรวงฯ และ สดช. สามารถเตรียมการ จัดทำนโยบายและแผนงาน รวมถึงออกมาตรการเพื่อมุ่งส่งเสริมและพัฒนาดิจิทัลของประเทศโดยรวมต่อไปได้ ปี 2563 สดช. ได้มีการดำเนินโครงการศึกษาวิจัย Thailand Digital Outlook ระยะที่ 2 ขึ้น โดยดำเนินการศึกษาวิจัย สำรวจและวิเคราะห์ประเด็นทางเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงแนวโน้มการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยอาศัยกรอบตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญตามแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศในระดับสากลตามกรอบของ OECD ผลการศึกษาวิจัยจากโครงการนี้ ถือเป็นที่น่าพอใจยิ่ง สามารถแสดงภาพการพัฒนาด้านดิจิทัลของประเทศ อันเป็นผลจากการดำเนินนโยบายดิจิทัลของกระทรวงฯ สดช. และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสะท้อนให้เห็นจุดแข็งและจุดอ่อนของประเทศไทยในปัจจุบัน ที่ต้องได้รับการพัฒนาต่อยอด หรือปรับปรุงแก้ไขต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนยังสามารถนำข้อมูลผลการสำรวจ และผลการศึกษาวิจัยต่าง ๆ จากโครงการศึกษาวิจัย Thailand Digital Outlook ระยะที่ 2 ไปใช้ประโยชน์ต่อยอดได้โดยแท้จริง ทั้งการปฏิบัติงานตามภารกิจของหน่วยงาน การให้บริการภาคประชาชนและภาคธุรกิจ การออกนโยบายและมาตรการส่งเสริมภาคประชาชนและภาคธุรกิจสำหรับหน่วยงานภาครัฐ และการวางแผนดำเนินกิจการในธุรกิจของท่านสำหรับภาคเอกชนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสอดรับกับสภาพตลาดในยุคดิจิทัลไทยแลนด์-สำนักข่าวไทยสดช

ดีแทคจับมือยาราพัฒนาเกษตรโกแพลตฟอร์มช่วยเกษตรกรตัดสินใจเพาะปลูก

กรุงเทพฯ 30 พ.ย. ดีแทคจับมือยาราเปิดตัว Kaset Go เครือข่ายดิจิทัลชุมชนเพื่อเกษตรกรแห่งแรกในประเทศไทย นายชารัต เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ลแอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทคกล่าวว่า แพลตฟอร์ม Kaset Go มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของภาคการเกษตรของประเทศไทยด้วยการเชื่อมโยงเกษตรกรกับผู้เชี่ยวชาญเข้ากับชุมชนเกษตรกร 30 พฤศจิกายน 2563-ดีแทคและยาราประเทศไทยเปิดตัว Kaset Go แอปพลิเคชันบนมือถือที่เชื่อมต่อเกษตรกรเข้ากับข้อมูลเชิงลึกที่เชื่อถือได้และเรียลไทม์ที่ตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรแอปพลิเคชันได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้เกษตรกรไทยใช้ประโยชน์จากความรู้ด้านการเกษตรของยาราประเทศไทยและเทคโนโลยีการสื่อสารจากดีแทคปัจจุบัน Kaset Go เปิดโอกาสให้เกษตรกรถามคำถามกับผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรและแบ่งปันความรู้กับเกษตรกรรายอื่นในชุมชนที่มีประสบการณ์คล้ายกันนอกจากนี้ยังช่วยให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญเช่นราคาพืชผลประจำวันข่าวเกษตรเคล็ดลับเกี่ยวกับพืชหลัก 8 ชนิดในประเทศไทย ได้แก่ ข้าวข้าวโพดไร่ผักทุเรียนมังคุดลำไยส้มและมะม่วงรวมทั้งพืชอีกกว่า 52 ชนิดเนื้อหามีความเหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของเกษตรกรในภูมิภาคต่างๆของประเทศไทยและจะมีเนื้อหาเฉพาะเพื่อสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรที่มีความสนใจเฉพาะทางเช่นการให้คำแนะนำเรื่องมาตรฐานและใบรับรองทางการเกษตรการ เนื้อหาในแอปพลิเคชันนี้ได้รับการสนับสนุนโดยผู้เชี่ยวชาญจากกรมส่งเสริมการเกษตรภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิดและยาราประเทศไทย Kaset Go อาจเป็นตัวเปลี่ยนวิธีในการทำเกษตรแบบดิจิทัลของประเทศไทย นับตั้งแต่การเปิดตัวในเดือนสิงหาคม Kaset Go มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 150,000 ครั้งและดึงดูดผู้ใช้ที่ลงทะเบียนมากกว่า 100,000 คนเนื่องจากจำนวนการดาวน์โหลดและผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณดีแทคและยาราประเทศไทยกำลังวางแผนการพัฒนาขั้นต่อไปของ Kaset Go ซึ่งจะรวมข้อมูลเกี่ยวกับพืชผลอีก 44 รายการและฟีเจอร์หลักที่สำคัญในการเพาะปลูกเช่นคำเตือนสภาพอากาศการแจ้งเตือนโรคการเปรียบเทียบราคาตลาดนอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายไปสู่บริการเสริมอื่นเช่นอุปกรณ์ฟาร์มประกันภัยและการเงิน นายเมดเซนท์-อังเดร์กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยารา (ประเทศไทย) จำกัด และรองประธานกลุ่มธุรกิจประเทศไทยและประเทศเมียร์ กล่าวว่า ยาราเขื่อว่า Kaset Go จะกลายเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยสำหรับเกษตรกรและเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในอุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศไทย” 4 ฟีเจอร์เด่นแอปKaset Go ที่สนับสนุนเกษตรกรไทยให้ก้าวไกล คำถามและคำตอบที่ได้รับการรับรอง การให้คำตอบที่เป็นประโยชน์และให้คำปรึกษาแก่เกษตรกรในแพลตฟอร์มผ่านการแลกเปลี่ยนความรู้ของเกษตรกรในชุมชนโดยมีผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้รับรองความถูกต้อง การเชื่อมต่อและแบ่งปันความรู้ ชุมชนที่เกษตรกรสามารถเชื่อมต่อกับผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่และเพื่อนเกษตรกรได้อย่างเปิดเผยเพื่อแบ่งปันความรู้เชิงปฏิบัติจากประสบการณ์จริงของตนเองส่งเสริมการสร้างชุมชนตามพืชผลหัวข้อและพื้นที่ของเกษตรกรเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้นในชุมชนจะได้รับการรวบรวมและแบ่งปันกลับไปยังเกษตรกรในแพลตฟอร์มรวมถึงประสบการณ์จริงจากภูมิปัญญาท้องถิ่นและข้อมูลราคา   นอกจากนี้จะมีข้อมูลเชิงลึกที่ตรงความต้องการและสามารถนำไปใช้ได้ทันทีเนื่องจากข้อมูลการเกษตรมีความหลากหลาย Kaset Go จึงช่วยให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการจัดลำดับและวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดแบบเรียลไทม์และสามารถให้ข้อมูลสำคัญกลับไปยังเกษตรกรได้อย่างทันท่วงทีช่วยให้เกษตรกรติดตามแนวโน้มการเพาะปลูกและเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกที่นำไปปฏิบัติได้ในท้องถิ่นเพียงปลายนิ้วสัมผัสเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจที่ดีขึ้นสำหรับการเกษตรของตน และบริการด้านการเกษตรแบบดิจิทัล คุณสมบัติที่สร้างมูลค่าเพิ่มพัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มการทำงานของแพลตฟอร์ม Kaset Go ได้แก่ เทคโนโลยีล้ำสมัยที่สามารถตอบสนองความต้องการของเกษตรกรได้ดีขึ้นตามสถานที่เช่นราคาพืชผลการพยากรณ์อากาศคำเตือนสภาพอากาศและการแจ้งเตือนศัตรูพืช-สำนักข่าวไทย.

1 4 5 6 7 8 16,774
...