อธิบดี พช.ขับเคลื่อนแผนงานพัฒนาชุมชนเร่งสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน

ระยอง 25 ส.ค.- อธิบดี พช.มอบนโยบายพัฒนาชุมชน จ.ระยอง มุ่งเน้นเป็นข้าราชการที่ดี ทุ่มเททำงานพัฒนาชุมชนเพื่อประชาชนอยู่ดีกินดีมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน วันที่ 25 ส.ค. เวลา 10.30 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เดินทางไปยังห้องประชุมสร้อยเพชร 3 โรงแรมโกลเด้น ซิตี้ ระยอง อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อมอบนโยบายการปฏิบัติราชการและบรรยายพิเศษในหัวข้อ บทบาทของกรมการพัฒนาชุมชนกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ให้แก่เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนจังหวัดระยองจำนวน 50 คน โดยมีนายพิศ นันทพูนพิพัฒน์ พัฒนาการจังหวัดระยอง บรรยายสรุปผลการดำเนินงานพัฒนาชุมชนในพื้นที่ และมีนายโชคชัย แก้วป่อง รองอธิบดีฯ นางสาวชนมณัฐ รอดบุญธรรม ผู้ตรวจราชการกรม ร่วมรับฟังนโยบาย นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ขอให้ข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชนมีใจที่แน่วแน่ในการเป็นข้าราชการที่ดี ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยน้อมนำพระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่ 9 และในหลวงรัชกาลที่ 10 มาเป็นแนวทางในการทำงาน ต้องรอบรู้ ขยัน อดทน ใช้ความเพียรทำให้เป็นที่รักของชาวบ้าน […]

ล็อตใหญ่! กาญจนบุรียึดยาเสพติดซุกช่องลับพื้นรถกึ่งพ่วงเตรียมส่งเครือข่าย

กาญจนบุรี 25 ส.ค.- ผบ.ตร.เกาะติดคดีสำคัญกาญจนบุรียึดยาเสพติดล็อตใหญ่ ชุดสนธิกำลังทองผาภูมิช่างสังเกตคุ้นหน้าคนขับชายวัย 59 ปี ขับเก๋งขาวขึ้นไปสังขละบุรี กลับมาอีกทีคราวนี้ขับรถบรรทุกกึ่งพ่วงพบไอซ์ 1,385 กก. เฮโรอีน 77 กก. เจ้าตัวสารภาพจะไปส่งย่านนครปฐม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ติดตามผลการปราบปรามยาเสพติดล็อตใหญ่จากการสนธิกำลังของตำรวจ ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 และฝ่ายปกครอง ตั้งจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ ถนนสายสังขละบุรี-ทองผาภูมิ เมื่อคืนที่ผ่านมา (24 ส.ค.) พบรถบรรทุกกึ่งพ่วงต้องสงสัย ทะเบียน 72-5155 นครปฐม จึงขอตรวจค้นปรากฏว่าเจ้าหน้าที่คุ้นหน้าคนขับได้ คือ นายศักดิ์ชัย แกรอด อายุ 59 ปี เพราะก่อนหน้านี้นายศักดิ์ชัย ขับรถเก๋งสีขาว ผ่านไปก่อนแล้วมุ่งหน้าอำเภอสังขละบุรี แต่มาคราวนี้ขับรถบรรทุกกึ่งพ่วงกลับออกมาจากอำเภอสังขละบุรีเพื่อเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี การตรวจค้นรถบรรทุกพบยาเสพติดบรรจุห่ออย่างดีซุกซ่อนไว้พื้นที่รถถูกดัดแปลงเป็นช่องลับ ประกอบด้วยไอซ์ 1,385 ห่อ น้ำหนักรวม 1,385 กิโลกรัม เฮโรอีน […]

สุโขทัยน้ำยมแรง ซัดบ้านพังทั้งหลัง

สุโขทัย 25 ส.ค.- พนังคันดินสุโขทัยต้านแรงแม่น้ำยมไม่อยู่ ทะลักท่วมชุมชนริมฝั่งสวรรคโลกนับร้อยหลัง เจ้าของบ้านเศร้าใจเห็นบ้านพังทั้งหลังพร้อมทรัพย์สิน เคราะห์ดีที่พาครอบครัวไปอยู่บ้านญาติก่อน สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดสุโขทัยยังน่าห่วง เนื่องจากพนังคันดินกั้นแม่น้ำยมในพื้นที่หมู่ 7 ต.ท่าทอง อ.สวรรคโลก ถูกกระแสน้ำกัดเซาะเสียหาย ทำให้น้ำไหลเชี่ยวเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 100 หลัง โดยเฉพาะหลังที่ปลูกสร้างอยู่ทางไหลของน้ำถูกน้ำซัดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วานนี้ (24 ส.ค.) ล่าสุดบ้านพังไปกับน้ำทั้งหมด ส่วนเจ้าของบ้านต้องหนีออกมาอยู่ด้านนอกก่อนแล้ว และไม่สามารถเก็บทรัพย์สินได้ทัน นายอำนาจ เขียวฤทธิ์ เจ้าของบ้านดังกล่าว เล่าว่า ที่บ้านอยู่ด้วยกัน 4 คน คือ พ่อแม่ และภรรยา เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา น้ำยมเริ่มเซาะคันดินแค่เพียงเล็กน้อย แต่ไม่วางใจ จึงพาพ่อแม่ไปฝากไว้ที่บ้านญาติ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ตนไม่สามารถเก็บของมีค่าได้ทัน เพราะน้ำแรงมาก มีเพียงเสื้อผ้าชุดเดียว แม้เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยเหลือพาเข้าไปเก็บเอกสารสำคัญก็ไม่สามารถเข้าไปได้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ส่วนการบริหารจัดการมวลน้ำในครั้งนี้ทางชลประทานได้ผันน้ำจากจุดวัดน้ำ y14 อ.ศรีสัชนาลัย ที่มีมวลน้ำถึง 1,499 ลบม/วินาที ให้แบ่งออกทางคลองหกบาท 356 ลบม./วินาที ออกทางคลองยม-น่าน 106 […]

ผอ.ศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี แจงกรณีหญิงท้องเสียชีวิตหลังคลอด

ราชบุรี 25 ส.ค.- ผอ.ศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี แจงกรณีหญิงวัย 33 ปี เข้ารับการผ่าตัดคลอดบุตรแล้วเสียชีวิต หลังกลับไปพักฟื้นที่บ้าน พร้อมเร่งหาสาเหตุและรอผลชันสูตรทางนิติเวช ก่อนประชุมคณะกรรมการอนามัยแม่และเด็กระดับเขต คาดจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้ วันนี้ (25 ส.ค.) ที่ห้องประชุมศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี น.พ.วิเชียร ตันสุวรรณนนท์ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี และ นพ.สมเกียรติ อรุณภาคมงคล รองผู้อำนวยการศูนย์ด้านบริการ ชี้แจงกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.กฤษณา แย้มอยู่ อายุ 33 ปี ว่า น.ส.กฤษณา บ้านอยู่ที่ จ.สมุทรสงคราม คลอดบุตรที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยแพทย์ผ่าตัดทำคลอดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม และให้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจนสุขภาพดีขึ้น จากนั้นกลับไปพักฟื้นที่บ้าน ต่อมาวันที่ 17 […]

นักกฎหมายไอทีชี้เฟซบุ๊กฟ้องได้แค่ขอยกเลิกคำสั่งศาล

กรุงเทพฯ 25 ส.ค. ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายชี้เฟซบุ๊กฟ้องได้แค่ให้ยกเลิกคำสั่งศาล ชี้การออกคำสั่งปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมาย อยู่บนหลักการกฎหมายที่ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ย้ำเป็นอำนาจศาลไทยไม่สามารถก้าวล่วงได้ นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวกรณีที่เฟสบุ๊กออกแถลงการณ์จะโต้แย้งทางข้อกฎหมายต่อข้อเรียกร้องของรัฐบาลไทยว่า หากเฟซบุ๊กจะโต้แย้งทางข้อกฎหมายอย่างที่แถลงการณ์ระบุก็สามารถทำได้โดยน่าจะเป็นการฟ้องเพื่อยกเลิกคำสั่งศาล ไม่ใช่ฟ้องรัฐบาลไทยอย่างที่เข้าใจกับ และเชื่อว่าถึงจะฟ้องไปก็น่าจะมีเหตุผลสนับสนุนคำฟ้องค่อนข้างน้อย  เพราะคำสั่งปิดบล็อกเว็บไซต์เป็นการใช้ดุลยพินิจของศาลไทยที่สามารถสั่งได้ และคำสั่งศาลนั้นเป็นอำนาจอธิปไตยขององค์กรตุลาการของแต่ละประเทศไม่สามารถก้าวล่วงได้ การที่ศาลไทยมีคำวินิจฉัยออกมามีการใช้ดุลยพินิจพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วว่าการกระทำที่เกิดขึ้นผิดกฎหมาจจึงออกคำสั่ง นอกจากนี้ การปิดบล็อกเว็บไซต์เป็นการใช่อำนาจตามกฎหมาย คือ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ที่มีต้นร่างมาจากหลักกฎหมาย Cyber Crime Convention ที่ต่างประเทศใช้กับซึ่งกฎหมายฉบับนนี้ไม่ได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนตามที่มีการกล่าวอ้าง-สำนักข่าวไทย.

ผู้ให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอลเตรียมปรับปรุงโครงข่าย

กรุงเทพฯ 25 ส.ค. ชมรมผู้ให้บริการโครงข่ายฯเริ่มปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องส่งออกอากาศโครงข่ายทีวีดิจิตอล ตามนโยบายของ กสทช. เริ่ม ก.ย. นี้ นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานชมรมผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดิจิทัล (MUX) หรือ Digital Television Network Provider Society (DNPS) กล่าวว่า ผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดิจิทัล (MUX) เดินหน้าปรับปรุงโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลเพื่อรองรับการเรียกคืนคลื่นความถี่ย่าน 700 เมกะเฮิรตซ์ ของ กสทช. เริ่ม ก.ย.นี้ พร้อมเปิดคู่สายผู้ให้บริการโครงข่ายฯ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สอบถาม หากพบปัญหาในการรับชม ทั้งนี้ตามที่ กสทช.ได้จัดการประมูลคลื่นความถี่ในย่านต่างๆ รวมถึงคลื่นความถี่ในย่าน 700 เมกะเฮิรตซ์ ที่ใช้ในกิจการกระจายเสียง เพื่อนำมาใช้ในกิจการโทรคมนาคมในการรองรับเทคโนโลยี 5G เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมานั้น ส่งผลให้ผู้ให้บริการโครงข่ายฯ ต้องดำเนินการปรับปรุงอุปกรณ์เครื่องส่งออกอากาศ โครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล เนื่องจากสัญญาณอาจประสบปัญหาโดยจะเริ่มดำเนินการปรับปรุงโครงข่ายฯ ในพื้นที่ความรับผิดชอบของแต่ละโครงข่ายฯ ระหว่างเดือนกันยายน 2563  – กุมภาพันธ์ 2564 เริ่มพื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่แรกซึ่งจะเริ่มดำเนินการในช่วงเดือนกันยายน 2563 จากนั้นจะเริ่มดำเนินการในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล และบริเวณใกล้เคียงในวันที่ 5 ตุลาคม 2563 ต่อด้วยพื้นที่ภาคเหนือในเดือนตุลาคม 2563 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเดือนพฤศจิกายน 2563 และพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก คาดว่าจะเริ่มภายในเดือนมกราคม 2564 และสิ้นสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ในการปรับปรุงโครงข่ายฯ ทางชมรมโครงข่าย กำหนดให้มีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเป็นผู้รับรองมาตรฐาน แต่เนื่องจากในขณะนี้ทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทต่างประเทศไม่สามารถเดินทางเข้ามาปรับจูนหรือปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องส่งและคอมบายเนอร์ตามแผนที่กำหนดได้ ชมรมผู้ให้บริการโครงข่ายฯ จึงได้หารือร่วมกันและได้ข้อสรุปว่า  จะให้เจ้าหน้าที่หรือวิศวกรผู้เชี่ยวชาญภายในประเทศที่ผ่านการฝึกอบรมและมีใบรับรองมาตรฐานสากลดำเนินการปรับปรุงโครงข่ายฯ ให้แล้วเสร็จ หลังจากนั้นจึงให้ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้ามาดำเนินการตรวจสอบความเรียบร้อยต่อไป นายเขมทัตต์ กล่าวต่อไปว่า ภายหลังการปรับเปลี่ยนคลื่นความถี่ในการส่งสัญญาณโทรทัศน์ ตามช่วงเวลาที่ระบุไว้ข้างต้นหากผู้ชมพบว่าไม่สามารถรับชมรายการผ่านสายอากาศแบบก้างปลาได้ตามปกติอาจจะต้องปรับจูนกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล (Set Top Box) เพื่อให้สามารถกลับมารับชมดิจิทัลทีวีได้อีกครั้ง โดยในพื้นที่ต่างจังหวัดสามารถปรับจูนสัญญาณได้ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ของวันที่มีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์  ส่วนกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และพื้นที่ใกล้เคียงสามารถปรับจูนสัญญาณได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป สามารถตรวจสอบวันเวลาปรับเปลี่ยนสัญญาณในพื้นที่ พร้อมคู่มือการจูนสัญญาณโดยละเอียดได้ที่ เว็บไซต์ http://700.nbtc.go.th หรือหมายเลขโทรศัพท์  Call Center 020-700-700  ผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดิจิทัล  4 หน่วยงาน ประกอบด้วย สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก, กรมประชาสัมพันธ์, องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย และ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) -สำนักข่าวไทย.

พบศพผู้สูญหายแล้วรายสุดท้าย หลังพลัดจมน้ำฝายแม่ตุ๋ย

ลำปาง 25 ส.ค.- ลำปางพบแล้วผู้เสียชีวิตรายสุดท้ายจากเหตุพลัดจมน้ำฝายแม่ตุ๋ยนาน 3 วัน ตั้งแต่ 22 ส.ค. หลังพบศพแรกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทุ่งม่านพัฒนา ที่ทั้งสองออกไปช่วยกันขจัดวัชพืชเปิดทางน้ำช่วงน้ำป่าหลากท่วมจากฝนตกหนัก กรณีนายประจวบ เทพปินตา อายุ 51 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทุ่งม่านพัฒนา ม.11 ต.บ้านเป้า อ.เมือง จ.ลำปาง และนายอนันต์ แก้วมณีวรรณ อายุ 56 ปี จิตอาสาและดูแลประปาหมู่บ้าน พลัดจมหายไปในลำน้ำแม่ตุ๋ย บริเวณหน้าฝายน้ำล้นขณะช่วยกันดันวัชพืชผักตบชวาและซากกิ่งไม้ที่ไหลมากับน้ำป่าออกจากหน้าฝายช่วงฝนตกหนัก เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา และวานนี้ (24 ส.ค.) พบศพนายประจวบ แล้วลอยอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร วันนี้ (25 ส.ค.) ชุดเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดลำปาง , ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง และสมาคมกู้ภัยลำปาง เดินหน้าค้นหาอย่างต่อเนื่องบริเวณลำน้ำแม่ตุ๋ยทั้ง 2 ฝั่ง กระทั่งเวลาประมาณ […]

อธิบดี พช.ให้กำลังใจกลุ่ม OTOP ระยอง สร้างเศรษฐกิจฐานรากมั่นคง

ระยอง 25 ส.ค.- อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เยี่ยมให้กำลังใจกลุ่ม OTOP ระยอง สร้างเศรษฐกิจฐานรากมั่นคง พร้อมให้คำแนะนำการคัดเลือกวัตถุดิบและรูปแบบที่โดนใจตลาด นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมข้าราชการร่วมสนับสนุนภารกิจนายกรัฐมนตรี ในการตรวจราชการและประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2563 รวมทั้งยังไปเยี่ยมชมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสานกระจูดบ้านมาบเหลาชะโอน ต.ซากพง อ.แกลง ซึ่งเป็นหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว โดยมีนายมนตรี ยิ้มเยื้อน ประธานกลุ่มวิสาหกิจฯ ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปความเป็นมาของกลุ่มฯ โดยให้ข้อมูลว่าที่นี่มีชาวบ้านรวมกลุ่มสานกระจูดกว่า 40 ครัวเรือน มีผลิตภัณฑ์กว่า 100 แบบ ส่งขายตรง ตลาดออนไลน์ และตามตลาดที่กรมการพัฒนาชุมชน/บริษัทประชารัฐรักสามัคคีระยอง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด สนับสนุน ส่งผลให้ประชาชนมีรายได้เข้าชุมชน กว่า 3 แสนบาทต่อเดือน ที่ผ่านมาเป็นสถานที่ศึกษาดูงานให้กับหน่วยงานต่างๆ และประชาชนผู้สนใจเข้าเยี่ยมชม กว่า 100 คนต่อวัน รวมถึงการเชื่อมโยงเป็นเส้นทางท่องเที่ยวในชุมชนอีกด้วย อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนยังได้แนะนำการดีไซน์และคัดเลือกวัตถุดิบรวมถึงสีสันที่ใช้ให้นึกถึงรสนิยมของคนในเรื่องรูปทรง ขนาด ซึ่งต้องมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน เช่น บริษัทประชารัฐซึ่งรู้จักนักออกแบบ […]

ดีป้าเสนอระบบพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวบ้าน

ระยอง 25 ส.ค. ดีป้าจับมือพันธมิตรแสดงดิจิทัลโซลูชั่น ยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน-พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วย นายณัฐพลนิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า นำคณะผู้แทนจาก บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส บริษัท เวริลี วิชั่น จำกัด และชมรมธีราทรเพื่อผู้พิการ ร่วมออกบูธนิทรรศการ พร้อมให้การต้อนรับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) สัญจร ณ โรงแรมสตาร์ คอนเวนชัน เพื่อนำเสนอข้อมูลโครงการดิจิทัลโซลูชันเด่นที่นำมาประยุกต์ใช้ในพื้นที่ประกอบด้วย แอปพลิเคชัน depa PM2.5 ที่ถูกพัฒนาขึ้นร่วมกันระหว่าง สถาบันไอโอทีและนวัตกรรมดิจิทัล ดีป้า และเอไอเอส เพื่อเป็นเครื่องมือให้ประชาชนในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ประกอบด้วยจังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ใช้รับมือกับปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ สอดรับลักษณะการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ด้านสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment) โดยได้ดำเนินการติดตั้งเซนเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิ ความชื้น และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เพื่อส่งข้อมูลต่าง ๆ ที่ตรวจวัดได้ไปยัง“Magellen” ไอโอทีแพลตฟอร์มของ เอไอเอส ด้วยเครือข่าย NB-IoT เพื่อประมวลผล ก่อนรายงานข้อมูลทั้งหมดผ่านแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ Container Truck Gate Automation โดย เวริลี วิชัน เครือข่ายดิจิทัลสตาร์ทอัพของ ดีป้า ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการการทำงานบริเวณทางเข้าออกท่าเรือสำหรับผู้ให้บริการท่าเรือสินค้า ผู้ให้บริการลานตู้คอนเทนเนอร์สินค้า ผู้ให้บริการคลังสินค้า และโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูล ให้กับวิสาหกิจชุมชน ทั้งในและการอ่านป้ายทะเบียนรถบรรทุกอัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยี Deep Learning ที่ใช้งานร่วมกับกล้องวงจรปิด และเซนเซอร์ พร้อมรองรับการทำงานของระบบช่องทางเดินรถแบบบริการตนเองอัตโนมัติ (Gate Kiosk) เพื่อให้คนขับรถสามารถยืนยันตัวตนและส่งข้อมูลเพิ่มเติมได้ โดยโครงการดังกล่าวสอดรับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะด้านการเดินทาง ขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) โครงการเกษตรอัจฉริยะหนุนเสริมกลุ่มครอบครัวผู้พิการ โดยชมรมธีราทรเพื่อคนพิการ ในอำเภอแกลง จังหวัดระยองโดย ดีป้า เข้ามามีส่วนช่วยส่งเสริมให้สมาชิกในชมรมประยุกต์ใช้อุปกรณ์ไอโอทีกับระบบ Smart Farming ในการควบคุมการให้น้ำแปลงผักแบบอัตโนมัติผ่านการส่งสัญญาณจากเซนเซอร์หรือโทรศัพท์มือถือ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการในการดูแลผลผลิต ยกระดับคุณภาพชีวิต และเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรจาก 1,500 บาทเป็น 1,800 บาทต่อเดือนต่อคน นายณัฐพล กล่าวว่า ดีป้าจะไม่คิดแทน ทำแทน หรือทำให้ แต่จะสอนให้ทุกภาคส่วนคิดเป็น ทำเป็น และทำได้ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ตรวจสอบ และวิเคราะห์การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ก่อนนำไปใช้ประโยชน์ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมประเทศก่อนเข้าสู่ยุคประเทศไทย4.0 ในอนาคตอันใกล้ -สำนักข่าวไทย.

รอง ผบ.ตร.เกาะติดคดี “น้องมิ้นท์” นักศึกษาภูเก็ตเสียชีวิต

ภูเก็ต 24 ส.ค.-“พล.ต.อ.สุชาติ” รอง ผบ.ตร. ลงภูเก็ตประชุมติดตามความคืบหน้าคดีรุ่นพี่สั่งลงโทษ นศ.ปี 1 ซ้อมเชียร์ลีดเดอร์เสียชีวิต พร้อมหารือวางมาตรการร่วมกับสถาบันการศึกษาป้องกันเกิดเหตุซ้ำ ขณะที่รุ่นพี่มอบตัวแล้วให้การภาคเสธ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ผู้กำกับการ สภ.เมืองภูเก็ต และคณะพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ น.ส.พรพิพัฒน์ เอียดดำ หรือน้องมิ้นท์ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต หลังเกิดอาการช็อกหมดสติระหว่างการซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ เมื่อเย็นวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบพยาน ทั้งเพื่อนนักศึกษาที่เสียชีวิต รวมถึงรุ่นพี่ และแพทย์ โดยเฉพาะรุ่นพี่ที่เป็นคนสั่งให้ทำกิจกรรมได้มามอบตัวกับพนักงานสอบสวนแล้ว โดยให้การภาคเสธ รับว่าสั่งทำโทษนักศึกษาจริง แต่ไม่ได้กระทำโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ตามที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังต้องไปสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่อไปว่าการจัดกิจกรรมเป็นความประมาทหรือไม่ และเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายหรือไม่ “เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ใช้ดุลพินิจให้ปล่อยตัวชั่วคราว และยังไม่ได้แจ้งข้อหาบุคคลใดเพิ่ม เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการสอบสวนไม่ครบทุกปาก หากการสอบสวนมีหลักฐานชี้ชัดว่ามีผู้ใดเข้าข่ายน่าจะเป็นการกระทำความผิดร่วม ถึงจะเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ส่วนจะมีผู้เกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหนอยู่ที่ผลการสอบสวนให้ครบทุกประเด็นทุกปากก่อน ทั้งในส่วนของนักศึกษา อาจารย์ที่ปรึกษา รวมถึงเรื่องผลทางแพทย์ก็ยังไม่เรียบร้อย” พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวด้วยว่า ที่มาในวันนี้ เพื่อมาวางมาตรการเกี่ยวกับเรื่องการป้องกันเหตุในลักษณะเดียวกันกับสถานศึกษาให้เกิดความรอบคอบ ไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก โดยได้หารือกับผู้บังคับการฯ […]

ผู้ว่าฯ ตาก สั่งสอบนายก อบต.จัดกิจกรรมจับปลาบึกหน้าวัด แม้ไม่ใช่เขตอภัยทาน

ตาก 24 ส.ค.- ผู้ว่าฯ ตาก ไม่นิ่งนอนใจเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องกรณีกิจกรรมจับปลาบึกหนองน้ำฝั่งตรงวัดที่อำเภอบ้านตาก พร้อมลงพื้นที่หาข้อเท็จจริงและตั้งกรรมการสอบนายก อบต.เกาะตะเภา แม้อ้างทำประชาคมแล้ว แต่ไม่ได้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร และประมงก็ทักท้วง ด้านเจ้าอาวาสระบุไม่ใช่เขตอภัยทาน กรณี อบต.เกาะตะเภา อ.บ้านตาก จ.ตาก จัดกิจกรรมทอดแหในหนองน้ำเล่ม หมู่ 4 บริเวณหน้าวัดพระบรมธาตุ เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ชาวบ้านรู้สึกหดหู่เมื่อเห็นว่ามีการจับปลาบึกตัวใหญ่น้ำหนักประมาณ 150-250 กิโลกรัม ขึ้นมาจากหนองน้ำแห่งนี้ บางตัวถูกชำแหละขาย หรือนำใส่ท้ายรถกระบะเพื่อค้ากำไร ทั้งที่ปลาบึกเหล่านี้มีการนำปล่อยไว้และเชื่อว่าเป็นเขตอภัยทาน ต่อมามีการโพสต์เรื่องนี้ทางโซเชียลร้องขอให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เร่งตรวจสอบโดยเร็ว แม้ อบต.อ้างว่าต้องนำปลาออกจากหนองน้ำ เพราะมีโครงการขุดลอกหนองเล่ม แต่ชาวบ้านมองว่าไม่จำเป็นต้องจัดกิจกรรมล่าชีวิตสัตว์ ควรจับไปปล่อยให้ขยายพันธุ์ที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล อีกทั้งการจัดกิจกรรมทอดแหยังเป็นการฝ่าฝืนประกาศกรมประมง ที่ห้ามล่าสัตว์น้ำในฤดูน้ำแดงหรือฤดูปลาวางไข่ ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน -31 สิงหาคม 2563 ล่าสุด (24 ส.ค.) นายอรรษิษฐ์ เรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องประชุม อาทิ อัยการ ทหาร […]

ดีแทคตั้งเป้าลดการฝังกลบขยะไอที

อยุธยา 24 ส.ค.  ดีแทคตั้งเป้ากำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ไม่มีการฝังกลบภายในปี 2565 นางอรอุมา วัฒนะสุข ฤกษ์พัฒนาพิพัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานสื่อสารองค์กรและความยั่งยืน บริษัท โทเทิ่ล แอคเซ็สคอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ดีแทคได้เริ่มดำเนินการจัดเก็บซากขยะโทรศัพท์มือถือเก่ามาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555  ถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบของเรา จากสถิติที่เก็บได้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา พบว่า ดีแทคสามารถเก็บขยะมือถือได้ถึง 1,774,338 เครื่อง เข้าสู่ระบบรีไซเคิล ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ 22,330,044 กิโลคาร์บอน หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ได้มากถึง 2,481,116 ต้น ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือทุกท่านรวมถึงเพื่อนพนักงานดีแทคจะร่วมกันใส่ใจและจัดการกับซากขยะมือถือที่ใช้งานไม่ได้แล้วอย่างถูกวิธี “ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ดีแทคพยายามกำจัดประกอบด้วย ซากมือถือ โดยดีแทคมีพันธมิตรในการกำจัดขยะอย่างสิ้นเชิงโดยไม่ต้องฝังกลบ , ขยะจากโครงข่ายสัญญาณ ตั้งเป้าไม่มีการฝังกลบในปี 2565 สุดท้ายคือ ขยะจากโอเปอเรชั่น ที่มีตั้งแต่ขยะในสำนักงาน เศษอาหาร ดีแทครวบรวมข้อมูลพบว่าแต่ละปีพนักงาน 1 คน ทำให้มีขยะถึง 37.5 กิโลกรัม ดีแทคจึงมีเป้าหมายจะกำจัดขยะโดยนำไปรีไซเคิ่ลร้อยละ 20 กำจัดโดนเปลี่ยนเป็นพลังงานนำกลับมาใช้ร้อยละ 10-15 “ นางอรอุมากล่าว  นางอรอุมากล่าวอีกว่า ซากอุปกรณ์สื่อสาร ประเภทโทรศัพท์มือถือ เป็นส่วนหนึ่งของซากขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งครองสัดส่วนสูงที่สุดถึงร้อยละ 65 จากจำนวนขยะอันตรายมีพิษทั้งหมด ทั้งนี้ จากสถิติของหน่วยงาน กรมควบคุมมลพิษแถลงสรุปภาพรวมปี 2561 ระบุว่า มีขยะอันตรายมีพิษได้รับการจัดการอย่างถูกต้องเพียงร้อยละ 13 โดยจำนวนนี้ ได้รวมถึง ขยะในกลุ่มอุปกรณ์สื่อสาร โทรศัพท์มือ อุปกรณ์เชื่อมต่อด้วย ดีแทคตระหนักถึงความรุนแรงของผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่จะมีผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพของผู้คนในระยะยาว โดยดีแทคได้ยกระดับมาตรการการจัดการซากโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เชื่อมต่อ ให้เข้มข้นมากขึ้น โดยเปิดโครงการ “ดีแทค ทิ้งให้ดี” ที่เชิญชวนผู้ใช้งานอุปกรณ์สื่อสารที่มีอุปกรณ์สื่อสารที่ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว และยังเก็บไว้ในบ้าน ให้มาทิ้งที่ศูนย์บริการดีแทค ทั้ง 51 แห่งทั่วประเทศ -สำนักข่าวไทย.

1 46 47 48 49 50 16,774
...