รวบ 3 ผู้ต้องหานั่งเก๋งแดงขโมยกล้วยสวนระยอง

ระยอง 14 พ.ย.- จับคาบ้าน! ชุดสืบจากแกลงตามถึง อ.เมือง รวบ 3 ผู้ต้องหา สามีภรรยา-หลาน หลังได้เบาะแสจากวงจรปิดนั่งเก๋งสีแดงถือมีดตัดกล้วยสวนหนี 6 เครือ อ้างคิดว่าเจ้าของไม่หวงเห็นปลูกริมถนน และนำไปขายแล้วหาเงินใช้จ่าย กรณีเจ้าของสวนกล้วยในพื้นที่ ม.5 ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง เข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านกร่ำ เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อช่วยตามจับกุมหัวขโมยกล้วยภายในสวน ทาง พ.ต.ท.ชาญ ปานมณี รอง ผกก.สส.สภ.บ้านกร่ำ และชุดเจ้าหน้าที่ได้เร่งหาเบาะแสและนำกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุมาตรวจสอบปรากฏภาพของขโมยอย่างชัดเจน ขณะขับรถเก๋ง สีแดง ทะเบียน ขจ 4108 ระยอง มาจอดริมสวน จากนั้นมีผู้ชายและผู้หญิงออกมาจากรถพร้อมมีดตรงเข้าไปตัดกล้วยปลูกอยู่ริมถนนใส่รถทั้งหมด 6 เครือ ส่วนในรถยังมีคนนั่งรออยู่ 1 คน เมื่อลงมือแล้วก็ขับรถหนีไป ล่าสุด (14 พ.ย.) ชุดสืบสวนตามจับผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด 3 คน ภายในบ้านพักหมู่ 15 ต.ตะพง […]

ทูต 15 ชาติ เยือนภูเก็ตสร้างความเชื่อมั่นท่องเที่ยวไทย

ภูเก็ต 14 พ.ย.- คึกคัก! สนามบินภูเก็ต รองผู้ว่าฯ “ปิยพงศ์” นำคณะต้อนรับทูตและคู่สมรสจาก 15 ประเทศ เยือน 14-16 พ.ย.นี้ ตามโครงการ Ambassador’s Trip to Phuket 2020 พร้อมชมมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวกลุ่มพิเศษ ที่รัฐบาลมีนโยบายจะผ่อนคลายให้เข้าประเทศ หลังโควิด-19 เพื่อย้ำความเชื่อมั่นท่องเที่ยวไทย วันนี้ (14 พ.ย.) ที่ท่าอากาศยานภูเก็ต นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางณัษฐพร ชูวงศ์ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัด เรืออากาศตรี ธานี ช่วงชู ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต นายโกสินทร์ ผลมั่ง หัวหน้าหนังสือเดินทาง นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ให้การต้อนรับคณะทูตและคู่สมรส จาก 15 ประเทศ เดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต ตามโครงการ Ambassador’s Trip to Phuket 2020ระหว่างวันที่ 14-16 […]

ดีอีเอสจัดหนักพนันออนไลน์

กรุงเทพฯ 13 พ.ย. “พุทธิพงษ์” จัหนักพนันออนไลน์พร้อมเผย 3  เดือน ปิดเว็บพนันแล้ว 1,457 URLs  จับผู้ต้องหาเครือข่ายรายใหญ่ได้ 140  คน  พบเงินหมุนเวียน กว่า 21,000 ล้านบาท  ผนึกกำลังตำรวจเร่งปราบต่อเนื่อง นายพุทธิพงษ์  ปุณณกันต์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยังคงดำเนินการแก้ไขปัญหาพนันออนไลน์โดยได้สั่งการให้กองป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ปท.)ภายใต้กำกับของกระทรวงดิจิทัลฯ เร่งประสานความร่วมมือในการทำงาน ร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) และศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เร่งดำเนินการกวาดล้างเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์อย่างจริงจัง ทั้งนี้พบว่าในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา (ก.ค.- ต.ค.2563) เจ้าหน้าที่สามารถสืบสวนและดำเนินการจับกุมเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ และทำการปิดกั้นการเข้าถึงแล้ว จำนวน 1,457 รายการ(URLs) ได้ผู้ต้องหาในเครือข่ายรายใหญ่ รวม140  คน  มีเงินหมุนเวียนทั้งหมด จำนวน 21,735 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ส่งผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว  และยังคงเร่งดำเนินการปราบปรามเว็บพนันออนไลน์อย่างต่อเนื่อง  โดยบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 4 ,12 และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 อย่างเคร่งครัด-สำนักข่าวไทย.

อภิสิทธิ์แนะนายกฯส่งสัญญาณเรื่องแก้รธน.ให้ชัด

อภิสิทธิ์ แนะ พล.อ.ประยุทธ์ โชว์บทบาทการแก้ รธน.ให้ชัดเจน เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ ขณะอมยิ้มหลังถูกถามเป็นแคนดิเดตนายกฯ กรณีนายกฯลาออก ชี้ ยังไม่เห็นสัญญาณ

ลูกเขยยิงดับแม่ยายปฏิเสธทำแผน รับขัดแย้งกัน

ประจวบคีรีขันธ์ 13 พ.ย.- ตำรวจเตรียมนำตัวผู้ต้องหากระหน่ำยิงแม่ยายเสียชีวิตภายในร้านเมืองประจวบฯ ขอศาลฝากขัง พร้อมค้านประกันตัว ขณะที่เจ้าตัวยอมรับมีปัญหาขัดแย้งกัน หลังแยกกับภรรยา และขอไม่ไปทำแผน พ.ต.อ.สุชิน กิจกสิกร ผกก.สภ.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผย ถึงคดีอุกฉกรรจ์นางกีรฎา นกทอง อายุ 56 ปี รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ห้วยทราย ถูกยิงเสียชีวิตภายในร้านเมื่อเที่ยงวานนี้ (12 พ.ย.) ว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายนัฐวุฒิ พวงน้อย อายุ 34 ปี ลูกเขย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง พกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการสอบปากคำพบว่าผู้ต้องหาเริ่มมีอาการเครียด เบื้องต้นยอมรับว่ามีปัญหาขัดแย้งกับผู้เสียชีวิต หลังแยกกันอยู่กับภรรยาได้ประมาณ 5 เดือน ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้เสียชีวิตที่กลับมาอยู่กับแม่ย่านตลาดต้นเกตุ แต่นายนัฐวุฒิ ยังไปมาหาสู่ เพราะมีลูกชาย อายุ 13 ปี […]

คุมตัวลูกเขยสอบปากคำคดียิงดับแม่ยาย

ประจวบคีรีขันธ์ 12 พ.ย.- ชุดสืบนำตัวลูกเขยวัย 34 ปี สอบปากคำหาชนวนเหตุยิงแม่ยายเสียชีวิตในบ้านพักเมืองประจวบฯ เที่ยงวันนี้ และหนีไปกุยบุรี เมื่อเวลา 19.00 น. (12 พ.ย.) ชุดสืบสวน สภ.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ คุมตัวนายนัฐวุฒิ พวงน้อย อายุ 34 ปี กลับมาสอบปากคำ หลังได้เข้ามอบตัวที่ สภ.บ้านยางชุม อ.กุยบุรี จากการก่อเหตุช่วงเที่ยงวันเดียวกันนี้ใช้อาวุธปืนเข้าไปกระหน่ำยิงนางกีรฎา นกทอง อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นแม่ยาย และเป็นรองนายก อบต.ห้วยทราย อ.เมือง เสียชีวิตภายในบ้านพักที่เปิดเป็นร้านขายของ จากนั้นนายนัฐวุฒิ ขับรถกระบะกลับไปบ้านที่ อ.กุยบุรี ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 70 กิโลเมตร ด้านลูกสาวของผู้เสียชีวิต อายุ 33 ปี ภรรยาของนายนัฐวุฒิ กล่าวว่า อยู่กับนายนัฐวุฒิ มาประมาณ 14 ปี และมีลูกชายด้วยกันอายุ 13 […]

ยิงรองนายกหญิง อบต.ดับคาร้านเมืองประจวบฯ

เกิดเหตุอุกฉกรรจ์! ลูกเขยกระหน่ำยิงแม่ยายเป็นรองนายก อบต.ห้วยทราย เมืองประจวบฯ เสียชีวิตในร้าน ก่อนขับรถกลับไปบ้านพักที่กุยบุรี ห่างกัน 70 กม. ล่าสุดญาตินำตัวพร้อมปืนเข้ามอบตัวที่ สภ.บ้านยางชุม

ดีป้าจับมือสวทช.หนุนพัฒนาไฮเทคสัญชาติไทย

กรุงเทพฯ 12 พ.ย. ดีป้า จับมือ สวทช. ยกระดับผู้ประกอบการ หนุนออกแบบพัฒนาเทคโนโลยีสัญชาติไทย นำร่องอุปกรณ์ไอโอที-โดรนหวังแชร์ส่วนแบ่งตลาด  นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า เทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่ได้เข้ามาปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต และการทำธุรกิจในทุกภาคเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทุกภาคส่วนจึงต้องปรับตัวรับกับความท้าทายและฉวยโอกาสใช้ความเปลี่ยนแปลงให้เกิดประโยชน์สูงสุด อุปกรณ์ IoT และ Drone เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบและพัฒนาอย่างรวดเร็วตามกระแสความนิยม แต่เนื่องจากยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานอย่างชัดเจน การออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยคำนึงถึงการใช้งานแต่ไม่ได้คำนึงถึงมาตรฐานอาจทำให้ผู้ใช้งานเกิดความเสี่ยง เช่น ผลิตภัณฑ์เสื่อมสภาพเร็ว ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือ ไม่สามารถทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว ดีป้าจึงได้ร่วมกับ สวทช. จัดทำหลักสูตรการเรียนรู้ด้านมาตรฐาน และการทดสอบอากาศยานไร้คนขับ และ IoT ประกอบด้วยการถ่ายทอดความรู้ทั้งทางทฤษฎี และปฏิบัติ เพื่อยกระดับทักษะและเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ​“ดีป้าเล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว และตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการส่งเสริมอุตสาหกรรมและธุรกิจโดยเฉพาะผู้ประกอบการที่เป็นสตาร์ทอัปและธุรกิจเอสเอ็มอี ที่พัฒนาเทคโนโลยี Internet of Things (IoT)  รวมถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ ดีป้าจึงได้ร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ จัดทำมาตรฐานสำหรับอุปกรณ์ IoT ที่ผลิตโดยนักพัฒนาและผู้ประกอบการในประเทศ เช่น กล้องวงจรปิด อากาศยานไร้คนขับโดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างมาตรฐานเป็นแนวทางให้ผู้ผลิตอุปกรณ์สามารถยกระดับการพัฒนาและการผลิตให้สามารถนำออกให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมั่นใจตามหลักมาตรฐานสากล และยังสามารถต่อยอดสู่การขอรับเครื่องหมาย dSure (ดีชัวร์) เพื่อผลักดันสู่ตลาดในประเทศต่อไป”นายณัฐพล กล่าว ​ด้าน นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช. ) กล่าวว่า สวทช. เชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศโดยเฉพาะการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศและSMEs ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง จึงวางนโยบายโดยใช้ยุทธศาสตร์ด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของสากลเป็นแนวคิดหลัก และนำเอาความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value added) ให้แก่ผลิตภัณฑ์ ให้มีคุณภาพน่าเชื่อถือ มีความปลอดภัยต่อการใช้งาน  และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจปัจจุบัน การลงทุนเพิ่มเติมเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานสากลเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากสำหรับภาคอุตสาหกรรมขนาดกลาง,เล็ก (SME) และ startup เพราะนั่นหมายถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ยิ่งหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐฯ การอยู่รอดของภาคอุตสาหกรรมในสภาวะเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบันยิ่งเป็นเรื่องที่ยากขึ้นไปอีก สวทช. จึงวางบทบาทการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ไทยยังคงเป็นฐานการผลิตใหญ่สำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนต่อไป ​“เพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมในประเทศมากยิ่งขึ้น สวทช. มีการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานด้านคุณภาพของประเทศ(National Quality Infrastructure: NQI) เพื่อให้ภาคเอกชนมีต้นทุนต่ำลงแต่มีมาตรฐานสูงขึ้น โดยนำองค์ความรู้ นักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญและ ห้องปฏิบัติการทดสอบที่มีอยู่มาใช้ในการขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อก่อให้เกิดมาตรฐานผลิตภัณฑ์ใหม่และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพิ่มมูลค่าสินค้าและลดต้นทุน รวมถึงพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการให้มีความเข้มแข็งและแข่งขันได้ในเวทีโลกได้ เพื่อรองรับ Disruptive technology ไม่ว่าจะเป็น Internet of Thing Smart Products  และ โดรนเป็นต้น” นายณรงค์ กล่าว-สำนักข่าวไทย.

ไทยคมแจงดาวเทียมไทยคม5 ทำตามสัญญา

กรุงเทพฯ 12 พ.ย. ไทยคมแจง ปมดาวเทียมไทยคม5 ยันดำเนินการตามครบตามสัญญา นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) แถลงชี้แจงกรณีข้อเรียกร้องของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)  เกี่ยวกับดาวเทียมไทยคม 5 ว่า ตามที่กระทรวงดิจิทัลฯ เรียกร้องให้ บริษัท ดำเนินการสร้างและส่งมอบดาวเทียมทดแทนไทยคม 5 หรือชดใช้ค่าเสียหายเป็นราคาดาวเทียมซึ่งนำไปสู่กระบวนการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการนั้น บริษัท ขอชี้แจงว่า บริษัท ได้ดำเนินการจัดส่งดาวเทียมขึ้นให้บริการครบถ้วนตามเงื่อนไขของสัญญาสัมปทานแล้ว จึงไม่มีหน้าที่ต้องจัดสร้างดาวเทียมดวงใหม่มาทดแทนดาวเทียมไทยคม 5 ตามข้อเรียกร้องโดยในปัจจุบันยังมีดาวเทียมอีก 2 ดวงคือไทยคม 4 และไทยคม 6 ที่ บริษัท ได้โอนกรรมสิทธิ์ให้กับกระทรวงฯ แล้วและยังมีอายุวิศวกรรม ระยะเวลาสิ้นสุดสัมปทานซึ่งกระทรวงฯ สามารถนำไปบริหารจัดการต่อไป “สัญญาสัมปทานดาวเทียมไทยคมเกิดขึ้นมานานเกือบ 30 ปีโดยมีการกำหนดเงื่อนไขในเชิงกรอบดำเนินการและหลักการปฏิบัติและมีการอ้างอิงกับแผนดำเนินการที่ บริษัท เสนอและกระทรวงฯ ได้ให้ความเห็นชอบโดยเน้นความต่อเนื่องของบริการดาวเทียมตลอดอายุสัญญาในแผนดำเนินการที่ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญากำหนดให้ บริษัท จัดสร้างดาวเทียม 2 ชุดรวม 4 ดวง (อายุของดาวเทียมมีอายุ15ปี เมื่อทำสัญญา 30 ปีจึงต้องมีดาวเทียม 2 ชุด ) โดยแต่ละชุดประกอบด้วยดาวเทียมหลักและดาวเทียมสำรองและเมื่อสัญญาสิ้นสุดลงดาวเทียมที่ยังมีอายุวิศวกรรมเหลือใช้งานได้อยู่กระทรวงฯ ก็สามารถนำไปบริหารจัดการเลยระยะต่อไป”นายอนันต์ กล่าว  นายอนันต์ กล่าวอีกว่า การดำเนินการตามสัญญาจนถึงปัจจุบัน บริษัท ได้มีการจัดสร้างและโอนกรรมสิทธิ์ดาวเทียมให้รัฐไปแล้ว 6 ดวงมากกว่าที่กำหนดไว้ในแผนกรณีการขัดข้องของดาวเทียมไทยคม 5 ซึ่งเป็นเหตุให้ต้องปลดระวางไปนั้นกระทรวงฯทราบถึงอายุการใช้งานของดาวเทียมไทยคม 5 ตามที่ออกแบบไว้ในขณะที่ขออนุมัติจัดส่งว่าดาวเทียมไทยคม 5 จะครบอายุการใช้งานตามที่ออกแบบไว้ (ครบอายุในปี 2561) และเมื่อเกิดกรณีการขัดข้องของดาวเทียมไทยคม 5 เนื่องจากการใช้งานเกินกว่าอายุที่กำหนดซึ่งเป็นเหตุให้ต้องปลดระวางในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 บริษัท มีการหารือกับกระทรวงฯ และกสทช. ล่วงหน้าและแจ้งแผนการปลดระวางให้ทุกฝ่ายทราบและขออนุมัติก่อนนอกจากนั้น บริษัทได้นำส่วนแบ่งรายได้จากลูกค้าที่ได้รับผลกระทบนำส่งกระทรวงเป็นค่าชดเชยรวมถึงเจรจากับ บริษัท ประกันภัยเพื่อนำเงินสินไหมทดแทนส่งมอบกระทรวงฯ ต่อไปและ บริษัท ยังคงมีดาวเทียมไทยคม 4 และดาวเทียมไทยคม 6 สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่องตลอดอายุสัญญาสัมปทานและเมื่อสัญญาสิ้นสุดลงกระทรวงฯ ก็สามารถนำดาวเทียมทั้งสองดวงไปบริหารจัดการต่อไปซึ่งเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาสัมปทานแล้ว  บริษัท จึงมีความเห็นว่า บริษัท ได้ดำเนินการครบถ้วนแล้วโดยรัฐไม่เสียประโยชน์ แต่อย่างใดเนื่องจาก บริษัท ได้นำดาวเทียมขึ้นให้บริการและโอนกรรมสิทธิให้กับกระทรวงแล้วครบถ้วนตั้งแต่จัดส่งดาวเทียมและยังได้ชำระค่าส่วนแบ่งรายได้ของดาวเทียมทั้ง 6 ดวงรวมกันจนถึงปัจจุบันเป็นเงิน 13,792.23 ล้านบาทขณะที่จำนวนขั้นต่ำที่กำหนดไว้ในสัญญาคือ 1,415 ล้านบาทอีกทั้ง บริษัท ยังมีส่วนสำคัญในการเสาะแสวงหาวงโคจรให้กับประเทศและช่วยดำเนินการรักษาวงโคจรดาวเทียมไม่ให้ประเทศไทยต้องเสียสิทธิตลอดมาและรัฐยังได้รับการส่งมอบดาวเทียมบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตที่เป็นดาวเทียมดวงแรกของโลกอันถือเป็นชื่อเสียงของประเทศและเป็นประโยชน์ต่อบริการสาธาณะและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศเช่นญี่ปุ่นอินเดียออสเตรเลีย บริษัท ขอยืนยันว่าตลอดระยะเวลาในสัมปทาน บริษัท มีการดำเนินการที่เปิดเผยโปร่งใสต่อเจ้าหน้าที่รัฐมาโดยตลอดผ่านกระบวนการเห็นชอบและอนุมัติดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในสัญญาและความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐในการนำส่งรายได้ตามสัญญาจัดฝึกอบรมให้เจ้าหน้าที่ของรัฐตรวจสอบเอกสารตรวจสอบทรัพย์สินอย่างต่อเนื่องมาทุกปี บริษัท เชื่อมั่นว่า บริษัท ได้ดำเนินการเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญาโดยครบถ้วนถูกต้อง-สำนักข่าวไทย.

พบข่าวลวงสร้างความสับสนเกี่ยวกับ 5G

กรุงเทพฯ 12 พ.ย. ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการโทรคมนาคมชี้พบกระแสสร้างข่าวลวงทำความสับสนต่อเทคโนโลยี5G แนะหาข้อมูลประกอบพิจารณาอย่างรอบคอบ นายเจษฎา ศิวรักษ์  หัวหน้างานฝ่ายรัฐกิจและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท อิริกสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากการประชุมออนไลน์ GLORE2020  Global Coordination of Research and Health Policy on RF Electromagnetic Fields) ระหว่างวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2020 การประชุมนานาชาติเกี่ยวกับการวิจัยและความร่วมมือในเรื่องนโยบายสุขภาพบนสนามคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีประเด็นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสื่อสารและสุขภาพทหลายเรื่อง อาทิ ตัวแทนของ เทลสตาร์ ผู้ให้บริการ 5G จากออสเตรเลียได้พูดในประเด็นที่น่าสนใจเรื่องประสบการณ์ 5G ได้รับการต่อต้านจากประชาชนในความเชื่ออย่างไม่มีเหตุผลเช่น  5G  ยังไม่ได้มีการทดสอบว่ามีอันตรายต่อสุขภาพ , 5G เป็นแหล่งปล่อยไวรัส โควิด-19 เมืองไหนมี 5G ก็จะมีผู้ติดเเชื้อเป็นจำนวนมาก เช่น สหรัฐอเมริกาติดตั้ง 5G เป็นประเทศแรก ๆ ของโลก ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิทเป็นจำนวนมาก หรือหลายเมืองในยุโรปก็มีการระบาดของโคโลน่าไวรัสตามเมืองที่มีการติดตั้ง5G และ 5G ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ต้นไม้ไม่เจริญเติบโต หรือเป็นเหตุให้นกจำนวนมากตายลง ดังเช่นเหตุการณ์การตายหมู่ของนกตัวเล็กๆ ในสวนสาธารณะในยุโรป 5G ส่งผลกระทบต่อ DNA ของเราอาจเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งชนิดต่างๆ ได้ มีการเปรียบเทียบเหมือนการปล่อยคลื่นในเตาไมโครเวฟ ที่ทำให้ความร้อนในผิวหนับมันสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เทลสตาร์ได้ลงทุนว่าจ้างดาราตลกมาร์ค ชาวออสเตรเลียมาสวมบทบาทเป็น 5G Chief Investigator มาทำคลิปให้ข้อมูลความจริงต่อสาธารณชนผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ เพื่อลดความตื่นตระหนกของสังคม  นายเจษฎา กล่าวอีกว่า การปั่นกระแสเรื่องความน่าหวาดกลัวของ 5G ให้กับประชาชน มีคนที่ฉวยโอกาสในการสร้างเรื่องอุปกรณ์ Anti-5G Bio Shield ที่หน้าตาคล้าย USB Drive โดยมีการโหมสร้างความน่าเชื่อถือว่า อุปกรณ์ตัวนี้มีเทคโนโลยี Quantum holographic catalyzer technology ที่จะสร้างม่านครอบตัวผู้ใช้ที่มองไม่เห็น มีความสามารถป้องกันอันตรายให้กับผู้ใช้ได้เป็นอย่างนี้  ซึ่งได้มีการสร้างความน่าเชื่อถือขึ้นไปอีกเป็นการสร้างเอกสารที่คล้ายจะเป็นวิชาการจำนวน 25 หน้า ที่อธิบายสรรพคุณของอุปกรณ์ตัวนี้ มีการบอกระยะของการครอบคลุมป้องกันคลื่น 5G โดยทั้งนี้อุปกรณ์ Anti-5G Bio shield จำหน่ายอยู่ในราคา 350 เหรียญสหรัฐ (ราคาประมาณหนึ่งหมื่นบาท)  โดยทางBBC ได้มีการนำอุปกรณ์ตัวนี้มาผ่าดูเพื่อให้รู้ว่าเป็นอุปกรณ์อย่างที่โม้ไว้หรือไม่ ผลปรากฏว่าทีมตรวจสอบของ BBC ชี้ชัดว่าเจ้าอุปกรณ์ป้องกันคลื่น 5G นี้ไม่มีอะไรแตกต่างไปมากกว่า  128MB USB Stick ธรรมดาๆราคาประมาณ  6-7 เหรียญสหรัฐ สรุป คือเอาอุปกรณ์หลักไม่กี่ร้อยมาขายในราคาหลักหมื่น ด้วยการฉวยโอกาสสร้างกระแสความกลัวในเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล มีการเปิดเวปไซด์  5GBioShield เพื่อสร้างความเข้าใจในเรื่อง5G อันตรายต่อสุขภาพอย่างผิดๆ และเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายโดยยังไม่ได้มีใครไปดำเนินการกับเว็บไซด์อันนี้อยู่ ข่าวแบบนี้มีออกมาอีกมากคิดว่าการไปทำการปิดกั้นคงทำไม่ได้ แต่หน่วยงาน หรือสมาคมที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านนี้น่าจะมีการพิสูจน์แล้วให้ความรู้กับภาคประชาชนน่าจะได้ผลมากกว่า เช่น กรณี BBC ร่วมกับพันธมิตร Pentest Partner พิสูจน์ให้เห็นความจริงแล้วนำมาให้ข้อมูลกับสาธารณชนวิธีนี้น่าจะดีกว่า ด้านนายสืบศักดิ์ สืบภักดี เลขาธิการสมคมโทรคมนาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีข่าวลวงหรือเฟคนิวส์เกี่ยวกับ 5G เกิดขึ้นจำนวนมาก น่าแปลกใจทีาหลายข่าวยังออกมาเรื่อยๆ และที่สำคัญเป็นกลุ่มก้อนและออกมาจากประเทศที่ค่อนข้างเจริญ หรือผู้คนมีการศึกษา อาทิ ยุโรป ออสเตรเลียก็มีในประเทศกลุ่มเอเซียกลับไม่ค่อยมีข่าวทำนองนี้ ข่าวที่พบมากที่สุดน่าจะเป็นเรื่องความกังวลเกี่ยวกับคลื่นว่ามีจะมีผลต่อกับสุขภาพหรือ โดยพบว่ามีการใช้หลักวิชาการและหลักฐานอธิบายเทียบเคียงทำให้เชื่อ นายสืบศักดิ์ กล่าวอีกว่า เท่าที่ตามข่าว เว็บหรือกลุ่มที่นำเสนอน่าจะเป็นบล็อกเกอร์ที่มีเจตนาสร้างเรื่องเพื่อเพิ่มยอดคลิ๊ก จะสังเกตได้ว่าข่าวที่ออกมามีแปลกๆ แบบหลุดโลกไร้หลักวิชาการไปเลย แบบทำนกตาย พอโควิดมาก็บอกว่า5Gกระจายโควิด ข่าวลวงที่เกิดขึ้น ผู้บริโภคข่าวสารอาจสังเกตว่าหัวข้อหรือเนื้อข่าวจะออกแนวไม่น่าเป็นไปได้ อาทิ5G แพร่ไวรัสโควิด หรือทำนกตาย หรือ มี usb ที่เสียบกับคอมฯแล้วสร้างเกราะกำบังกันคลื่น ทำนองนี้สามารถพิจารณาได้เลยเบื้องต้นว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ และไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งไม่ควรทั้งเชื่อและส่งต่อให้ความเข้าใจผิดๆ กระจายไปแม้จะมองในแง่ขบขำก็ตาม ส่วนประเด็นที่อาจก่ำกึ่งฟังดูอ่านจะมีความเป็นไปได้หรือเป็นประเด็นข้อกังวลสงสัยอาจใช้วิธีหาข้อมูลอื่นๆ ประกอบหรือแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ ทั้งนี้ถ้าประเด็นข้อกังวลใดมีผลกระทบผู้คนเป็นวงกว้างก็ย่อมจะมีข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศยืนยันความชัดเจนเเละถูกต้อง-สำนักข่าวไทย.

1 9 10 11 12 13 16,774
...