เสนอ 5 Big Rock ปฏิรูปด้านพลังงาน หวังผลสำเร็จปี 65

เมืองทองธานี 3 ก.ย. – คณะกรรมการปฏิรูปฯ  เสนอ 5 Big Rock ปฏิรูปด้านพลังงาน  หวังผลสำเร็จปี 65  เร่งรัด One Stop Service  ปฏิรูปโครงสร้างกิจการไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติ พัฒนาศูนย์ข้อมูลพลังงานแห่งชาติ  รองรับนโยบาย “พลังงานร่วมใจ รวมไทยสร้างชาติ” รวมใจขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ด้านพลังงาน เพิ่มการลงทุน  จ้างงาน สร้างรายได้


นายพรชัย รุจิประภา ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน เปิดเผยว่า การรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อปฏิรูปพลังงาน ต้องทบทวนหลังได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ต่อภาคพลังงานในครึ่งแรกของปี  2563 จีดีพีไตรมาส 2 หดตัวร้อยละ 12 พบว่ากระทบความต้องการใช้พลังงานลดลง การใช้ไฟฟ้าชะลอตัวร้อยละ 14 น้ำมันชะลอตัวร้อยละ 12.6 น้ำมันเครื่องบินหดตัวร้อยละ 50 แทบจะหยุดบินทุกราย หลังจากต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้าไทย แอลพีจีหดตัวร้อยละ 11.6 คณะกรรมการปฏิรูปจึงต้องทบทวนหลายปัจจัย หากหลายประเทศค้นคว้าวัคซีนได้สำเร็จจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกส่วน เมื่อการใช้ไฟฟ้าลดลง จึงมีปริมาณสำรองไฟฟ้าสูงขึ้น การใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้าลดลง ขณะที่ความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งภาคอุตสาหกรรมและการขนส่ง

สำหรับโจทย์สำคัญของภาคพลังงานไทย หลังจากเผชิญโควิด-19  ยังเป็นปัญหาต่อเนื่องทั่วโลก ด้านพลังงานจึงต้องเข้าไปขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวมด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากภาคพลังงานเพิ่มการลงทุน เพื่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ พร้อมกับดูแลราคาพลังงานไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน “ให้นโยบายพลังงาน ลดเหลื่อมล้ำและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน” คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงานจึงเสนอ 5 ประเด็นเร่งด่วน  Big Rock หรือกิจกรรมสำคัญ มีผลกระทบสูงต่อการขับเคลื่อนประเทศ เพื่อเปลี่ยนแปลงพลังงานไทย  ต้องเร่งเห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วภายในปี 2565


นายมนูญ ศิริวรรณ รองประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน กล่าวว่า  5 Big Rock ปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน ได้แก่ กิจกรรมการปฏิรูปที่ 1 การจัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ด้านการกำกับกิจการพลังงาน เพื่อลดระยะเวลาและขั้นตอนการอนุญาตที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน ปลดล็อกข้อจำกัดและขั้นตอนการลงทุน สร้างความเชื่อมั่น กระตุ้นการลงทุนด้านพลังงาน เช่น การสร้างโรงไฟฟ้า ต้องยื่นขออนุญาตจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเพียงหน่วยงานเดียว เพราะแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.โรงงาน และอีกหลายด้าน เพื่อให้เกิดความคล่องตัว

กิจกรรมการปฏิรูปที่ 2 การพัฒนาศูนย์สารสนเทศพลังงานแห่งชาติ (NEIC) ควรเป็นหน่วยงานอิสระ จากกระทรวงพลังงาน เพื่อความคล่องตัว  เพื่อประโยชน์ต่อการวางแผน  การตัดสินใจเชิงนโยบาย และเป็นศูนย์กลางแหล่งข้อมูลด้านพลังงาน ปร่งใส แม่นยำ เชื่อถือได้  จึงต้องเร่งสร้าง Branding NEIC ให้เป็นที่น่าเชื่อถือผ่านการจัดตั้งกลไกกลั่นกรองข้อมูลที่เป็นระบบและมีรูปแบบสื่อสารที่เข้าใจง่าย เพื่อลดการบิดเบือนข้อมูล สร้างเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญผ่านกลไกผู้บริหารสารสนเทศระดับสูง (CIO) ร่วมกับพลังงานจังหวัด สื่อมวลชน และเครือข่าย Social ด้านพลังงาน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าใจข้อมูลด้านพลังงานได้อย่างถูกต้อง ลดความขัดแย้ง และนำมาซึ่งความเชื่อมั่นต่อนโยบายพลังงาน

นายคุรุจิต นาครทรรพ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน กล่าวว่า  กิจกรรมการปฏิรูปที่ 3 มาตรการธุรกิจบริษัทจัดการพลังงาน ESCO ภาครัฐ เพื่อให้เป็นองค์กรตรวจสอบการประหยัดพลังงานให้กับบริษัทเอกชนในการปรับปรุงทุกด้านเพื่อประหยัดพลังงาน เช่น ซีพี เปลี่ยนหลอดไฟ ใช้พลังงานทดแทนประหยัดเงินได้กว่า 700-800 บาท เพื่อให้บริษัทจัดการพลังงาน ESCO ภาครัฐ ให้เป็นช่วยลงทุนหรือปรึกษา หวังเปลี่ยนค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคเป็นการจ้างเอกชนมาลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนและอนุรักษ์พลังงานให้อาคารของรัฐ  ไม่ได้กระทบต่องบประมาณรัฐ และยังช่วยประหยัดไฟฟ้าทำให้หน่วยงานรัฐ  เช่น  โรงพยาบาล  โรงเรียนของรัฐ สามารถนำผลประหยัดพลังงานที่เกิดขึ้นจริงมาจ่ายเป็นค่าบริการบริษัทจัดการพลังงาน หน่วยงานรัฐใช้ไฟฟ้า 47,000 ล้านบาทต่อปี หากประหยัดร้อยละ 10 ประหยัดงบได้ถึง 5,000 ล้านบาท


กลุ่มเป้าหมายระยะแรก 876 อาคารรัฐ หวังช่วยประหยัดพลังงานภาครัฐคิด  2,600 ล้านบาทต่อปี ลดงบประมาณด้านซ่อมบำรุงและความเสี่ยงในการจัดซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าและการติดตั้งเทคโนโลยีโซลาร์รูฟที่ไม่มีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve) อาทิ ระบบ Censor เครื่องมือ/อุปกรณ์ไฟฟ้าอัจฉริยะ เพื่อต่อยอดไปสู่ Smart home/ Smart Building โดยองค์กรพลังงานระหว่างประเทศ (IEA)  คาดว่าช่วยสร้างงานใหม่ให้กับประเทศ ไม่น้อยกว่า 37,500 ตำแหน่ง ในระยะ 10 ปีข้างหน้า

สำหรับกิจกรรมการปฏิรูปที่ 4 การพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ระยะที่ 4 เพื่อสร้างฐานทางเศรษฐกิจใหม่ (New S-Curve)  เพราะโรงกลั่นอายุส่วนใหญ่เกิน 60 ปี ปิโตรเลียมยังจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน จึงต้องยกระดับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ยกระดับขีดความสามารถการแข่งขัน เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้ให้กับประชาชนจากอุตสาหกรรมต่อเนื่อง พร้อมรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนประเทศเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0

ส่วนกิจกรรมการปฏิรูปที่ 5 ปฏิรูปโครงสร้างกิจการไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติ โดยปฏิรูปแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย PDP 2022 ทั้งด้านการบริหารและโครงสร้างราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม เพื่อเพิ่มการแข่งขันและประสิทธิภาพในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี เปลี่ยนระบบการผลิตจากรวมศูนย์สู่กระจายศูนย์ แยกระบบส่งและศูนย์ควบคุมระบบไฟฟ้าออกจากกิจการผลิตไฟฟ้า เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ไฟฟ้ามีทางเลือกมากขึ้น รวมทั้งการผลิตใช้เองและขายเข้าระบบ พร้อมปฏิรูปการบริหารจัดการของ 3 การไฟฟ้าให้ประสานเชื่อมโยงแผนลงทุน และแผนปฏิบัติการให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนการปฏิรูปด้านก๊าซธรรมชาติจะต้องจัดหาก๊าซฯ ให้มีความต่อเนื่องไม่เกิดการหยุดชะงักทั้งแหล่งอ่าวไทย และแหล่งอื่น ๆ รวมถึงเร่งแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างประเทศ

คณะกรรมการปฏิรูปฯ จึงนำความเห็นจากทุกภาคส่วนนำไปปรับปรุงร่างแผนการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน ฉบับที่ 2 Big Rock ให้สมบูรณ์ ก่อนนำเสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบร่างแผนปฏิรูปประเทศประมาณเดือนพฤศจิกายน 2563 และรายงานต่อรัฐสภาเพื่อทราบ และประกาศบังคับใช้ต่อไป โดยประชาชนและผู้สนใจสามารถให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ได้ที่ Thaienergyreform2017@gmail.com หรือทางไปรษณีย์ถึงสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน) เลขที่962 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100 รายละเอียดเพิ่มเติม http://nscr.nesdb.go.th ภายในวันที่ 6 กันยายน 2563 .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย